ผัวโหด ! ชักปืนยิงเมียสาหัส หลังง้อไม่สำเร็จ | เบื้องหลังข่าว กับ กาย สวิตต์

326 ครั้ง

10 เม.ย. 2567

แชร์ข่าวไปที่

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ผัวง้อเมียไม่สำเร็จ ชักอาวุธปืนยิงเมียต่อหน้าญาติ ที่นั่งกันอยู่ในบ้านหลายคน มีเด็ก 7 ขวบ นอนเล่นอยู่ด้วย พอทั้งหมดได้ยินเสียงปืน ต่างพากันวิ่งหลบหนีเข้าไปหลบในห้องน้ำ เมียถูกยิงบาดเจ็บสาหัส ต้องกระเสือกกระสนตัวเองวิ่งเข้าไปหลบในห้องน้ำด้วย ก่อนเกิดเหตุผัวรายนี้ชื่อ นายนุ เดินวนอยู่รอบบ้าน โต้เถียงอยู่กับผู้ใหญ่บ้านซึ่งญาติของเมีย อยู่สักพักหนึ่ง

เป็นคลิปก่อนเกิดเหตุเพียงไม่กี่วินาที นายนุพยายามพูดง้อเมีย ขอให้เมียถอนแจ้งความในคดีทำร้ายร่างกาย เพราะตนจะติดคุก เนื่องจากก่อนหน้านี้ตนไม่ได้ไปรายงานตัวกับศาลในคดียาเสพติด ในคลิปจะเห็นผู้ใหญ่บ้านพยายามอธิบายให้นายนุเข้าใจ แต่ไม่เป็นผล

เมื่อคืนนี้ ดร.ชัยเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ ดร.แก้ว ประธานคณะกรรมการตรวจสอบ และติดตามบริหารงานตำรวจ ลงพื้นที่ไปบ้านที่เกิดเหตุ ในตำบลขุนศรี อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี หลังจาก นางสุนิษา ลาสะมอ อายุ 57 ปี และนางสาวศิรินทร์ทิพย์ บุญเพ็ชร อายุ 43 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ตำบลขุนศรี ติดต่อมาขอความช่วยเหลือ

กรณีเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 16.30 น. นายอนุชา ศรีจำปาทอง หรือ นายนุ อายุ 33 ปี ได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบชนิด ยิงลูกสาวคือ นางสาวธีรดา ผู้ดี หรือน้องวิน อายุ 33 ปี กระสุนปืนเฉี่ยวศีรษะ ถูกกลางหลังฝังทะลุอยู่ในปอด ได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังตามง้อไม่สำเร็จ ก่อนจะขับขี่รถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีดำ หมายเลขทะเบียน 2 ฒฉ 1787 กทม. หลบหนีไป จากนั้นผู้ก่อเหตุย้อนกลับมาวนเวียนอยู่ในพื้นที่ ทำให้ต้องอยู่อย่างหวาดผวา

นางสาวศิรินทร์ทิพย์ บุญเพ็ชร อายุ 43 ปี ผู้ใหญ่บ้านตำบลขุนศรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 เมษายน ตนได้รับการประสานจาก นางสุนิษา ให้ไปรับน้องวิน หลังโดนสามีชื่อ นายนุ ตบตีหลบอยู่ในปั๊ม ตนจึงรีบไปรับแล้วพาน้องวินไปแจ้งความ เพราะโดนสามีตบตีมาหลายครั้งแล้ว ได้ลงบันทึกประจำวันไว้ แล้วกลับมาบ้าน

หลังจากนั้นตอนเย็นวันเดียวกัน นายนุ ได้มาเก็บของที่บ้าน ตนจึงให้น้องวินหลบออกจากบ้านไปก่อน เพราะกลัวว่าจะถูกทำร้ายอีก นายนุ ขนของกลับบ้านไปเสร็จ ได้นำรถจักรยานยนต์ และเอกสารของน้องวินไปด้วย ตนได้จึงโทรศัพท์ไปหาผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ที่ นายนุ อยู่ ให้เอารถจักรยานยนต์มาคืน พอตกกลางคืน นายนุ ได้นำรถจักรยานยนต์มาคืน แต่ก็เอารถจักรยานยนต์อีกคันอีก โดยบอกว่าจะเอาไปใช้

หลังจากเอารถจักรยานยนต์ไปแล้ว ได้ขับรถไปตาม น้องวิน ตามที่ทำงานและบ้านเพื่อน สร้างความเดือดร้อนรำคาญ จนวันที่เกิดเหตุวันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน ตอนเช้า ทางแม่ของน้องวินโทรมาตามให้ตนเข้ามาที่บ้าน พบว่า นายนุ นอนอยู่บนเปลหลังบ้าน ตนเลยสอบถามว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร ตนจะไกล่เกลี่ยให้ เลยกันไปไกล่เกลี่ยที่ สภ.ไทรน้อย ทางนายนุ พยายามจะขอคืนดีกับ น้องวิน แต่น้องวินยืนยันว่าจะเลิก และไม่ถอนแจ้งความคดีที่ถูก นายนุ ทำร้ายร่างกาย เลยลงบันทึกประจำวันกันเป็นครั้งที่ 2 ว่าจะเลิกแล้วต่อกัน ไม่ยุ่งเกี่ยวใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ก่อความเดือดร้อนรำคาญทาง นายนุ ยอมเซ็นแต่มีอาการโมโห จากนั้นก็แยกย้ายกันกลับ

หลังกลับบ้านมา พบว่า นายนุ มารออยู่ที่บ้านน้องวินแล้ว นายนุขึ้นไปอยู่บนห้อง จากนั้นได้ยินเสียงปึงปังในห้องที่ นายนุ อยู่ ตนจึงรีบวิ่งขึ้นไปดู พบ นายนุ เหมือนจัดฉากผูกคอตาย เอาเชือกผูกกับขื่อ แล้วเอาถังวางตัวนอนอยู่ที่พื้น ทำให้ นายนุ ไม่พอใจชี้หน้าด่าตนที่รู้ทัน ก่อน นายนุ จะรีบกลับออกจากบ้านไป พอผ่านไปไม่ถึง 5 นาที นายนุ กลับเข้ามาอีกครั้ง อ้างว่าจะมาเอาเครื่องเสียง ตอนนั้นตนนั่งจับกลุ่มคุยกันอยู่กับญาติหลายคนภายในบ้าน รวมทั้งน้องวิน จากนั้น นายนุ ได้เดินไปเดินมารอบบ้าน มาโผล่ที่หน้าต่างพยายามพูดง้อน้องวิน ตอนนั้นน้องวินนั่งพิงเสาปูนอยู่ โดยหันหลังให้ นายนุ

นายนุ จึงได้ตะโกนมาว่า มึงจะเอาแบบนี้ใช่ไหม ก่อนจะชักอาวุธปืนออกมายิงน้องวินจำนวน 1 นัด กระสุนเฉี่ยวศีรษะทะลุหลังไปฝังที่ปอด คนในบ้านต่างพากันวิ่งหลบหนีกระเจิง หลานตนวัยไม่กี่ขวบวิ่งเข้าไปหลบในห้องน้ำ หลังก่อเหตุ นายนุ ได้หลบหนีไป ตนจึงรีบพาน้องวินไปส่งโรงพยาบาล หมอบอกว่า ไม่สามารถผ่าลูกกระสุนออกได้ เนื่องจากจะเกิดอันตราย ตอนนี้ต้องเจาะปอดเอาซิเจนออก เพราะหายใจติดขัด จากนั้นตนกับแม่ของน้องวินจึงได้เดินทางเข้าไปแจ้งความที่ สภ.ไทรน้อย

เรื่องนี้คิดว่าจะจบด้วยการที่ผู้ก่อเหตุหลบหนี แต่ไม่เป็นอย่างนั้น เพราะเมื่อวานตอน 20.00 น. มีคนเห็น นายนุ ขับรถกระบะมาแถวบ้านตนอีก ตอนนี้ต้องอยู่กันอย่างหวาดกลัว เพราะที่บ้านนี้มีแต่ผู้หญิงทั้งบ้าน มีทั้งเด็ก ทั้งคนแก่ ตอนนี้ตนกับญาติจึงต้องย้ายไปอยู่นอกพื้นที่ก่อน

นางสุนิษา อายุ 57 ปี กล่าวว่า ลูกสาวตนคบกับลูกเขยได้ 2 ปี ตอนแรกแอบคบกัน โดยลูกสาวไปอยู่ที่บ้านของผู้ชาย พอตนจึงจัดพิธีผูกข้อไม้ข้อมือให้ถูกต้อง หลักจากทั้งคู่กลับมาอยู่ที่บ้านตนด้วยกัน ได้ นายนุ ได้ทำร้ายลูกสาวตนบ่อยมาก เรื่องลูกสาวตนไม่มีเงินให้ ดร.แก้ว กล่าวว่า ตนได้ประสานงานกับตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรีให้ช่วยเร่งรัดคดีในการจับกุมผู้ต้องหารายได้ให้ได้ไวที่สุด ตอนนี้ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไทรน้อย ให้เข้ามาตรวจดูแลให้บ่อยขึ้น คาดว่าไม่เกิน 1-2 วัน จะสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้

ล่าสุด พลตำรวจเอก เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.ไทรน้อย กล่าวว่า ตอนนี้ ศาลจังหวัดนนทบุรีได้อนุมัติหมายจับแล้ว ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาติ พกปืนไปที่สาธารณะ ซึ่งตอนนี้ฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างติดตามตัว เนื่องจากทางผู้ก่อเหตุไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง

แต่เมื่อช่วงกลางดึกเมื่อคืนที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไทรน้อย ได้รับการแจ้งเบาะแสว่าพบผู้ก่อเหตุไปอยู่ที่โรงพยาบาลที่ทางผู้บาดเจ็บได้พักรักษาตัวอยู่ แต่พอกำลังตำรวจไปถึง ปรากฏว่าทางผู้ก่อเหตุไหวตัวทันได้ขับรถหนีก่อน โดยตำรวจชุดสืบสวนก็ได้ขับรถตามไปแต่ไม่ทัน ซึ่งคนร้ายได้ขับหนีมุ่งหน้าไปยัง อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี จากการตรวจสอบประวัติผู้ก่อเหตุ พบเคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด และทำร้ายร่างกาย

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35