เช้านี้ที่หมอชิต - จับตาสถานการณ์สู้รบในเมียนมา หลังเมียวดีแตก ซึ่งเมืองนี้ตั้งอยู่ใกล้ชิดกับ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อประเมินผลกระทบและเตรียมรับมือ เมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมด่วนทั้งฝ่ายความมั่นคง และ กระทรวงการต่างประเทศ
นายกฯ เรียกถกฝ่ายมั่นคง ปมเครื่องบินเมียนมาลงจอดแม่สอด
หลังกองกำลังกะเหรี่ยง KNU เข้ายึดครองเมียวดีได้สำเร็จ มีรายงานว่า รัฐบาลทหารเมียนมา ขอใช้สนามบินแม่สอด จังหวัดตาก สำหรับเที่ยวบินพิเศษ จนนำมาสู่การตั้งคำถามจากสังคม รวมถึงฝ่ายค้านอย่างกว้างขวาง เช่น ขนทหาร ขนอาวุธ หรือขนเงินจากธนาคารในเมียวดีมาในเที่ยวบินลำนี้ด้วยหรือไม่ ที่มีคำถามแบบนี้เกิดขึ้นเพราะหลายคนมองว่าท่าทีที่เป็นกลางของไทยมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ที่ยังมีความผันผวนสูง แต่หากเป็นในแง่ของการช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมก็ถือว่าเป็นไปตามหลักการสากล
ด้วยความอ่อนไหวของสถานการณ์และมีความใกล้ชิดกับไทยอย่างยิ่ง ทำให้ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าประชุมที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ผู้เข้าร่วมประชุม เช่น นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด, พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก, นายฉัตรชัย บางชวด รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
หลังการประชุม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยพร้อมประสานและส่งเสริมความร่วมมือของทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดสันติภาพและเสถียรภาพในเมียนมาโดยเร็วที่สุด รวมถึงให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม และพร้อมดูแลผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับไทยในด้านต่าง ๆ รวมถึงการค้าชายแดน และเพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จะมีการตั้งคณะทำงานที่กระทรวงการต่างประเทศ โดยเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก มีเลขาธิการสำนักงานความมั่นคง ทำหน้าที่สนับสนุนทั้งประเด็นการเมือง สังคม และเศรษฐกิจ
ปานปรีย์ แจง เครื่องบินเมียนมาจอดไทย แค่ส่งเอกสาร
สำหรับกรณีที่มีคำถามถึงเครื่องบินจากเมียนมาที่มาขอจอดที่สนามบินแม่สอด ว่าขนส่งอะไรนั้น นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า การที่เครื่องบินมาขอจอดถือเป็นปกติ หากเป็นเครื่องบินพาณิชย์ ไม่ใช่เครื่องบินทหาร เมื่อขออนุญาตถูกต้องก็ออกใบอนุญาตให้บินมาในไทยได้ การมาจอดครั้งนี้ เอกอัครราชทูตของเมียนมา ประจำประเทศไทย ขอความร่วมมือมา จึงมีความจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือในเรื่องของมนุษยธรรม รอบแรกขอมา 3 ครั้ง เพราะคาดว่าน่าจะมีประชาชนชาวเมียนมาข้ามชายแดนมาเยอะ แต่สุดท้ายไม่มี เข้าใจว่าอาจจะมีการเจรจากันระหว่างกลุ่มที่ต่อสู้กันในพื้นที่และตกลงกันได้ ส่วนสิ่งที่มากับเครื่องลำนี้เป็นเพียงเอกสาร อย่างไรก็ตาม ปกติทางการทูตไม่ว่าจะเป็นประเทศใด ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ว่าเอกสารอะไร เป็นความลับทางราชการ แต่ทั้งหมดผ่านการตรวจสอบที่ชายแดนเรียบร้อย ยืนยันได้ว่า ไม่มีอาวุธ ไม่มีกำลังพล ไม่มีทหาร มีแต่เอกสารทางราชการที่ส่งกลับไป ส่วนที่นายกฯ ห่วงว่าหากสถานการณ์รุนแรงขึ้น จะเตรียมสถานการณ์รองรับได้อย่างไรบ้าง ได้รับรายงานว่า ปัจจุบันนี้มีการเตรียมแผนรองรับแล้ว หากมีการอพยพน่าจะรับได้ประมาณ 100,000 คน ให้เข้ามาในที่ปลอดภัยชั่วคราว
สุทิน ยันสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังปกติ
ขณะที่ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ไม่ได้เข้าร่วมประชุมด่วนสถานการณ์เมียนมากับนายกฯ แต่กระทรวงกลาโหมติดตามอย่างใกล้ชิด ตอนนี้ที่มีข่าวรัฐบาลกลางพ่ายแพ้ให้กับชนกลุ่มน้อยในหลายเมือง ถ้าสงครามหนักขึ้นก็กระทบชายแดนหนักขึ้น แต่เรื่องนี้แหล่งข่าวของตนได้วิเคราะห์ให้ฟังว่า เรื่องจริงอาจไม่ใช่อย่างที่เรารู้ หรือเป็นข่าวเสมอไป อย่างไรก็ตาม ตามแนวชายแดนมีการเตรียมพร้อมตลอดเวลา พร้อมทุกสถานการณ์ ไม่ต้องห่วง
ทั้งนี้ สถานการณ์ชายแดนปัจจุบันถือว่าปกติอยู่ ไม่ถึงขั้นต้องยกระดับความเข้มข้น เพียงแต่ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด และวิเคราะห์ให้ละเอียดขึ้น
+ อ่านเพิ่มเติม