พบอีก ! กากแคดเมียม กว่า 4,300 ตัน สั่งยึดอายัด-ห้ามขนย้าย | เช้านี้ที่หมอชิต

เช้านี้ที่หมอชิต - ความคืบหน้ากรณีลักลอบเคลื่อนย้ายกากแร่แคดเมียมจำนวนมาก ซึ่งเป็นสารอันตราย หลุดหายไปนับหมื่นตัน ล่าสุด เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี ตรวจพบกากแคดเมียมกว่า 4,300 ตัน ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และสั่งห้ามขนย้ายโดยไม่ได้รับอนุญาต

 

ตามที่ปรากฏข่าวสารกรณีพบกากแร่แคดเมียมและสังกะสีจำนวนมากในโรงงานแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ที่มีการลักลอบขนย้ายจากจังหวัดตาก จำนวนถึง 15,000 ตัน ซึ่งต่อมามีการสูญหายไปจากโรงงานแห่งนี้นับหมื่นตัน ต่อมามีการขยายผลพบเบาะแสว่าได้ถูกส่งไปยังบริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี

 

ทำให้มีการขยายผลจนไปพบโกดังเก็บสินค้าในพื้นที่อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ซุกซ่อนกากของเสียวัตถุอันตรายในถุงบิกแบ็ก ล่าสุด เมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 13.30 น. เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณและอาคารดังกล่าว และได้ส่งตัวอย่างกากวัตถุไปวิเคราะห์ตรวจพิสูจน์ ผลการตรวจยืนยันพบว่าตรงกับที่จังหวัดสมุทรสาคร คือเป็นของเสียประเภทกากสังกะสีที่มีสารตะกั่วและแคดเมียม จำนวนประมาณ 4,391 ตัน หรือประมาณ 3,960 ถุง อยู่ระหว่างรอตู้คอนเทนเนอร์เพื่อรอส่งไปต่างประเทศ ขณะนี้ทางสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรีได้มีประกาศยึดอายัดตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 สั่งห้ามมิให้มีการเคลื่อนย้ายกากเหล่านี้ออกนอกพื้นที่ เพื่อรอการขนย้ายไปดำเนินการฝังกลบอย่างถูกวิธีที่จังหวัดตาก ซึ่งเป็นต้นทางต่อไป คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 7 วัน

 

ขณะที่ทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ร่วมกันตรวจยึดกากแคดเมียมเพิ่มได้อีก 1,000 ตัน ที่บริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลบางน้ำจืด อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร พร้อมจับกุมชายชาวไต้หวัน ผู้เป็นเจ้าของได้ ในข้อหาครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 และเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ซึ่งการจับกุมในครั้งนี้เป็นผลมาจากการซัดทอดของเจ้าของโกดังแห่งแรกในสมุทรสาคร ที่มีการตรวจค้นเจอกากแคดเมียม จึงได้ได้รวบรวมพยานหลักฐาน และขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อเข้าค้นบริษัทดังกล่าว จนเจอของกลางในที่สุด

 

สำหรับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แม้จะมีภารกิจตรวจราชการที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่ก็ติดตามความคืบหน้าในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ระบุว่าได้มีการตั้งคณะกรรมการสืบทราบความจริงต่อกรณีที่เกิดขึ้น ตรวจสอบที่สารหลุดกระจายออกไปแล้ว พบว่ายังไม่มีอันตราย