เร่งย้าย ! กาก “แคดเมียม” กลับอุตสาหกรรมจังหวัดตาก | เบื้องหลังข่าว กับ กาย สวิตต์

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - การลักลอบขนย้ายกากแคดเมียม และสังกะสี 15,000 กว่าตัน เข้าไปเก็บไว้ในโรงงานแห่งหนึ่ง ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร พ่นพิษแล้ว เมื่อรัฐมนตรีอุตสาหกรรม สั่งย้ายอุตสาหกรรมจังหวัดตาก ไปช่วยราชการกระทรวงอุตสาหกรรม และให้เคลื่อนย้ายแคดเมียม กลับไปฝังที่จังหวัดตาก ให้ถูกต้องตาม EIA ภายใน 15 วัน

 

หลังจากเมื่อวานนี้ กรรมาธิการการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร แถลงเปิดข้อมูล มีคนร้องเรียนบริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดตาก ขายกากแร่สังกะสี และกากแร่แคดเมียม ให้บริษัทอีกแห่ง ในอำเภอเมืองสมุทรสาคร จนนำไปสู่การที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นำหน่วยงานเข้าไปตรวจสอบโรงงานแห่งหนึ่ง ในตำบลบางน้ำจืด อำเภอเมือง สมุทรสาคร พบกากแคดเมียม และสังกะสี บรรจุไว้ในถุงบิกแบ็กประมาณ 100 ถุง น้ำหนักประมาณ 15,000 ตัน จึงประกาศห้ามบุคคลภายนอกเข้าพื้นที่โรงงานดังกล่าว 90 วัน

 

ล่าสุด วันนี้ นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานดังกล่าวที่สมุทรสาคร และให้สัมภาษณ์ว่า ได้สั่งให้เคลื่อนย้ายกากแคดเมียมกลับไปที่ต้นทาง คือ จังหวัดตาก ภายใน 7 วัน หลังจากนั้นอุตสาหกรรมจังหวัดตาก จะต้องฝังกลบกากแคดเนียม ให้ถูกต้องตาม EIA ให้แล้วเสร็จ ภายใน 15 วัน

 

นอกจากนี้ มีคำสั่งให้ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ถึงกรณีการเคลื่อนย้ายกากอุตสาหกรรมอันตรายดังกล่าว และมีคำสั่งย้ายอุตสาหกรรมจังหวัดตาก ไปช่วยราชการที่กระทรวงฯ ในระหว่างการตรวจสอบ เพื่อไม่ให้กระทบหรือมีส่วนได้เสียกับการตรวจสอบข้อเท็จจริง

 

สำหรับการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ามีการขออนุญาตขนย้ายถูกต้อง แต่การอนุญาตขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ ซึ่งต้องไปตรวจสอบว่ากระบวนการถูกต้องหรือไม่ เพราะขั้นตอนการขออนุญาตนั้นเป็นระบบออนไลน์ ที่มีการแจ้งจากต้นทางว่าจะนำกากอุตสาหกรรมเหล่านี้ มาบดอัดที่ปลายทางคือจังหวัดสมุทรสาคร จึงจำเป็นต้องไปตรวจสอบดุลยพินิจของคนพิจารณาอนุญาต ว่าทำได้หรือไม่

 

จากใบคำขออนุญาตแจ้งจะมีการเคลื่อนย้ายกากอุตสาหกรรมนี้ 13,000 ตัน แต่ในพื้นที่พบเพียง 2,440 ตัน ซึ่งยังไม่ได้มีการนำไปหลอม หรือใช้ในกระบวนการใด จึงขอเวลาตรวจสอบว่า ส่วนที่เหลือมีการเคลื่อนย้ายไปยังจุดใดหรือไม่

 

ส่วนการดำเนินคดีอาญา มอบหมายให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมเป็นเจ้าทุกข์ในแจ้งดำเนินคดีกับผู้ประกอบการต้นทาง ข้อหาการนำกากอุตสาหกรรมออกมาโดยไม่ถูกต้อง ส่วนปลายทาง ซึ่งเป็นโรงงานที่รับหลอม จะตรวจสอบใบอนุญาตว่าสามารถทำกิจกรรมได้หรือไม่

 

ขณะที่ นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าไปตรวจสอบในโรงงานว่า สั่งให้โรงงานเร่งย้ายกากแคดเมียม กลับคืนไปเก็บในเหมืองแคดเมียม ที่จังหวัดตาก โดยเร็วที่สุด และประกาศห้ามเข้าออกพื้นที่โรงงาน 90 วัน ยกเว้นผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหานี้

 

ส่วนการตรวจสอบสารปนเปื้อนจากแคดเมียม รอบโรงงาน ของกรมควบคุมมลพิษ พบว่าด้านนอกมีความปลอดภัย ไม่พบสารแคดเมียมในอากาศ ไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน

 

และไม่มีการปนเปื้อนอาหารทะเล กากแคดเมียมอยู่ในลักษณะเป็นก้อน หากไม่โดนความร้อนหรือน้ำฝนชะล้าง ก็จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน และได้สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขประจำจังหวัด ลงพื้นที่ตรวจสุขภาพของพนักงานในโรงงานแห่งนี้ด้วย

 

ที่ต้นทาง จังหวัดตาก ซึ่งจะต้องรับเอากากแคดเมียมกลับไปฝัง ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตาก ก่อนจะมีคำสั่งย้ายอุตสาหกรรมจังหวัด ซึ่งบอกว่า ในการพิจารณาอนุญาตนั้น เป็นไปตามคู่มือของโรงงานอุตสาหกรรม เป็นการอนุญาตในระบบอิเล็กทรอนิกส์ การยื่นขอของผู้ประกอบการต้นทางนั้น ได้แนบมาตรการสิ่งแวดล้อมมาด้วย และตัวสารที่ยื่นขอ และที่เอาออกไปนั้น ไม่ได้มีแคดเมียมตัวเดียว และมีเอกสารการตรวจวัดวิเคราะห์ของบริษัทต้นทาง โดยระบุว่าเป็นธาตุ ไม่ได้ระบุว่าเป็นอย่างอื่น จึงเห็นว่าเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของคู่มือการอนุญาตของกรมโรงงานอุตสาหกรรม แต่เมื่อจังหวัดตากทราบว่าเกิดปัญหาที่สมุทรสาครแล้ว ทางจังหวัดตากได้สั่งระงับทั้งหมด อายัดของ และบ่อ ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม ที่ผ่านมา

 

สำหรับสารแคดเมียมเป็นโลหะหนัก ไม่ใช่สารกัมมันตรังสีที่จะแผ่รังสี ก่อให้เกิดอันตรายต่อคน ส่วนที่จะเป็นอันตรายต่อคน หรือเป็นสารก่อมะเร็ง ก็ต่อเมื่อแคดเมียมนั้นกระจายเป็นฝุ่นละออง หรือถูกเผาไหม้ด้วยความร้อน 321 องศาเซลเซียส

 

กรณีเป็นฝุ่นละอองฟุ้งกระจาย เมื่อร่างกายสูดดมเข้าไป ก็จะเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ปวดไต ปวดตับ อวัยวะภายในถูกทำลาย โลหิตเป็นพิษ โลหิตจาง และถึงขั้นเสียชีวิต ก่อนหน้านี้เคยมีประวัติจากชาวญี่ปุ่น ที่ได้รับสารแคดเมียมเข้าไป แล้วป่วยเป็นโรคอิไตอิไต ที่แปลว่า เจ็บปวด จากกระดูกในร่างกายอ่อน โค้งงอ ไม่สามารถเดินได้