สาวหล่อ ร้อง อ้างโดน "อดีตแฟน" ทำร้าย ทุบตี ข่มขู่ จนสุดท้ายฮุบบริษัท พร้อมสมบัติไปหมด สูญแล้วกว่า 100 ล้านบาท !?
วันที่ 26 มี.ค. 2567 ภัทรนิษฐ์ ศุภเดชภากุล (ตั๊ก) ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า ตนได้รู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่งเมื่อเดือน ต.ค. 2564 จากวัดแห่งหนึ่ง ซึ่งสาวคนดังกล่าวทำงานเกี่ยวกับสินเชื่อ ตนจึงคุยเพื่อหาสินเชื่อมาใช้กับธุรกิจโรงงานทำกระดาษของตัวเอง ซึ่งพอคุยไปคุยมาก็ถูกคอ จึงตัดสินใจคบหากัน แล้วตัดสินใจย้ายไปอยู่ด้วยกันที่แฟลตตำรวจของ สน.ทองหล่อ ซึ่งที่นั่นก็มีผู้ชายอีกคนอยู่ด้วย แต่ฝ่ายแฟนสาวอ้างว่าผู้ชายคนนี้เป็นพ่อบุญธรรมของเขา พอคบกันไปได้ประมาณ 1 เดือน แฟนสาวก็เริ่มเปลี่ยนไปเป็นคนใช้อารมณ์ ชอบทำร้ายร่างกายตน พอสงบสติอารมณ์ได้ก็มาขอโทษง้องอนขอคืนดี วนเวียนซ้ำไปซ้ำมาทุกวัน
จากนั้นช่วงเดือน ธ.ค. 2564 แฟนสาวเริ่มมีอาการหึงหวง มาขอดูโทรศัพท์ตนแต่ตนไม่ให้ เขาจึงได้เขวี้ยงโทรศัพท์ของตนจนพัง ซึ่งในนั้นมีข้อมูลของตนทุกอย่าง ทั้งข้อมูลติดต่อลูกน้อง ข้อมูลลูกค้า แต่เขาได้เอาซิมของตนไปใช้กับโทรศัพท์ของเขา และได้ขอรหัสการเข้าใช้งานแอปฯต่าง ๆ ของตนไป ซึ่งตนต้องให้เขาเพราะห่วงชีวิตตัวเอง เนื่องจากกลัวเขาจะโวยวาย และเคยขู่ว่าถ้าตนจะไปจากเขาต้องไปทั้งที่ใส่โลงเท่านั้น โดยที่อดีตแฟนสาวได้เปลี่ยนรหัสแอปฯทุกอย่างของตน และตัวเขาก็มาซื้อโทรศัพท์ใหม่ เบอร์ใหม่ให้ตน โดยสามารถติดต่อได้แค่ตัวเขา และพ่อของเขาเท่านั้น แถมยังติดตั้งแอปฯติดตามตัว ส่วนบริษัทตัวเขาก็เข้าไปดูแทน โดยอ้างว่าตนมีคววามเครียด ไม่ต้องเข้าไปดูแลหรอก
หลังจากนั้น ก็เริ่มมีการโอนเงินจากลูกค้า เข้าบัญชีพ่อบุญธรรมเขา ไปทั้งหมดประมาณ 10 ครั้ง สูญเงินก้อนแรกไปประมาณ 10 ล้านบาท ตลอดปี 2565 ถ้าวันไหนไม่ทำตาม ก็ต้องเตรียมใจว่าเย็นวันนั้นจะถูกทำร้ายร่างกาย และสุดท้าย แฟนสาวก็เริ่มให้โอนย้ายกิจการที่เป็นชื่อของตน เป็นของเขา เอาบริษัทของเขาเข้ามาสวม โดยเป็นการที่เขาเอาเอกสารมาให้ตนเซ็นโดยที่ตนไม่รู้ เพราะมักจะให้ดูแค่ด้านหลัง และตนก็ไม่กล้าทำอะไรนอกเหนือจากที่เขาสั่ง กลัวเขาจะทำร้ายร่างกาย ตนมารู้ทีหลังตอนขึ้นศาลว่าเป็นเอกสารซื้อขายบริษัท โดยซื้อขายไปแค่ 2 ล้านบาท ทั้งที่บริษัทสามารถทำรายได้ 5-7 ล้านบาทต่อเดือน
ขณะเดียวกันตัวของแฟนสาว และพ่อบุญธรรมก็มีพฤติกรรมให้ตนเอะใจหลายอย่าง เวลาออกไปข้างนอกเขาก็จะจุ๊บปากกัน หรือบางวันเขานอนกับตนก็บอกว่านอนไม่หลับ ขอไปนอนกับพ่อเขา อีกทั้งคนในพื้นที่ก็บอกตนว่าเขาเป็นแฟนกัน และพอตนไปถามแฟนสาว เขาก็โวยวายกลับมาด่าทอกลับมา สิ่งที่ตนเจอมาทั้งหมดทำให้ตนไม่กล้าไปบอกใคร กลัวคนอื่นจะเป็นอันตราย และไม่อยากเดือดร้อนคนอื่น
สุดท้ายแล้ว หลังจากที่เขาได้ทุกอย่างไปจากตนแล้ว วันที่ 23 ธ.ค. 2565 ตนกับแฟนสาว ทะเลาะกันเรื่องเงิน จนตนถูกแฟนสาวตบจนเลือดออก จึงอาศัยจังหวะนี้ขอเขาออกไปข้างนอก เขาก็เหมือนจะไม่ให้ไปแต่ตนก็อ้างว่าตนไปไหนไม่ได้หรอก เพราะไม่มีเงิน และเอาโทรศัพท์ให้เขาไป แต่ตอนนั้นตนตัดสินใจว่า ถ้าไม่ไปวันนี้คงไม่ได้ออกมาแล้ว จึงได้หนีออกมาขึ้นแท็กซี่และขอโทรศัพท์แท็กซี่เพื่อโทรหาผู้ใหญ่เพื่อขอความช่วยเหลือ จนได้หนีออกมาได้ อย่างไรก็ตามสิ่งที่ตนเจอมา จนตนมาออกสื่อเพราะตนอยากให้ตำรวจช่วยดำเนินการเกี่ยวกับคดีให้ตนหน่อย เพราะ แจ้งความไปแล้วไม่คืบหน้าเลย
ด้าน ปอ หลานของผู้เสียหาย เล่าเพิ่มว่า หลังจากน้าสาวของตนหายไป ก่อนตนจะรู้เรื่อง ตอนแรกตนโมโหคิดว่าเขาไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่ เพราะมีการดีลงานไม่จบ ซึ่งเมื่อถามถึงน้า ไปที่ น.ส.เอ (นามสมมติ) อดีตแฟนสาวของน้า เขาก็บอกว่าน้าของตนมีความเครียด ตัวเขาจะเป็นเข้ามาดูแลแทนเอง ซึ่งมารู้ภายหลังว่าน้าทำไปแบบนั้นเพราะเขาไม่กล้าบอกคนอื่นว่าเขาเจออะไรอยู่ ขณะเดียวกัน ในตอนที่บริษัทมีการเปลี่ยนแปลง ลูกน้องหรือลูกค้าในบริษัทเข้าใจกันว่า แค่เปลี่ยนชื่อเฉย ๆ แต่ผู้บริหารยังเป็นน้า บริหารร่วมกับแฟน
ขณะที่ ราเชน อิ่มใจ (ราเชน) ทนายความ กล่าวว่า ในเคสนี้ มันส่งผลกระทบต่อตัวคุณตั๊กหลายเรื่อง ในส่วนทางแพ่งก็มีโดนลูกค้าฟ้องมา ซึ่งคุณตั๊กเขาก็ยินดีรับผิดชอบให้ทุกคนไม่หนี ซึ่งลูกค้าบางรายได้ทราบเรื่องราวก็ให้ผ่อนจ่าย หรือบางรายยกหนี้ให้เลยด้วยซ้ำ ทว่าในคดีอาญาที่ตัวคุณตั๊กต้องการแจ้งเกี่ยวกับบริษัทมันไม่คืบหน้าเลย ทั้งของสภ.ลำลูกกา และสภ.คูคต มาตั้งแต่ปี 2565 แล้ว อย่างไรก็ตามคดีหลัก ๆ ที่เราแจ้งไป เราอยากให้ทางตำรวจหันมาฟังทางเราบ้าง อย่าเพิ่งตัดสินว่าคุณตั๊กเขาให้โดยสเน่หา ให้ตัดสินมาให้ว่าจะส่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง
ฟาก โกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย กล่าวว่า กรณีนี้ ผู้เสียหายไม่มีที่พึ่ง ซึ่งถ้าใครไม่รู้จะปรึกษาใครตนแนะนำให้โทรหาสายด่วน 1157 สายด่วนอัยการ เขาจะช่วยแนะนำเกี่ยวกับกฎหมายได้ สำหรับคดีนี้ การที่ขายบริษัทไป 2 ล้านบาท มันไม่สัมพันธ์กับรายได้ของบริษัทที่มากกว่าเยอะ ดังนั้นจึงน่าสงสัย ต้องกลับไปดูว่ามีการขายที่ถูกต้องหรือไม่ ซึ่งถ้าหากมีพฤติกรรมที่หลอกลวง จะสามารถเพิกถอนกลับสู่สภาพเดิมได้
ทั้งนี้ ทีมงานรายการถกไม่เถียง ได้ติดต่อไปฝั่งผู้ชาย ที่อ้างว่าเป็นพ่อบุญธรรมของ น.ส.เอ (นามสมมติ) เพื่อถามถึงคดี โดยเจ้าตัวตอบกลับมาว่า เรื่องทุกอย่างอยู่ในกระบวนการของศาลแล้ว ไม่ขอตอบเพิ่ม ขณะเดียวกันทีมงานได้ถามถึงความสัมพันธ์ของเขากับ น.ส.เอ เจ้าตัวตอบว่า เขาเป็นพี่น้องกัน และเป็นได้ทั้งพ่อลูก และพี่น้องกัน
ขณะที่ฝั่งของ น.ส.เอ ได้ชี้แจงกับทีมงานว่า จริง ๆ แล้วเธอไม่ได้อยากคบคุณตั๊กเป็นแฟนเลยแต่พระแนะนำมา ตนเลยคบไป พร้อมยืนยันว่าตัวเองบริสุทธิ์ และยังบอกอีกว่าตนเองอยากมาออกรายการถกไม่เถียงทว่าตอนนี้ทำกายภาพบำบัดอยู่ไม่สามารถเดินได้
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 17.30-18.00 น. และทุกวันเสาร์ - วันอาทิตย์ พบกับ รายการ “ถกไม่เถียง Weekend” เวลา 17.30-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35