แม่-ลูก ร้อง เจอกลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุอุกอาจ ! บุกฟันหัว เพราะเงิน 500 บาท ซ้ำ ยังตามไปพังห้อง ขู่เผา ลั่น "รู้ไหมกูลูกใคร" ไม่พอแค่นั้น ยังกระทืบกู้้ภัยยับ สุดท้ายยังเข้าไปเปรี้ยวบาทาถึงในคุก !?
วันที่ ปฐวี ผู้บาดเจ็บ ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2567 เวลา 14.30 น. ตนก็ขี่จักรยานยนต์ออกมาหาของกินกับแฟน หลังจากซื้อเสร็จก็นั่งกินกับแฟน ก็มีรถกระบะมาจอดข้างหน้า และก็มีกลุ่มคนลงมาจากรถปรี่เข้ามาหาตนพร้อมกับมีด และถามตนว่า "ชอบทำร้ายแฟนเหรอ" แต่พลเมืองดีแถวนั้นก็ช่วยกันตอบว่าไม่ใช่ แต่เขาไม่ฟัง สุดท้ายปรี่เข้ามาฟันตน โดยเป็นชาย 2 คน ที่เป็นคนทำ
หลังจากเกิดเหตุแล้ว ตนต้องพยายามขี่จักรยานหลบพวกผู้ก่อเหตุกับแฟน เพื่อรอให้รถฉุกเฉินมารับ ทว่า พอรถฉุกเฉินมารับแฟนของตนกลับขึ้นรถกระบะไปกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ สำหรับอาการบาดเจ็บตนบาดเจ็บที่ศีรษะเย็บรวมกันกว่า 100 เข็ม และที่หลังอีกประมาณ 20 เข็ม แถมฝั่งคู่กรณียังมีการข่มขู่ว่ามีเงินมาสู้คดีกับเขาหรือเปล่า
ฟาก เบ็ญจา แม่ของผู้บาดเจ็บ เล่าต่อว่า พอตนทราบเรื่องก็รีบรุดหน้าไปหาลูกชายที่โรงพยาบาล ระหว่างทางไปก็ได้โทรหาแฟนของลูกชายแต่ปรากฎว่าฝั่งผู้ก่อเหตุเป็นคนรับ ได้มีการวิวาทะกัน ซึ่งเขาได้บอกว่าสาเหตุของการก่อเหตุนั้น ลูกชายตนไปติดเงินของแฟนสาวอยู่ 500 บาท นอกจากนั้นยังมีการข่มขู่กลับมาว่า รู้ไหมว่าเขาเป็นลูกใคร ขนาดเขาปาระเบิดตำรวจแถวมีนบุรียังจับเขาไม่ได้เลย
ทว่าเรื่องไม่จบแค่นั้น ช่วงเช้ามืดวันที่ 22 มี.ค. 2567 เวลา 02.57 น. กลุ่มผู้ก่อเหตุบุกเข้ามาที่คอนโดเพื่อตามล่าลูกชายของตน เขามาเคาะประตูที่ห้อง อ้างว่า นัดกับลูกชายของตนมาดูปัญหาของประปา ด้วยเวลาที่ดึกมากตนก็สงสัยจึงได้รีบปิดประตูไม้ จากนั้นพวกเขาก็พยายามพังประตูเข้ามา เอาของปาใส่ประตู ขู่ว่าจะเผาห้อง สุดท้ายพวกเขาก็พังประตูห้องจนพัง โชคดีว่ามีประตูเหล็กดัดแต่เขาก็ยังพยายามพังเข้ามาเรื่อย ๆ จนตนมีความคิดว่าจะให้ลูกกระโดดออกจากห้องพักชั้น 4 ออกไปก่อน ซึ่งโชคดีว่าตำรวจมา พวกเขาเลยหนีออกไปทางประตูหนีไฟ แต่ไม่จบแค่นั้นพวกเขาลงไปพังรถจักรยานยนต์ของลูกชาย กรีดยาง ตัดสายเบรก ทุบพังหมด
นายปฐวี กล่าวเพิ่มว่า เรื่องนี้ทำให้ตนสงสัยพุ่งเป้าไปที่แฟนสาวว่าเป็นนกต่อหรือเปล่า เพราะไม่อย่างนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุจะรู้จักที่อยู่ของตน รู้ห้องพัก รู้ชั้น รู้กระทั่งรถที่ไปทำลาย ได้อย่างไร
ด้าน พิเชษฐ โสคติ (เชษฐ) กู้ภัยที่ถูกทำร้าย เล่าว่า เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2567 เวลา 14.36 น. ตนได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนได้รับบาดเจ็บกระจกบาดเท้า พอตนไปถึงที่ก็ได้ลงไปประเมินสถานการณ์กับผู้บาดเจ็บ ก็ทราบว่าเขายังมีสติดีและมีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วจากแฟนสาวของเขา ตนจึงบอกให้เขาเดินมาหลังรถ ซึ่งระหว่างนั้นตนได้ยินพวกเขาพูดกันว่า "เอาเคมาดมหน่อย" ซึ่งมันเป็นสารเสพติด และตามนโยบายของมูลนิธิ ถ้าพบสิ่งผิดกฎหมายต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาเป็นพยาน พอเขาได้ยินคำว่าเจ้าหน้าที่พวกเขาก็เริ่มสติหลุด เอามีดมากรีดยางรถ ปล่อยลมยาง และเอารถกระบะมาจอดขวางท้ายรถ เพราะเขาเข้าใจว่าเราจะไม่ไปส่งโรงพยาบาล แต่ก็ไม่ได้มีการคุยกันดี ๆ เพราะเขาโมโหก่อนเลย
เมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้ ตนจึงวิทยุสื่อสารไปขอให้ตำรวจสายตรวจเข้ามาช่วย แต่พอกลุ่มผู้ก่อเหตุเริ่มทุบกระจกพังตนก็รู้สึกไม่ปลอดภัยแล้วจึงได้ทิ้งรถและวิ่งหนีออกมา ซึ่งกลุ่มผู้ก่อเหตุก็ขับกระบะกันออกมาตามตนคนที่ขับก็คือคนบาดเจ็บ อีกทั้งยังเป็นคนที่วิ่งไล่ตนเร็วที่สุดด้วย สุดท้ายตนหนีไม่รอดเจอพวกเขารุมกระทืบในที่สุด โชคยังดีที่เพื่อนกู้ภัยมาช่วยทัน ถ้ามาช้ากว่านี้ตนอาจจะเจ็บหนักยิ่งกว่านี้
ขณะที่ นิรันดร์ เกแง้ว ผู้ร่วมก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า เคสนี้สามารถจับกลุ่มผู้ก่อเหตุได้แล้ว แต่ว่าถือว่ากลุ่มนี้เยาะเย้ยการทำงานของตำรวจมาก เพราะก่อเหตุในหลายพื้นที่ทั้งของ บก.น.2, บก.น.3, บก.น.4 ซึ่งพวกเขามีพฤติการณ์ที่อุกอาจมาก เป็นภัยต่อสังคม ซึ่งตำรวจเขามีนโยบายให้ปราบปรามพวกเด็กอันธพาลเหล่านี้อยู่แล้ว ขณะเดียวกันวันนี้(25 มี.ค. 67) ตนจึงได้พาผู้เสียหายเข้าไปร้องต่อศาลเพื่อคัดค้านการประกันตัว
นอกจากนี้ทางทีมงานได้สืบพบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุหลังจากถูกจับไปแล้ว ยังมีท่าทีไม่สลดไม่สำนึกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังไปก่อเหตุกร่างในห้องขัง ตะโกนด่าญาติคนในห้องขัง แถมยังไปแซวนักข่าวหัวเราะกันสนุกสนาน และเมื่อสืบลึกลงไปก็พบวีรกรรมก่อน ๆ ของกลุ่มนี้มากมาย ไม่ว่าจะเรื่องชอบเจาะยาง ชอบทำร้ายผู้อื่นและถ่ายคลิปเก็บเอาไว้ รุมโทรมผู้หญิง ชอบโพสต์คลิปซ้อมยิงปืน หรือแม้กระทั่งตัดนิ้วคู่อริ
ฟาก สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม กล่าวว่า ัเคสของกู้ภัยเนี่ย จากบาดแผลแล้วน่าจะไม่ถึงกับสาหัส กลุ่มผู้ก่อเหตุจะมีความผิดทำร้ายผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บ แต่ฝั่งของ นายปฐวี ตนเชื่อว่าหมอจะลงความเห็นว่ารักษาเกิน 20 วันดังนั้นจะเข้าข่ายทำร้ายผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ถ้าดูจากพฤติการณ์ทำร้ายแล้วตำรวจต้องตั้งข้อหาพยายามฆ่า และความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ดังนั้นตำรวจต้องรีบทำสำนวนและอายัดตัวเอาไว้
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 17.30-18.00 น. และทุกวันเสาร์ - วันอาทิตย์ พบกับ รายการ “ถกไม่เถียง Weekend” เวลา 17.30-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35