ข่าวเย็นประเด็นร้อน - วันนี้ 2 บิ๊กของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คือ บิ๊กต่อ และ บิ๊กโจ๊ก เข้าไปรายงานตัวต่อปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นวันแรก หลังโดนคำสั่งให้ไปช่วยราชการ โดยบิ๊กโจ๊กบอกว่า ไม่เครียด ไม่กังวล นั่งช่วยราชการ เหมือนกลับบ้านเก่า ส่วนบิ๊กต่อ บอก ไม่น้อยใจ ไม่กดดัน
วันนี้ ทั้งบิ๊กต่อ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ บิ๊กโจ๊ก พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางเข้ารายงานตัวกับปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ตามคำสั่งให้มาช่วยราชการที่ทำเนียบรัฐบาล
บิ๊กต่อให้สัมภาษณ์หลังรายงานตัว โดยมีบิ๊กโจ๊กยืนอยู่ข้าง ๆ ว่า ได้รับมอบหมายให้ดูงานจิตอาสาซึ่งตนทำอยู่แล้ว โดยให้คำปรึกษาเรื่องการดูแลชุมนุมต่าง ๆ เนื่องจาก ผบ.ตร. จะเดินทางเข้ามาทำงานทุกวัน แต่ยังคงต้องเข้าเวรราชองครักษ์อยู่
ผู้สื่อข่าวถามถึงหนังสือโยกย้ายว่าใช้คำค่อนข้างรุนแรง พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ บอกว่า ตนยอมรับว่าเป็นหัวหน้าหน่วย ทำให้องค์กรเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันไม่ได้ เป็นความบกพร่อง เมื่อเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารต้องกำกับดูแลในส่วนนี้ และยอมรับสภาพ ยืนยันว่าไม่ได้รู้สึกน้อยใจ แม้อายุราชการจะเหลือน้อยก็ตาม แต่จะช้าหรือเร็วอย่างไรก็ต้องลุก งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา
ส่วน บิ๊กโจ๊ก พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ภายหลังรายงานตัวต่อปลัดสำนักนายกฯ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับมอบหมายให้ดูงานด้านที่ปรึกษากฎหมาย พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ และการกระจายอำนาจ ซึ่งเชื่อว่าจะทำหน้าที่ได้ดี
ส่วนที่ถูกมองว่า ใกล้ชิดกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และอาจเกี่ยวพันกับคำสั่งช่วยราชการในครั้งนี้ ว่า ไม่เกี่ยวข้องกัน ย้ำไปจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อไปทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยขบวนสำคัญ เพราะเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ไม่มีเรื่องส่วนตัว แต่เรื่องนี้เป็นการแก้ไขของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อให้เกิดความสามัคคีในหน่วยงาน
ส่วนที่ถูกมองว่าเป็นสายบ้านจันทร์ส่องหล้าของนายทักษิณไปแล้ว พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ส่ายหัวก่อนกล่าวว่า ไม่มีสายไหน มีแต่เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
แต่ว่าตอนที่ไปถึงทำเนียบ ก่อนรายงานตัว บิ๊กโจ๊กให้สัมภาษณ์ไว้ว่า เหมือนกลับบ้านเก่า เป็นสถานที่คุ้นชิน เพราะเคยอยู่มา 2 ปีแล้ว แต่ไม่รู้ชั่วคราวหรือไม่ ต้องตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าไม่ได้กังวลใจหรือกดดันอะไร โดยนายกรัฐมนตรีได้วางแนวทางเรื่องของความสามัคคีเป็นหลัก ความขัดแย้งวันนี้ต้องยุติทั้งหมด ต้องไม่มีการขัดแย้งในองค์กร พร้อมระบุว่า ยังนอนหลับดีอยู่ ไม่ได้เครียดอะไร
ผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องคดี BNK Master ที่วันนี้ มีหมายเรียกให้บิ๊กโจ๊กไปพบพนักงานสอบสวนที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ซึ่งบิ๊กโจ๊กบอกว่า คดีนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้ส่งสำนวนไป ป.ป.ช. แล้ว และตนยังไม่ได้หมายเรียก ยังไม่เห็นหมายเรียก วันนี้จึงไม่ไปพบพนักงานสอบสวน
คดีเว็บพนัน BNK Master ที่พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกบิ๊กโจ๊ก ไปพบพนักงานสอบสวนในวันนี้ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 แม้บิ๊กโจ๊กจะให้สัมภาษณ์ว่า ผบ.ตร. ให้ส่งสำนวนคดีไป ป.ป.ช. และจะไม่ไปพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก
แต่วันนี้ คดีนี้ ถือว่ายังเดินหน้าต่อไป พนักงานสอบสวนชุดทำคดีเว็บพนัน BNK Master ได้มาเตรียมความพร้อมตามปกติ รอรับบิ๊กโจ๊กมารับทราบข้อกล่าวหา หลังวันนี้ครบกำหนดการออกหมายเรียกครั้งที่ 1 โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร มารอดำเนินการตามกระบวนการอยู่ด้วย
มีรายงานข่าวจากคณะพนักงานสอบสวนชุดทำคดี BNK Master ของตำรวจนครบาล ว่า คณะพนักงานสอบสวนยังคงทำหน้าที่ตามปกติ เพราะยังไม่ได้มีคำสั่งใด ๆ ออกมาให้ยุติการสืบสวนสอบสวน แล้วให้โอนสำนวนไปยัง ป.ป.ช. โดยชุดทำคดีมีความเห็นว่า คดีดังกล่าว เป็นความผิดส่วนตัว และอยู่ในอำนาจของตำรวจนครบาล
ซึ่งหากจะส่งสำนวนไป ป.ป.ช. คณะพนักงานสอบสวนของตำรวจนครบาล ก็จะต้องพิจารณาด้วยว่าเข้าเงื่อนไขข้อกฎหมายหรือไม่ เพราะปัจจุบัน ความเห็นของพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล มีความเห็นว่าไม่เข้าเงื่อนไขที่จะส่งไปให้ ป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวน
โดยตามขั้นตอนของกฎหมายนั้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ไม่สามารถส่งสำนวนไปให้ ป.ป.ช.เลยได้ หาก ป.ป.ช.ยังไม่มีมติเรียกสำนวนและมีหนังสือส่งมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะถ้าโอนไปเลยก็จะถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
หากวันนี้ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ไม่มารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก ขั้นตอนของคณะพนักงานสอบสวน ก็จะรอจนครบเวลาราชการ จากนั้นจะไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.ทุ่งสองห้อง และจะออกหมายเรียกครั้งที่ 2
โดยจะให้พนักงานสอบสวนนำหมายเรียกไปให้ที่บ้านพักย่านวิภาวดี 60 ในวันพรุ่งนี้ (22 มี.ค.) และจะส่งหมายเรียกไปที่ทำงานคือ ทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากเป็นสถานที่ทำงานแห่งใหม่ และบ้านพักตามภูมิลำเนาที่จังหวัดสงขลา
ส่วนอีกความเคลื่อนไหวหนึ่ง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่เช้า เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.
นายกฯ กล่าวก่อนการประชุมว่า ตนสั่งให้ยุติการให้ข่าวเกี่ยวกับบิ๊กต่อและบิ๊กโจ๊ก เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมเดินไปข้างหน้า ให้เกิดความถูกต้องและความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ใครที่เคยเข้าข้าง เคยให้ข่าว ขอให้หยุด เนื่องจากกระบวนการยุติธรรมได้ดำเนินการแล้ว
ส่วนเรื่องการแทรกแซง ตนเคยได้พูดไปแล้วว่าไม่เห็นด้วย และไม่อยากให้ทุกท่านที่อยู่ในที่นี้ เป็นตัวละครของเรื่องเหล่านี้ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ให้กระบวนการเป็นตัวพิสูจน์เอง
มีเรื่องความชัดเจนคดี BNK master ในระดับหนึ่ง จากรักษาการ ผบ.ตร. บิ๊กต่าย พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์เมื่อช่วงบ่าย โดยช่วงหนึ่งผู้สื่อข่าวถามถึงคดีนี้ว่า บิ๊กต่อแถลงเมื่อวานจะส่งสำนวนคดีให้ ป.ป.ช. แล้วทางบิ๊กต่ายจะส่งให้ ป.ป.ช.หรือไม่ ซึ่งทางบิ๊กต่ายตอบในเรื่องนี้ว่า รอคณะกรรมการทำความเห็นเสนอมา
ขณะที่ในมุมของกรรมการที่ตั้งขึ้นมาตรวจสอบนั้น พลตำรวจเอก วินัย ทองสอง ในฐานะกรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย แถลงเมื่อช่วงบ่ายว่า หน้าที่ของคณะกรรมการชุดนี้ คือจะทำความจริงให้ปรากฏ ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นในการวิพากษ์วิจารณ์ เป็นอย่างไร ใครทำผิดต้องได้รับผิดใครทำถูกก็ต้องได้รับความบริสุทธิ์ ใครทำกรรมดีก็ต้องได้รับกรรมดี ใครทำชั่วก็ต้องได้รับความชั่ว จะไม่มีการกลั่นแกล้งใส่ร้ายรังแก หรือช่วยเหลือผู้ใด
เบื้องต้น คณะกรรมการจะต้องพยายามทำให้ทันภายใน 60 วัน แต่ถ้าไม่ทันก็ต้องขยายระยะเวลา ซึ่ง ณ วันนี้เริ่มทำแล้ว แต่จะตรวจสอบทันก่อนที่ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เกษียณหรือไม่ ไม่สามารถตอบได้ วันนี้ข้อมูลต่าง ๆ เดินทางมาจนสุดแล้ว ฉะนั้นการดึงข้อเท็จจริงออกมา ตนคิดว่าไม่น่าจะใช่เรื่องยากของคณะกรรมการ
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35