logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

สาวไทยโต้ ! หนังคนละม้วนถูกกล่าวหาฉกเงินหนุ่มจีน สุดท้ายถูกขืนใจ | เบื้องหลังข่าว กับ กาย สวิตต์

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา ทางช่อง 7HD เราได้นำเสนอข่าวหนุ่มจีนเสียท่าสาวไทย ที่รู้จักผ่านแอปพลิ ช่อง7,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว,ข่าว7,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวเด็ด,ข่าวด่วน,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูทีวีย้อนหลัง,ดูรายการย้อนหลัง,ดูย้อนหลัง,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์,เปรมสุดา สันติวัฒนา,ฝนฟ้าอากาศ,ทิน โชคกมลกิจ

239 ครั้ง
|
21 มี.ค. 2567
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา ทางช่อง 7HD เราได้นำเสนอข่าวหนุ่มจีนเสียท่าสาวไทย ที่รู้จักผ่านแอปพลิเคชันหาคู่ ชวนไปเที่ยวพัทยา ขณะที่หนุ่มจีนนอนหลับอยู่ สาวไทยแอบถูกฉกบัตรเครดิต รูดซื้อทอง 32,000 บาท มีการประตามหาตัวสาวไทยคนนี้โดยให้รางวัล 10,000 บาท ล่าสุดสาวไทยรายนี้ออกมาโต้ข่าว บอกเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นหนังคนละม้วน ตนถูกข่มขืน
 
ข่าวนี้เริ่มต้นจากการที่มีเพจเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ลงรูปถ่ายสาวไทย พร้อมระบุข้อความว่า ตามหาบุคคลในภาพเงินรางวัล 10,000 บาท ไม่ต้องมาขู่ พรบ.คอม นะ เพราะไปแจ้งความมาแล้ว เดี๋ยวจะโดนข้อหาเพิ่ม
 
ทางช่อง 7HD เราจึงได้นำเสนอข่าวไปในวันที่ 17 มีนาคม 2567 ว่าเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2567 เวลา ประมาณ 12.00 น. นาย Wu Dihui อายุ 33 ปี สัญชาติจีน มาแจ้งความที่ สภ.บางละมุง ว่ามีสาวไทยไม่ทราบชื่อและนามสกุล ซึ่งรู้จักผ่านแอปพลิเคชันหาคู่ โดยรู้จักที่กรุงเทพมหานคร ได้ประมาณ 6-7 วัน ก่อนที่ผู้หญิงจะชักชวนให้มาท่องเที่ยวที่เมืองพัทยา โดยพักภายในซอยเขาตาโล
 
ซึ่งระหว่างนอนพักในห้องพักได้มี SMS เข้ามาในมือถือแจ้งว่ามีเงินสดจำนวน 32,815 บาท ถูกใช้ซื้อสร้อยคอทองคำ 2 ครั้ง ส่วนตัวหญิงสาวได้หายไป จึงได้มาแจ้งความลงบันทึกประจำวัน เพื่อป้องกันไม่ให้หญิงสาวคนดังกล่าวนำบัตรไปทำความเสียหายอีก
 
ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าที่ผ่าน สาวไทยรายนี้ อายุ 31 ปี ได้เดินทางเข้าพบ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และเป็นผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ขอให้ช่วยเหลือในคดีนี้ เนื่องจากตัวเองไม่ได้กระทำอย่างที่ถูกกล่าวหา สิ่งที่หนุ่มจีนเล่าเป็นคนละเรื่องกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตนเองถูกข่มขืน
 
สาวไทยที่ถูกกล่าวหา เธอเล่าว่า เธอรู้จักชาวจีนคนนี้จากแอปหาคู่แอปหนึ่งตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม ชื่อว่า อาฉี อายุ 33 ปี ก่อนที่จะมาคุยกันต่อใน WeChat ลักษณะคุยเป็นเพื่อน ไม่ใช่เชิงชู้สาว โดยเขาอ้างว่า ประกอบธุรกิจเปิดร้านปิ้งย่างที่พัทยา พูดไทยได้นิดหน่อย ส่วนใหญ่สื่อสารผ่านแอปแปลภาษามากกว่า
 
จนถึงวันที่ 13 มีนาคม อาฉี ได้แช็ตมาบอกตอนเที่ยงคืนว่า เขาเข้ามาส่งเพื่อนที่เป็นเชฟร้านของ อาฉี ขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมืองกลับจีน ระหว่างนั้นตนจึงบอกว่าจะจองโรงแรมให้พัก แต่เขาปฏิเสธและบอกว่าแค่มาส่งแล้วกลับ ก่อนจะชักชวนให้เจอกันแถววิภาวดี 33 ตนก็ไปเลยไปหาตอน 04.00 น. กว่า ๆ ก่อนที่จะขึ้นรถไปส่งเพื่อนด้วยกัน จากนั้น อาฉี ก็ชักชวนตนให้ไปดูร้านปิ้งย่างของเขาและเที่ยวพัทยา ตนก็เลยไปด้วย เพราะคิดแค่ว่าเขาชวนไปดูร้าน ไม่น่าจะมีอะไร โดยออกจาก กทม. เวลา 06.00 น. จากนั้นจึงมาถึงพัทยาเวลา 10.00 น. ซึ่งระหว่างทางก็พูดคุยกันตามปกติ ไม่ได้มีท่าทีอันตรายใด ๆ เมื่อมาถึงก็พาไปร้านปิ้งย่างซึ่งอยู่แถวพัทยาใต้ เป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น แต่ร้านปิดเพราะพ่อครัวเพิ่งกลับจีนไป ก่อนที่ อาฉี จะพาตนขึ้นห้องพักแล้วพักผ่อนตามอัธยาศัย
 
ประมาณ 11.00 น. อาฉี บอกกับตนว่าไม่มีเงินไทยติดตัว จึงขอให้ตนเอาบัตรเครดิตไปรูดรับเงินสดที่ร้านทอง ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากร้านปิ้งย่าง พร้อมกำชับว่าให้รูดมา 30,000 บาท โดยให้รูด 3 ครั้ง ครั้งละ 10,000 บาท และให้เซ็นชื่อตนเป็นภาษาอังกฤษ ตนจึงไม่ได้คิดอะไร เพราะเป็นบัตรของเขาเอง ก็เลยไปกดให้ที่ร้าน เดินไป 5 นาที โดยที่ร้านได้ตรวจบัตรประชาชนตนแล้ว แต่ก็ยินยอมให้รูดเงิน ก่อนที่ตนจะได้เงินสดกลับมา 30,000 บาท แล้วตนก็ไปแวะซื้อของกินนิดหน่อย ก่อนจะกลับมาที่ร้านของ อาฉี ตอนเกือบเที่ยง
 
จากนั้น เมื่อมาถึง ตนก็มอบบัตรเครดิตและเงินสดให้ อาฉี ก็นั่งคุยกันสักพัก อยู่ดี ๆ อาฉี พยายามจะผลักตนขึ้นเตียงและจะข่มขืนตน ตนก็ขัดขืนปฏิเสธพร้อมผลักออกกึ่งทีเล่นทีจริง ซึ่ง อาฉี พยายามบอกแค่ว่า นิดหน่อยนะ ๆ โดยตนไม่กล้าทำรุนแรง เพราะอยู่ในที่ของฝ่ายชาย กลัวว่าจะได้รับอันตราย แต่ฝั่ง อาฉี พยายามจะง้างมือชกต่อยข่มขู่จะทำร้ายร่างกาย และจับเนื้อตัวตามร่างกาย
 
สักพักผ่านไปกว่าชั่วโมง ตนเลยจะขอกลับ ฝ่ายชายก็ออกไปสูบบุหรี่ ตนจึงเล่นมือถือที่เตียง ก่อนที่อยู่ดี ๆ ผ่านไป 10-15 นาที เขาจะเดินเข้ามากระชากมือถือตนพร้อมเงื้อมือจะชกตนอีกรอบ และก็เดินลงบันไดไปชั้นล่าง ตนได้แต่ยืนคิดอยู่ 5 นาที ว่าจะทำยังไงต่อไปดี จากนั้นตนได้เดินลงมาที่ชั้นล่าง เพื่อจะตามเอามือถือคืน แต่ไม่พบ อาฉี อยู่ในร้าน พอเดินออกมาดูหน้าร้านก็ไม่เจอ อาฉี ภายในร้านก็ไม่มีใครอยู่ และร้านรอบข้างก็ปิดไม่มีใครให้สอบถาม ตอนนั้นเวลาประมาณ 15.00 น. แล้ว ตนเลยเดินตามหาเรื่อย ๆ จนเจอวินมอเตอร์ไซต์ จึงเล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนช่วยให้ส่งที่ห้างเซ็นทรัลพัทยา เมื่อไปถึงก็รีบแจ้งศูนย์ค่ายมือถือ เพื่ออายัดมือถือว่าสูญหาย และขอซิมใหม่ แล้วค่อยไปขึ้น Taxi กลับกรุงเทพ
 
หลังเกิดเหตุ ตนก็ไม่สามารถที่จะติดต่อ อาฉี ได้อีกเลย เพราะไม่สามารถเข้า WeChat ได้ ซึ่งตนยังคงรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมา อาฉี เองก็ดูจะเป็นคนดี เคยพูดเตือนถึงพฤติกรรมคนจีนที่นิสัยไม่ดีในประเทศบ่อยครั้ง จนตนเชื่อมั่นว่าเขาน่าจะเป็นคนดี แต่ความจริงมาปรากฏตอนที่เขาจะพยายามข่มขืนตน ที่ผ่านมาตนไม่กล้าไปแจ้งความ ทั้งที่ สภ.บางละมุง และ สน.ท้องที่บ้านของตน เนื่องจากตนไม่มีพยานหลักฐานที่เพียงพอ และเกรงว่าพนักงานสอบสวนจะไม่รับแจ้งความ อีกทั้งตนไม่กล้ากลับไปแจ้งความที่พัทยาอีกแล้ว เพราะกลัวจะถูกทำร้าย หรือ ได้รับอันตราย จนกระทั่งมาปรากฏเห็นในสื่อโซเชียลเป็นข่าวว่าตนไปขโมยบัตรเครดิตของคนจีนคนนี้ไปรูดซื้อทอง ซึ่งไม่เป็นความจริง
 
วันนี้ตนจึงอยากมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมกับทางเพจสายไหมต้องรอด ว่าตนคือผู้ถูกกระทำ ไม่ใช่ผู้กระทำความผิด ต้องการให้ความจริงปรากฏ และยืนยันว่าที่พูดมาทั้งหมดเป็นความจริง
 
พอผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมถึงไปเล่นแอปหาคู่ เธอตอบมาว่า เธอป่วยเป็นโรคซึมเศร้า แค่อยากหาเพื่อนคุยแก้เหงา เพราะชีวิตประจำวันเธอจะใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้าน เธอประกอบอาชีพขายเบเกอรี่ออนไลน์ ที่บ้านเธอไม่ได้มีฐานะยากจน ค่อยข้างมีกินด้วยซ้ำ
 
ด้าน นายเอก ภพระบุว่า หญิงคนนี้มาแสดงความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งตนกำชับให้สาวไทยพูดความจริง เพราะจะมีหลักฐานอื่น ๆ เช่น ภาพวงจรปิดมายืนยันคำพูด ตนมองว่างานนี้ไม่ฝั่งใดฝั่งหนึ่งต้องถูกดำเนินคดี แต่เพื่อความแน่ชัดว่า หญิงไทยผู้ถูกกระทำถูกต้องหรือไม่ หลังจากนี้ตนจะลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่ร้านปิ้งย่างดังกล่าวที่พัทยา และจะประสานไปพูดคุยกับตำรวจ สภ.บางละมุง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและเชิญคนจีนคนนี้มาให้การยืนยันไปเลยว่าใครพูดจริงพูดเท็จ
 
ถึงแม้ว่าเคสนี้จะต้องมองทั้งสองมุมสองด้าน แต่ตนก็ตั้งข้อสังเกตว่า ประเด็นที่กล่าวหาหญิงคนนี้นั้นดูมีพิรุธ เพราะมองว่าหากประสงค์จะขโมยบัตรเครดิตจริง ๆ แล้วหญิงคนนี้จะกลับไปเอาบัตรเครดิตไปคืนทำไม จะเห็นว่าทั้ง 2 ฝ่าย พูดไม่ตรงกัน ต้องมีฝ่ายใดที่เป็นฝ่ายโกหก เรามาตามหาความจริงเรื่องนี้ให้ปรากฏไปพร้อมกัน
 
ล่าสุด เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวเราลงพื้นที่ไปยังจังหวัดชลบุรี กับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ไปตรวจสอบข้อมูลที่ร้านอาหารปิ้งย่างของชาวจีน พบว่าร้านปิด ไม่มีใครอยู่ในร้าน ผู้สื่อข่าวจึงเดินไปบริเวณหน้าทางเข้าร้านอาหาร พบคนขับรถวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง คือ นายชัชชัย เจียสุราวุธ อายุ 53 ปี เล่าให้ฟังว่า ตนวินรถจักรยานยนต์ที่นี่มา 5 ปีแล้ว ตนเองเป็นคนไปส่งน้องผู้หญิงไทยคนนี้ที่ห้างสรรพสินค้าเอง ตนจำได้ว่าเมื่อวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา ช่วงประมาณ 13.00 น. เห็นน้องเดินมาหาตนด้วยท่าทีลุกลี้ลุกลน มาขอความช่วยเหลือ บอกว่าถูกคนจีนทำร้าย และขโมยโทรศัพท์ไป ตอนแรกตนจะโทรศัพท์ไปแจ้งความให้ แต่น้องผู้หญิงบอกว่าให้พาตนห้างสรรพสินค้าแถวนี้ก่อน เพื่อเอาข้อมูลในโทรศัพท์ จากนั้นตนได้พาที่ห้างสรรพสินค้าแถวนี้ หลังน้องทำธุระเสร็จ ตนก็ไปส่งที่ท่ารถแท็กซี่ เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพ
 
ต่อมาผู้ข่าวได้เดินทางไปยังร้านทองที่น้องผู้หญิงถูกกล่าวหาว่านำบัตรเครดิตไปรูดซื้อทองไป 30,000 บาท โดยเจ้าของร้านทองให้ข้อมูล น้องใช้บัตรประชาชนตัวจริงมาแสดงเพื่อทำการรูดบัตร ไม่ได้มีท่าทีพิรุธ หรือ แสดงความตกใจให้เห็น น้องเดินทางมาสองรอบ รอบแรกน้องนำบัตรเครดิตมารูดได้เพียง 10,000 กว่าบาท รอบที่สองน้องเอาบัตรมาอีกหนึ่งใบ รูดได้ 20,000 กว่าบาท จากนั้นได้ขายทองคืนให้ร้าน เพื่อนำเงินสดไป
 
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง สภ.บางละมุง จังหวัดชลบุรี ทราบว่าหนุ่มชาวจีนได้เดินทางไปสอบปากคำเพิ่มกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในคดีนี้ หลังเดินทางไปที่โรงพัก พบกับหนุ่มจีนที่แจ้งว่าหายไป ได้เล่าให้ฟังว่า เจอกันที่สนามบินดอนเมือง ฝ่ายหญิงบอกอยากไปพัทยาด้วย จึงขับรถมาพัทยาด้วยกัน
 
แล้วบอกฝ่ายหญิงว่าไม่ต้องใช้รหัส ถ้ากดเงินต่ำกว่า 10,000 บาท พอมาถึงที่ร้านตนที่พัทยา ก็ได้แยกกันนอน พอตนหลับไป บัตรเคดิตที่อยู่ในรถได้ถูกขโมยไปรูด 2 ใบ จากนั้นก็เอากลับมาใส่กระเป๋าคืนที่เดิม แล้วก็ขโมยบัตรใบที่มีเงิน 100,000 บาท ไปอีก 1 ใบ ใบนี้ยังไม่ได้คืน ส่วนเรื่องข่มขืน ตนไม่ได้ข่มขืน เพราะผู้หญิงหน้าตาไม่สวยเหมือนในรูปในโซเชียล ตนไม่ชอบ
 
ทางด้าน ผู้กำกับการ กล่าวว่า ทางคนจีนมาแจ้งความว่า ผู้หญิงไทยนำบัตรเคดิตเขาไปใช้โดนไม่ได้รับอนุญาต เราได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปสอบสวนแล้ว เรื่องตำรวจสืบสวนไปเยอะแล้ว แต่บอกไม่ได้ เพราะอยู่ในสำนวน ทางเราขอใช้เวลาสืบสวนสักพัก ถึงจะบอกได้ว่าฝ่ายไหนเป็นฝ่ายโกหก
 
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 
ชมผ่าน YouTube https://youtu.be/MpdCHYquCOY?feature=shared

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง