ชำแหละเบื้องหลัง เด้งฟ้าผ่า แพ็กคู่ “บิ๊กต่อ - บิ๊กโจ๊ก” สะท้านทั้ง สตช. !

กลายเป็นประเด็นร้อนที่สุดในรอบวันนี้ หลังจาก "บิ๊กต่อ - บิ๊กโจ๊ก" ออกมากอดกันหวานชื่นสงบศึกเสื้อสีกากี ทว่าจากนั้นไม่นาน นายกฯ ประกาศเด้งฟ้าผ่าทั้งคู่ เรื่องนี้จะเป็นอย่างไร มาติดตามวิเคราะห์กันในรายการถกไม่เถียง !

 

 

            วันที่ 20 มี.ค. 2567 ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโสสำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ กล่าวว่า การที่นายกฯ สั่งย้ายบิ๊กโจ๊ก และบิ๊กต่อ ให้ไปช่วยงานที่ทำเนียบรัฐบาล ตนมองว่าเป็นเรื่องที่ดี เด็ดขาดดี เพราะจะได้หยุดทะเลาะกัน แล้วไปดูคดีอื่น ช่วยประชาชนเสียดีกว่า ซึ่งตนก็มองว่าเขาน่าจะรู้กันมาก่อนอยู่แล้ว เพราะได้คุยกับนายกฯกันมาก่อนจะแถลงข่าวแล้ว อย่างไรก็ตาม ด้วยคำสั่งของท่านนายกฯ ที่ให้ย้ายไปช่วยราชการที่ทำเนียบรัฐบาล 60 วัน ก็มีความเป็นไปได้ที่บิ๊กต่อ จะได้กลับมาดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. เพราะอายุราชการยังเหลือ ทว่า ถ้ากลับมาแล้วจะยังคงมีรอยร้าวกับบิ๊กโจ๊กอยู่หรือไม่ตนก็ไม่แน่ใจ เพราะนี่คือการกอดกันออกสื่อรอบที่ 2 แล้ว จากรอบแรกเมื่อเดือน ต.ค. 2566 จะมีกอดรอบ 3 อีกหรือเปล่าก็ไม่มีใครรู้ 

 

            สำหรับเรื่องนี้ ท่านนายกฯคงหยุดทำไม่ได้ นี่เป็นเรื่องเดียวที่เขาจะเอามาชูโรง จะทำให้รัฐบาลมีเกียรติที่สุด ซึ่งตนคิดว่าคงตั้งกรรมการขึ้นมาสอบข้อเท็จจริง และทั้งคู่จะถอยหลังให้คดีไปตามระบบจริงไหม ทีมรัฐบาลคงจับตาดูให้ตรงนี้มันนิ่งขึ้นมาหน่อย นอกจากนี้ ในเรื่องของตำแหน่ง ผบ.ตร. คนต่อไปนั้น รอง ผบ.ตร. มีโอกาสได้รับเลือกเป็นทุกคน ซึ่งเรื่องของบิ๊กโจ๊ก ที่จะถูกดำเนินคดีในตอนแรก เพราะเขาอยากให้โดนคดีเป็นผู้ต้องหา ซึ่งจะทำให้โอกาสการได้รับตำแหน่งนั้นปิดลง ทว่าในตอนนี้นั้นที่ต้องส่งเรื่องไป ปปช. จะเท่ากับว่าบิ๊กโจ๊กไม่ได้เป็นผู้ต้องหาจนกว่า ปปช. จะชี้มูลความผิด 

 

 

            ฟาก พล.ต.ต. วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ความเห็นว่า การที่นายกฯตัดสินใจวันนี้ ถือว่าถูกต้อง เพราะ ทำเพื่อไม่ให้องค์กรตำรวจเสียหายไปมากกว่านี้ หรือแตกความสามัคคีกัน และถ้าหากปล่อยไปเรื่อย ๆ คดีนี้มันจะไม่จบ การทำแบบนี้จะทำให้มีคนกลางเข้ามาดำเนินการคดีต่อ ซึ่งดีกว่าการที่ทั้ง 2 ฝ่ายบอกจะเซ็ตซีโร่ เพราะอาจทำให้ประชาชนเกิดการแคลงใจ หมดความเชื่อถือต่อองค์กรตำรวจได้ แต่อย่างไรก็ตามก็ควรดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมาต่อเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเรื่องอะไร หรือจะฝ่ายไหน ดำเนินการให้ชัดไปเลย เรื่องนี้มันก็จะจบ 

 

            ขณะเดียวกัน คำสั่งที่ให้ไปช่วยราชการที่ทำเนียบรัฐบาลนั้น ตนมองว่ายังไงบิ๊กต่อก็จะได้กลับมารับหน้าที่ ผบ.ตร. เพราะคำสั่งบอกให้ไปช่วยราชการชั่วคราว 60 วัน แต่ก็อาจจะกลับมาก่อนครบ 60 วันได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรที่จะมาเปลี่ยนแปลงคำสั่งนายกฯ ส่วนกรณีที่บิ๊กโจ๊กบอกว่าจะเซ็ตซีโร่ เขาจะจบปัญหา ถอนฟ้องเท่าที่จะทำได้ เพราะคดีความบางอันมันจบไม่ได้ บางเรื่องต้องส่งไป ปปช. ตรวจสอบ ซึ่งตนคิดว่ายังไงเรื่องนี้ก็จบที่ศาล เมื่อหลักฐานพอ 

 

            สำหรับตำแหน่ง ผบ.ตร. หลังจากบิ๊กต่อเกษียณอายุไปแล้วนั้น ตนคิดว่าทุกคนที่เป็น รอง ผบ.ตร. มีโอกาสได้ทุกคน ด้วยกฎหมายการเลือก ผบ.ตร. นั้นระบุไว้ว่า ให้คำนึงถึงความอาวุโส ความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ป้องกันและปราบปราม และประสบการณ์สืบสวนสอบสวน ดังนั้น คณะกรรมการอาจจะไม่ได้คำนึงอันไหนเป็นหลัก อย่างเช่นรอบที่ผ่านมา ที่บิ๊กต่อได้รับเลือกนั้น คณะกรรมการยังให้เหตุผลว่าท่านมีความเป็นผู้นำ  จึงได้รับเลือก นอกจากนั้น ถ้าบิ๊กโจ๊กโดนคดีอาญา ก็คงหมดโอกาสที่จะได้รับตำแหน่ง

 

 

            ด้าน รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล รองอธิการบดี และประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาฯ ม.รังสิต กล่าวว่า เรื่องที่นายกฯ ตัดสินใจวันนี้ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูก ทำเพื่อลดการขัดแย้งขององค์กรตำรวจ ถ้าปล่อยไว้เรื่อย ๆ ปัญหานี้จะส่งผลต่อตำรวจระดับล่าง ๆ ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของทั้ง 2 ฝั่ง เกิดรอยร้าวขึ้น และจะส่งต่อมาถึงประชาชนที่เขารอให้ตำรวจมาแก้ปัญหา และนอกจากนั้นควรจะดำเนินการต่อ จัดการในคดีนี้ ตั้งกรรมการกลางขึ้นมาตรวจสอบและดำเนินการเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เกี่ยวข้อง 

 

            ส่วนเรื่องการกลับมารับตำแหน่ง ผบ.ตร. ของบิ๊กต่อนั้น ตนมองว่ามีความเป็นไปได้ ด้วยอายุราชการของท่าน ยังมีเวลาอยู่ แต่อีกประเด็นหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับการตรวจสอบข้อเท็จจริงคดีนี้ ที่ท่านนายกฯอาจจะส่งคณะกรรมการมาตรวจสอบ ต้องมาดูว่าผลจะเป็นอย่างไร สำหรับเรื่องนี้ปัญหาความขัดแย้งอาจจะทุเลาเบาลง แต่เรื่องคดีก็ต้องว่ากันไปตามขั้นตอน แต่ไม่ว่าจะอย่างไร เราจะทำอะไรก็ตาม อย่าดูถูกความรู้สึกของประชาชน สำหรับตนมองว่า คนที่จะได้เป็น ผบ.ตร. คนต่อไปนั้น ขึ้นอยู่กับท่านนายกฯ ว่าท่านจะเสนอใคร อาจจะไม่ได้เสนอคนที่อาวุโสอันดับ 1 ก็ได้ แต่ทว่าต้องทำให้ประชาชนได้รับทราบเหตุผลในการไม่เสนอคนที่อาวุโสที่สุด