ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ผลจากคดีเว็บพนัน BNK master ที่ บิ๊กโจ๊ก ถูกกล่าวหาพัวพันฟอกเงิน ดูเหมือนจะพลิกไปพลิกมา หลังจากเมื่อวานนี้ ทีมทนายและลูกน้องบิ๊กโจ๊ก แถลงแฉเส้นทางการเงิน พร้อมกับเปิดชื่อบิ๊กตำรวจ ต. ทำให้วันนี้ นายกรัฐมนตรีเรียกทั้ง ผบ.ตร. และบิ๊กโจ๊ก เข้าพบ จนนำมาที่ทั้ง 2 คน ออกมาแถลงจูบปากกันเหมือนไม่มีอะไรแล้ว คดีทั้งหมดจะส่งให้ ป.ป.ช. ทำ แต่ไม่นาน สถานการณ์พลิกอีกครั้ง เมื่อนายกรัฐมนตรีสั่งเด้งทั้งคู่ไปช่วยงานที่สำนักนายกรัฐมนตรี
ย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงสาย เวลาประมาณ 11.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เรียก พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อพูดคุยเรื่องปัญหาคดีเว็บพนันออนไลน์ที่เกิดขึ้น
ทั้งคู่เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพียงแค่ประมาณ 10 นาที จากนั้นทั้ง พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ และ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล ไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งตอนนั้น พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ให้สัมภาษณ์ว่า กำลังจะไปแถลงข่าวที่สำนักงานตำรวจ ตนและ ผบ.ตร.ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีแล้ว
กระทั่งเวลาประมาณ 11.50 น. ทั้ง พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ และ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ แถลงคู่กันที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ กล่าวว่า การเข้าพบนายกรัฐมนตรี ร่วมกับ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ นั้น ตนเป็นคนประสานขอเข้าไปพบร่วมกันเอง โดยได้โทรศัพท์พูดคุยกับ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ตั้งแต่เมื่อคืน ได้เสนอต่อนายกรัฐมนตรี ให้รวมสำนวนคดีเว็บพนันทั้ง สน.เตาปูน และ สน.ทุ่งมหาเมฆ ไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ดำเนินการต่อ เพื่อความความยุติธรรม และไม่เกิดภาพของความขัดแย้งขึ้นอีก
ที่ผ่านมาได้คุยกับ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ มาตลอด ถ้าไม่เจอก็โทรศัพท์คุย ภาพความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ไม่อยากให้ถูกนำไปมองว่าเป็นความขัดแย้งของคน 2 คน ซึ่งเกิดจากสื่อโซเชียลมีเดีย ที่พยายามปั่นให้เกิดความขัดแย้งกัน โดยหลังจากนี้หากเกิดภาพความขัดแย้งขึ้นอีก ให้เข้าใจว่าเกิดจากโซเชียลมีเดีย ไม่ได้เกิดจากตนเองทั้ง 2 คน
ตนไม่เคยคิดเตะสกัดขา พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ เพราะไม่มีเหตุผลที่ต้องทำเช่นนั้น ยอมรับว่า เครียดกับภาพความขัดแย้งที่เกิดขึ้น เพราะมีปัญหาหลายอย่างเข้ามา แต่ก็พยายามประคองสถานการณ์ โดยตนเหลือเวลาราชการอีกแค่ 194 วัน เป็นการนับถอยหลังที่อยากทำทุกวันให้ดีที่สุด โดยฟางเส้นสุดท้ายที่ตัดสินใจยุติปัญหา คือ การโทรศัพท์ไปหา พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ และพาไปพบนายกรัฐมนตรี เมื่อเช้าที่ผ่านมา
ส่วนประเด็นที่ พลตำรวจตรี นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ แถลงชื่อย่อนายพล ต. ภรรยา พี่สาวและพี่ชาย มีส่วนเกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์เมื่อวานนี้นั้น พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ ระบุว่า สั่งให้พนักงานสอบสวนไปตรวจสอบในทางลับแล้ว ส่วนตัวไม่อยากให้กลายเป็นประเด็นอีก
ด้าน พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ระบุว่า ผบ.ตร. ได้พาตนไปพบกับนายกรัฐมนตรี โดย ผบ.ตร. มีแนวคิดที่จะยุติความขัดแย้งในองค์กรตำรวจ วันนี้ต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่ ตั้งแต่รอง ผบ.ตร. ถึงชั้นประทวน ทุกคนมีผู้บังคับบัญชาคนเดียวคือ ผบ.ตร.
ส่วนหมายจับหมายเรียกก่อนหน้านี้ จะเป็นกระบวนการของ ป.ป.ช. ดำเนินการ ซึ่งจะออกหมายเรียกหรือหมายจับ ก็เป็นเรื่องของ ป.ป.ช. และกรณีตำรวจ สน.เตาปูน ออกหมายเรียกตนให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาคดีเว็บพนัน BNK Master ในวันพรุ่งนี้ ตามหลักกฎหมาย ป.วิอาญา ยังถือว่าตนไม่ได้รับหมาย เพราะช่วงที่มีการออกหมายเรียกตนเองอยู่เชียงใหม่ กระบวนการรับหมายจึงยังไม่เริ่มขึ้น โดยทุกคดีที่เกี่ยวเนื่องกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบจะต้องส่งไป ป.ป.ช.
โดย ผบ.ตร. ได้พูดชัดเจนแล้ว การเปิดแถลงข่าววันนี้ จึงถือเป็นสัญญาณแรกที่จะคืนความสุข ความสามัคคีในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันนี้ถือว่าเป็นการเซตซีโรใหม่แล้ว
พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ยังกล่าวด้วยว่า จะไม่มีเอาคืนกับพนักงานสอบสวนที่ทำสำนวนคดีตนเอง เพราะไม่เช่นนั้นจะถูกนายกรัฐมนตรีตำหนิ และสังคมมองว่าตนก็ยังเป็นคนเดิม ส่วนตัวเหลืออายุราชการ 7 ปี วันนี้ทุกอย่างจึงต้องให้อภัย เพราะการเป็นผู้บังคับบัญชาต้องรู้จักเสียสละและให้อภัย พร้อมระบุจะมีการถอนฟ้องคดีตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
หลังจากแถลงข่าว พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ และ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ได้แสดงความเคารพ โดยการยกมือไหว้และโค้งคำนับ และยืนชิดกัน เพื่อให้สื่อมวลชนถ่ายภาพ และมีจังหวะที่ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ เอื้อมมือแตะลักษณะประคองไหล่ของ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ด้วย ส่วน พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ โอบเอว พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ เพื่อแสดงถึงความสัมพันธ์ที่ฟื้นตัวขึ้นใหม่
แต่ว่าหลังจากที่ทั้งคู่แถลงสามัคคี จูบปากกันไม่นาน มีคำสั่งนายกรัฐมนตรี สั่งให้ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พร้อม พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล เป็นเวลา 60 วัน พร้อมตั้งคณะกรรมการ 3 คน มาตรวจสอบข้อเท็จจริง และระหว่างนี้ให้ พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. มารักษาการ ผบ.ตร แทน
พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. หรือ บิ๊กต่าย ปัจจุบัน เป็นหัวหน้าศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อายุ 59 ปี ภูมิลำเนาเป็นคนจังหวัดราชบุรี จบโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่น 25 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 41
เริ่มรับราชการตำรวจ ตำแหน่งรองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองระยอง จังหวัดระยอง ผลงานเด่นด้านปราบปราม คือ การปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ เช่น แก๊งคอลเซนเตอร์ หลอกลวงออนไลน์ การปราบปรามยาเสพติด
ส่วนผลงานเด่นด้านบริหาร เป็นผู้รับผิดชอบหลักสูตร กอส. ใหม่ หรือการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจและบุคคลที่บรรจุหรือโอนมาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร เน้นการพัฒนาทักษะตำรวจยุคใหม่
ย้อนกลับไป ตอนที่ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ กับ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ แถลงจูบปากกัน ให้ส่งคดี BNK master ไปให้ ป.ป.ช. ทำ มีคำถามมากมายเกิดขึ้นมากมาย รวมถึง นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความชื่อดัง ตั้งคำถามว่านี่เป็นการเกี้ยะเซียะกัน เพราะเมื่อวานนี้ ทีมทนายของ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ และลูกน้อง ออกมาแฉเส้นทางการเงินถึงบิ๊กนายพลตำรวจ หรือไม่ ถ้าเป็นแบบนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะไม่เหลือความน่าเชื่อถือ และในความเห็นของตน คดีฟอกเงินเป็นความผิดส่วนตัว ไม่สามารถส่ง ป.ป.ช.ได้
ล่าสุด พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่ สตช. ว่า ได้เห็นคำสั่งดังกล่าวแล้ว ตนก็ยอมรับผลที่จะมีตั้งแต่วันนี้ และวันพรุ่งนี้ก็จะไปรายงานตัว ยอมรับว่าทุกอย่างไม่เคยมองเป็นแง่ลบ ซึ่งขณะที่ไปเข้าพบนายกรัฐมนตรี ท่านบอกว่า เดี๋ยวมีคำสั่ง ซึ่งเนื้อหาที่เห็นคร่าว ๆ คือ เนื่องจากตนไม่สามารถบริหารความขัดแย้งได้ จึงต้องมอบหมายให้ผู้ไม่มีส่วนได้เสียมาเป็นรักษาการณ์ ผบ.ตร. แทน เพื่อให้การสอบสวนเป็นไปอย่างยุติธรรม แม้ตนก็ยังคงเป็น ผบ.ตร. อยู่ แต่พรุ่งนี้จะไม่ได้มาร่วมประชุมมอบนโนบายของนนายกรัฐมนตรีด้วย เพราะมีภารกิจตามรับเสด็จ
ส่วน พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ให้สัมภาษณ์ว่า รับทราบคำสั่งดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่เห็นเนื้อหาว่าให้ไปปฏิบัติหน้าที่อะไร แต่ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชา เมื่อผู้บังคับบัญชามีคำสั่งมาก็พร้อมปฏิบัติหน้าที่ ส่วนมูลเหตุคำสั่งย้ายทั้ง 2 คนนั้น ยังไม่ทราบว่าด้วยเหตุผลใด ต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง แต่จะเกิดจากความขัดแย้งระหว่างตนเองกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือไม่ ก็ไม่ยืนยัน เนื่องจากการประชุมร่วมกันระหว่างนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และตนเอง เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาก็ไม่เห็นสัญญาณบ่งชี้ใด ๆ
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35