logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

หนุ่มตกเป็นแพะ ลักทรัพย์-ต้มตุ๋นชาวบ้าน เหตุแค่ “ทะเบียนรถหาย” | ถกไม่เถียง

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : ข่าวเย็นประเด็นร้อน - มีให้เห็นอยู่ทุกวันในคดีที่ผู้เสียหายตกเป็นแพะรับบาป พอพิสูจน์ได้ว่าบริสุทธิ์ กลับไม่ได้รับการเยียวยา ช่อง7,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว,ข่าว7,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวเด็ด,ข่าวด่วน,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูทีวีย้อนหลัง,ดูรายการย้อนหลัง,ดูย้อนหลัง,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์,เปรมสุดา สันติวัฒนา,ฝนฟ้าอากาศ,ทิน โชคกมลกิจ

208 ครั้ง
|
19 มี.ค. 2567
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - มีให้เห็นอยู่ทุกวันในคดีที่ผู้เสียหายตกเป็นแพะรับบาป พอพิสูจน์ได้ว่าบริสุทธิ์ กลับไม่ได้รับการเยียวยาจากหน่วยงานใด ๆ ปล่อยผ่านเหมือนไม่มีคดีอะไรเกิดขึ้น ส่วนผู้เสียหายก็ต้องสูญเสียทุกอย่างไประหว่างต่อสู้คดี
 
เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา นายธนกิจ ทองทิพย์ เดินทางมาร้องขอความช่วยเหลือกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และเป็นผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กรณีตกเป็นแพะ เนื่องจากถูกมิจฉาชีพขโมยทะเบียนรถยนต์ นำไปสวมก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์ต้มตุ๋นชาวบ้าน จนทำให้ครอบครัวตนเองถูกจับดำเนินคดี 3 คน
 
นายธนกิจ ทองทิพย์ ผู้เสียหาย เล่าว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปี 2562 ซึ่งตอนนั้นตนได้ไปขายของที่งานวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดหนองคาย ปรากฏว่า ทะเบียนรถยนต์ กจ 1367 หนองคาย ถูกขโมยไปทั้งด้านหน้าและด้านหลัง จึงได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองหนองคาย
 
จากนั้นปี 2565 ตนเอง แม่ และน้องสาว ถูกออกหมายจับ เนื่องจากมีผู้เสียหายไปแจ้งความที่ สภ.เมืองเลย ว่า ถูกลักทรัพย์ ซึ่งตำรวจได้ทำการตรวจสอบและพบว่าหมายเลขทะเบียนรถยนต์ที่มีชื่อตนผู้ครอบครอง เป็นคันที่ไปก่อเหตุ
 
ตนจึงเดินทางไปชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเลย พร้อมกับแสดงเอกสารให้ดูว่า ปี 2562 เคยไปแจ้งความเนื่องจากถูกขโมยทะเบียนรถยนต์ และรถยนต์ของตนเองกับคนร้ายก็เป็นรถคนละยี่ห้อกันเลย รถตนเป็นรถกระบะสีขาว ส่วนรถคนร้ายที่สวมทะเบียนเป็นรถยนต์สีเหลือง
 
แต่ผู้เสียหายกลับยืนยันและชี้ตัวว่าตนเป็นผู้กระทำผิดจริง ตำรวจจึงทำการส่งสำนวนให้อัยการ ก่อนที่ศาลชั้นต้นจะมีคำพิพากษายกฟ้องแม่และน้องสาว แต่ให้จำคุกตน 3 ปี ไม่รอลงอาญา ซึ่งตนได้วางหลักทรัพย์ยื่นประกันตัว เป็นเงินสด 70,000 บาท พร้อมกับยื่นอุทธรณ์ ซึ่งศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษากลับ โดยศาลให้เหตุผลว่า คงไม่มีใครถอดทะเบียนรถยนต์ตัวเองไปใส่รถคันอื่นเพื่อไปตระเวนก่อเหตุ
 
นอกจากนี้ ตนยังถูกออกหมายเรียกเมื่อปี 2565 จาก สภ.ไทยเจริญ จังหวัดยโสธร ในข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะ และหมายเรียกจาก สภ.ชุมแพ จังหวัดขอนแก่น เมื่อปี 2566 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง แต่ทั้ง 2 คดี พนักงานสอบสวนได้ทำการสืบสวนสอบสวนจนได้ข้อเท็จจริงว่าตนไม่ได้ก็ทำผิดจริงตามที่ถูกกล่าวหา จึงสั่งไม่ฟ้อง
 
ตนอยากตั้งคำถามไปยังตำรวจ สภ.เมืองเลย ว่า ทำไมไม่มีความรอบคอบในการสืบสวนสอบสวน ทั้งที่ตนก็มีหลักฐานยืนยันอย่างชัดเจน และอยากจะบอกผู้เสียหายที่มาชี้ตัวยืนยันว่าตนเป็นผู้ทำผิดจริง ว่า ทำไมต้องมาทำกันแบบนี้ เพราะทำให้ตนใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวง ต้องถูกสังคมตราหน้าว่าเป็นโจร
 
ติดตามประเด็นนี้ในรายการ “ถกไม่เถียง” กับ ทิน โชคกมลกิจ
 
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง