ผู้เช่าโอด เจ้าของบ้านหัวหมอ “ไม่คืนมัดจำครึ่งแสน” ล่อ “ให้ถอนแจ้งความ” ลวง “ให้ขอขมา”

ผู้เช่าหัวจะปวด วางเงินมัดจำ จ่ายเงินล่วงหน้า เจอเจ้าของบ้านหัวหมอ ถึงไม่ยอมคืนมัดจำครึ่งแสน ช้ำหนัก ! ถูกเจ้าของบ้านล็อกบ้าน สุดท้ายต้องเร่ร่อน “เงินก็ไม่ได้ ที่อยู่ก็ไม่มี”

 

วันที่ 17 มี.ค. 67 สุนทราภรณ์ บุญนะ (กระแต) ผู้เช่า ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า ตนเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้เมื่อ 31 ส.ค. 2566 สัญญาเริ่ม 1 ก.ย. 2566 อยู่ได้ประมาณ 6 เดือน ตนกับแฟนคุยกันว่าจะย้ายไปทำงานต่างจังหวัด ตนเลยไปคุยตกลงกับเจ้าของบ้านว่าขออนุโลมเรื่องเงินมัดจำหน่อยได้ไหม พอดีว่าตนจะย้ายที่ทำงานไปอยู่ต่างจังหวัด เพราะมีค่าใช้จ่ายเยอะ หลังจากคุยเจ้าของบ้านที่บอกให้ตนหาผู้เช่าใหม่มาอยู่แทนหน่อย เรื่องเงินมัดจำเดี๋ยวคืนให้ทั้งหมด ตนก็หาผู้เช่าใหม่มาให้ ในวันที่ 5 มี.ค. เจ้าของบ้านทักมาขอค่าเช่า ตลอดระยะเวลาที่อยู่บ้านหลังนี้มาตนไม่เคยขาดจ่ายเงินค่าเช่าเลยสักครั้ง

 

 

ตนแจ้งขอย้ายออกเมื่อวันที่ 29 ก.พ. 2567 ในเดือน มี.ค. วันที่ 5 เจ้าของบ้านก็ทักมาทวงค่าเช่า ตนก็จ่ายไปตามปกติเพราะยังไม่ได้ยกเลิกสัญญา ตนหาผู้เช่าใหม่ได้วันที่ 8 มี.ค. 2567 โดยหาผู้เช่าใหม่เข้ามาอยู่ภายในวันที่ 10 มี.ค. 2567 ถ้าตนหาผู้เช่าใหม่มาได้ทางเจ้าของบ้านจะคืนเงินมัดจำและค่าเช่าเดือนมีนาคมให้ เท่ากับว่าตนต้องได้เงินคืน 3 เดือน เงินมัดจำ 2 เดือน และเงินค่าเช่าเดือนมีนาคม 1 เดือน แต่กลับไม่ได้เงินตามที่ตกลงกันไว้ วันที่ 12 มี.ค. 2567 ตนเลยไปแจ้งความ พอมีใบแจ้งความเจ้าของบ้านก็ติดต่อกลับมาทันที ให้ตนถอนแจ้งความเดี๋ยวจะดำเนินการเหมือนเดิมตามที่แจ้งไว้ตอนแรก แล้วจะโอนเงินให้ทั้งหมด ตนเลยถอนแจ้งความแต่ก็ไม่ได้เงินคืน

 

 

ด้าน อนันต์ ชาวัน (นัน) ผู้เช่า เล่าว่า ตนมีหลักฐานเป็นแชตไลน์ ตอนแรกเสนอข้อตกลงไปว่าจะย้ายงานก็บอกเหตุผลให้เจ้าของบ้านฟัง เจ้าของบ้านบอกถ้าหาผู้เช่าใหม่มาได้ก็ตามนั้น ตามที่ได้แจ้งไปข้างต้น พอวันที่ 10 มี.ค. มีผู้เช่าใหม่เข้าก็ตนก็นัดทางผู้เช่าใหม่ให้มาดูบ้าน พร้อมบอกทางเจ้าของบ้านถ้าอยากเจอผู้เช่าใหม่ก็เข้ามาได้ พอเจ้าของบ้านมาถึงก็บอกว่าขอยกเลิกนะพอดีเขามีลูกค้าคนอื่นมาดูด้วย เขาให้ค่าเช่าเยอะกว่า ตนและแฟนก็งงว่าข้อตกลงที่คุยไปก่อนหน้าคือจะทำอย่างไร หลังจากนั้นเจ้าของบ้านก็กลับมาเปลี่ยนกุญแจ สัญญาเก่าก็ยังไม่ได้ยกเลิก ทุกวันนี้ตนกับแฟนก็ยังเข้าบ้านไม่ได้

 

 

สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม หลักฐานในไลน์มัดตัวเจ้าของบ้านเลย เพราะสัญญาเกิดขึ้นก่อนที่จะคุยกันในไลน์ ดังนั้นข้อความไลน์ในปัจจุบันสามารถผู้มัดตัวผู้ใช้เช่าได้ ถึงแม้ว่าเราจะถอนแจ้งความเรื่องความผิดฐานฉ้อโกง แต่มีอีกความผิดหนึ่งที่เจ้าของบ้านเขาหลงลืมไปก็คือ ความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ กรณีหลอกลวงทางไลน์ โทษจำคุกไม่เกิด 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำปรับ