ผู้เช่าร้อง ถูกเจ้าของที่แสบ “เอาเปรียบ” ตกแต่งอย่างดีปุ๊บ เฮียตั้งร้าน - ติดป้าย บังมิดปั๊บ !

ผู้เช่าร้อง ถูกเฮียเจ้าของที่สุดแสบ เอาเปรียบจนสุดทาง หลังลงทุนทำร้านกว่าแสนบาท แต่กลับเฮียเจ้าของที่กลับเอาร้านของตัวเองมาตั้งบังหน้าร้าน ทำให้ขายของไม่ได้ แถมกีดกันทุกทางจนแทบสูญเงินลงทุนทั้งหมด

 

วันที่ 16 มี.ค. 67 คุณสุรีย์พร นาคไทย (พลอย) ผู้เช่า ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า ตนเช่าที่ขายของเมื่อ 12 พ.ค. 2566 ตัดสินใจเช่าเนื่องจากทำเลดี จึงตัดสินใจมาเช่าต่อจากคนที่รู้จัก เช่ากับเจ้าของพื้นที่คือเฮียต่าย ตอนที่ทำสัญญาเฮียต่ายได้เข้ามาและรับรู้ทุกอย่างว่าจะทำอะไรบ้าง โดยมีสัญญาเช่าปีต่อปี มัดจำ 15,000 บาท พร้อมคิดค่าเช่าเดือนละ 5,000 บาท ปีหน้าเดือนละ 6,000 บาท ตัดสินใจเช่าระยะยาวเพราะตนลงทุนไปหลักแสนบาท โดยทำเป็นร้านขายอาหารและเครื่องดื่ม ทั้งตู้คอนเทนเนอร์และพื้นที่ด้านข้าง

 

 

คุณหนึ่ง (นามสมมติ) พี่สาวของผู้เช่า เล่าต่อว่า หลังจากที่เช่าพื้นที่ ลงทุนทำร้านไปกว่าหลักแสนบาท ผ่านไปไม่กี่วันเฮียต่ายเจ้าของที่ นำร้านข้าวมันไก่ของตัวเอง มาตั้งใกล้กันพร้อมติดป้ายบังร้านของตน ทำให้ไม่สามารถขายของได้ ทำให้ต้องจ่ายค่าเช่าทิ้งตลอด 9 เดือน เนื่องจากไม่อยากให้หมดสัญญาเช่า เพราะเสียเงินลงทุนทำร้านไปเยอะ จนล่าสุดค่าเช่าของเดือน มี.ค. 67 ตัดสินใจไม่จ่ายค่าเช่าต่อ เนื่องจากรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังจากที่ไม่ได้จ่ายค่าเช่าแล้วติดต่อขอเจรจากับเฮียต่าย หลังจากนั้นกลับมีป้ายขนาดใหญ่มาติดบังหน้าร้าน มีรายละเอียดว่า "คิดสิ คิดสิ ทำอะไรดีว่าง 2 ห้อง"

 

 

เฮียต่าย คู่กรณี เจ้าของพื้นให้เช่า ชี้แจงว่า อีกฝ่ายไม่ได้พูดความจริง มีการนำน้ำกระท่อมมาขาย สัญญาเช่าทั้งตู้คอนเทนเนอร์ พร้อมพื้นที่ด้านข้าง ตนไม่รู้เรื่องเพราะตนไม่ได้ถือสัญญาอยู่กับตัว เพราะอีกฝ่ายเอาเอกสารสัญญาไปจากตนไปเขียนเอง ยืนยันว่าให้เช่าแค่พื้นที่ตู้คอนเทนเนอร์ ไม่เกี่ยวกับพื้นที่ด้านข้าง และเข้ามาตกแต่งร้านทำให้พื้นที่เสียหาย

 

สาเหตุที่ผู้เช่าหยุดขายเพราะขายไม่ได้ ไม่ใช่เพราะร้านข้าวมันไก่ของตนมาบังหน้าร้าน ยืนยันว่าตนเคยขายช้าวมันไก่ตรงนี้มานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาขายตอนนี้ ที่ดินผืนนี้เมื่อก่อนเป็นป่าไม่ได้ใช้ประโยชน์ ติดต่อกับราชพัสดุแล้วได้คำตอบว่าเป็นพื้นที่สีน้ำเงิน จึงเข้าไปจับจองแล้วลงตู้คอนเทนเนอร์ปล่อยเช่า และไม่ได้เสียเงินค่าที่ดิน เพราะเป็นที่ดินของราชพัสดุ ยืนยันว่าตนก็เสียหาย เพราะตู้คอนเทนเนอร์เสียหาย ตอนนี้ไปแจ้งความแล้วว่าผู้เช่าไม่ได้จ่ายเงินค่าเช่า และจะไปแจ้งข้อหาบุกรุก

 

 

ด้านคุณหนึ่ง และคุณพลอย ชี้แจงว่าตอนแรกจะทำเป็นร้านน้ำกระท่อม แต่ตัดสินใจเปลี่ยนไปขายอาหารและเครื่องดื่มในภายหลัง ยืนยันว่าร้านของตนทำถูกกฎหมายทุกอย่าง เรื่องตกแต่งร้านตนบอกให้เฮียต่ายรับรู้มาตลอด ส่วนร้านข้าวมันไก่ของเฮียต่ายไม่ได้ขายแถวนี้นานแล้ว แต่เอากลับมาขายตอนที่ตนทำร้านขายของ และมีหลักฐานว่าเฮียต่ายจะขายที่ดินให้ตนในราคา 400,000 บาท แต่พบว่าไม่มีเอกสารอะไรเลยเพราะเป็นที่ดินของราชพัสดุ ตอนนี้ตนต้องการขอเงินค่าเช่าคืน และต้องการต่อสัญญาเพื่อหาเงินก้อนจากคนมาเซ้งร้าน และนำเงินไปต่อยอด

 

 

ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ให้ความเห็นด้านกฎหมายว่า ถ้าหากที่ดินผืนที่ปล่อยเช่าเป็นที่ราชพัสดุ ไม่มีเอกสารอะไรเลยแล้วเอามาปล่อยเช่าจะมีความผิดทางกฎหมายข้อหาฉ้อโกง และยังมีความผิดอีกเนื่องจากขายของบนทางเท้า ส่วนข้อหาบุกรุกไม่สามารถแจ้งความได้เนื่องจากเป็นที่ดินของหลวงไม่ใช่ที่ดินของเฮียต่าย ถ้าหากยังตกลงกันไม่ได้ ก็ต้องไปว่ากันต่อตามหลักฐานในกระบวนการยุติธรรม

 

ชมผ่าน YouTube https://youtu.be/VdrqFXuzVyE?feature=shared