สาวช้ำ ! ใช้เงินก้อนสุดท้ายลงทุนเซ้งร้านเกือบ 4 แสนบาท ไม่ได้ต่อสัญญา | เช้านี้ที่หมอชิต

เช้านี้ที่หมอชิต - ทุกข์คนทำมาหากิน ใช้เงินก้อนสุดท้ายในชีวิตเช่าร้านตู้คอนเทนเนอร์ ทำร้านต่อไม่ไหวจะให้เซ้งต่อก็ไม่ได้ ซ้ำเจ้าของที่แสดงความหัวหมอ ตั้งร้านข้าวมันไก่บังหน้าร้าน ใช้น้ำใช้ไฟของร้าน ทำเอาเงินทุน 400,000 บาท แทบมลายหายจนหมดสิ้น

 

น.ส.สุรีย์พร นาคไทย ร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่า เธอเซ้งโครงสร้างร้านเหล้าเก่าด้านบนตู้คอนเทนเนอร์ ต่อจาก นางสาว A ในวันที่นัดคุยรายละเอียดตกลงทำสัญญากันมี นาย B มาคุยด้วย เพราะร้านที่จะเซ้งต่อนั้นตั้งอยู่บนตู้คอนเทนเนอร์ของนาย B และต้องมีการเช่าพื้นที่และตู้คอนเทนเนอร์ของนาย B ต่อจาก น.ส.A  ด้วย โดยในสัญญาระบุว่าให้เช่าตู้คอนเทนเนอร์พร้อมพื้นที่ด้านข้างตู้คอนเทนเนอร์ ในราคา 5,000 บาทต่อเดือน

 

โดย น.ส.สุรีย์พร ได้ชำระค่าเช่าล่วงหน้า 3 เดือน จำนวน 15,000 บาท หลังจากทำสัญญาเช่า ผู้เช่าได้ดำเนินกิจการไปประมาณ 3 เดือน ก็แบกภาระไม่ไหว เพราะต้องเดินทางจากบ้าน อำเภอพยุหะคีรี มาในตัวเมืองนครสวรรค์ทุกวัน จึงตัดสินใจจะเซ้งร้าน แต่นาย B แจ้งว่า ถ้าจะเซ้งร้านให้คนอื่นจะไม่ต่อสัญญาให้ผู้เซ้งรายใหม่ ทำให้ น.ส.สุรีย์พร ปรึกษากับพี่สาวเพื่อหาทางออก พี่สาวเลยเข้ามาร่วมลงทุน จะเปิดร้านใหม่เป็นร้านอาหารและเครื่องดื่ม แต่ขอแก้ไขต่อเติมตู้คอนเทนเนอร์จากทางผู้ให้เช่า เพราะตู้เก่าผุพังและไม่สวยงาม โดยนาย B ก็ยินยอมให้แก้ไข แต่หลังจากปรับปรุงพื้นที่แล้วเสร็จ นาย B กลับนำเอาร้านข้าวมันไก่มาตั้งบังหน้าร้าน ทำให้ น.ส.สุรีย์พร กับพี่สาว ไม่สามารถใช้พื้นที่ได้ดังเดิม จึงไปเจรจาให้นาย B นำร้านข้าวมันไก่ออกไปแต่ไม่ยอม อ้างว่าเป็นที่ของตนเอง

 

นอกจากไม่ออกจากพื้นที่ นาย B ยังมาใช้น้ำและไฟในพื้นที่ให้เช่า พร้อมปลดไฟราวตกแต่งของผู้เช่าออก เพื่อนำรถขายข้าวมันไก่เข้ามาจอด บุกรุกเข้าไปบริเวณโครงสร้างด้านบนเพื่อติดป้ายโฆษณาทั้งที่เป็นพื้นที่ของผู้เช่า แถมนำพื้นที่ให้เช่าไปแล้วไปให้ผู้อื่นเข้ามาใช้พื้นที่ ทั้ง ๆ ที่ผู้เช่าเดิมยังจ่ายค่าเช่าและยังไม่หมดสัญญาเช่า ทำให้ น.ส.สุรีย์พร ได้รับความเสียหายมาก จึงออกมาร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือด้วย

 

ทาง น.ส.สุรีย์พร บอกว่า สัญญาเช่า 1 ปี ทางผู้ให้เช่าระบุว่า หากพ้น 1 ปีจะต่อ จะขอขึ้นค่าเช่าอีก แต่ถึงตอนนี้เธอยังมีสัญญาแต่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้ให้เช่าเลย จึงอยากให้สื่อช่วยเป็นกระบอกเสียง ร้องเรียนความไม่เป็นธรรม เพราะเงินที่นำมาลงทุนเป็นเงินก้อนสุดท้ายที่พ่อทิ้งไว้ให้ต้องมลายหายไป เพราะความหัวหมอของผู้ให้เช่า