ลูกช้ำ ! พ่อถูกรถชนเสียชีวิต ผ่านมา 4 ปี ตำรวจยังไม่สรุปคดี | เบื้องหลังข่าว กับ กาย สวิตต์

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ลูกสาวออกมาร้องสื่อขอความเป็นธรรมกับสื่อ ขอให้ช่วยตามคดี พ่อขี่รถจักรยานยนต์ไปถูกรถเก่งชนท้ายเสียชีวิต เรื่องผ่านมา 4 ปีแล้ว แต่คดีไม่มีความคืบหน้าเลย ไปร้องขอความช่วยเหลือมาแล้วหลายหน่วยงาน แต่เรื่องยังเงียบ

 

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 64/6 หมู่ที่ 3 ตำบลท่าเสา อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ได้พบกับ นางสาวอ้อมหทัย ผลอุดม อายุ 37 ปี บุตรสาวของนายแจ้ง จันกล่อม อายุ 72 ปี ผู้เสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุ ด้วยการขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า โดยถูกรถยนต์เก๋ง ซึ่งหญิงอายุ 70 ปี เป็นผู้ขับ ที่จังหวัดกระบี่

 

นางสาวอ้อมหทัย ผลอุดม บุตรสาวของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2563 บิดาของตนเองขี่รถจักรยานยนต์ไปซื้อของที่ร้านค้าบริเวณริมถนนเหนือคลอง-ชัยบุรี จังหวัดกระบี่ หลังซื้อของเสร็จก็ขับรถออกมาจากร้านมาได้นิดเดียว ได้ถูกรถยนต์ของคู่กรณีขับมาชนช่วงท้ายรถเข้าอย่างแรง ทำให้รถจักรยานยนต์กระเด็นตกข้างทาง ส่วนพ่อตนเองกระเด็นขึ้นหน้ารถ ตกลงมาเสียชีวิตคาที่ มีบาดแผลกระดูกคอหัก ศรีษะแตก แขนหัก มีรอยถลอกตามตัว 

 

ต่อมาทางคู่กรณีได้ติดต่อเจรจาจะขอชดค่าเสียหายในวงเงิน 50,000 แต่แม่ของตนไม่ยอม ได้เรียกร้องขอเพิ่มเป็น 100,000 บาท ทางคู่กรณีได้ปฏิเสธที่จะจ่าย และบอกว่าขอให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการเลย จากนั้นตนได้จึงได้ให้ทางทนายความเป็นผู้ดำเนินการแจ้งความดำเนินกับคู่กรณี มีการขอคลิปวงจรปิด ตอนเกิดอุบัติเหตุกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไป แต่ตำรวจไม่ให้อ้างว่าอยู่ในสำนวนคดี ดูไม่ได้ บอกเพียงว่ารถคู่กรณีขับเร็วกว่ากฎหมายกำหนด กำลังจะยื่นฟ้องให้ 

 

ตนกับทนายความได้พยายามติดต่อร้อยเวรที่ทำคดีอยู่ตลอดว่าคดีคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว แต่ก็ได้รับคำตอบเดิม ๆ ว่า กำลังทำอยู่ จนช่วงหลังโทรไปก็ไม่รับโทรศัพท์แล้ว ตนเองจึงได้หอบเอกสารต่าง ๆ เข้าไปร้องเรียนยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาญจนบุรี แล้วทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาญจนบุรี ก็ได้ช่วยประสานไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่ แต่เรื่องก็เงียบหายไป ทนายได้ทำหนังสือไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ได้รับคำตอบว่าจะเร่งคดีให้ แต่เรื่องก็เงียบเหมือนเดิม ตนไม่รู้ว่าที่เรื่องเงียบเป็นเพราะคู่กรณีเป็นคนมีหน้ามีตาในจังหวัดกระบี่หรือไม่ เพราะเป็นถึงเจ้าของร้านทองในพื้นที่ และตั้งแต่เกิดเหตุมาคู่กรณีไม่เคยมาเยี่ยมเยือนครอบครัวผู้เสียชีวิตเลย

 

ตอนนี้ครอบครัวต้องขาดเสาหลัก เนื่องจากพ่อทำอาชีพเป็นช่างดูแลบำรุงเครื่องยนต์ ของบริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดกระบี่ ได้เงินเดือนเยอะ ค่อยส่งเงินมาให้ครอบครัวอยู่ตลอด

 

ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ไปสอบถามยัง พันตำรวจโท จรัญ แนบเพชร สารวัตรสอบสวน สภ.เขาพนม ซึ่งเป็นร้อยเวรที่ทำคดีนี้ ได้ให้ข้อมูลว่า คดีนี้ได้ทำเสร็จสิ้นไปแล้ว ได้ให้เจ้าพนักงานนำเรื่องไปส่งอัยการแล้ว แต่ไม่ทราบว่าเจ้าพนักงานนำเรื่องไปส่งหรือยัง เดี๋ยวจะสอบถามให้ ส่วนเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นคือ ผู้ตายขับรถออกจากร้านค้า จากนั้นก็ขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศร เป็นเหตุให้รถคู่กรณีที่มาทางตรงชนเข้าอย่างแรง ทำให้ผู้ตายเสียชีวิตคาที่ โดยมีกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพไปได้ จากนั้นตนได้ส่งกล้องวงจรปิดไปตรวจสอบความเร็วของรถยนต์คู่กรณี ปรากฏว่าตอนเกิดเหตุใช้ความเร็ว ระหว่าง 80-102 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถือว่าขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด ตนได้ทำสำนวนส่งฟ้องเรื่องนี้ดูแล้ว