ถ้าเราสนใจอยากจะลงทุนหุ้นจีน หุ้นอินเดีย หุ้นเวียดนาม ในช่วงนี้จะดีจริงไหม ?
การตัดสินใจในการลงทุนในตลาดหุ้นจีน, อินเดีย, และเวียดนามต้องพิจารณาจากปัจจัยหลายๆ อย่าง โดยรวมถึงสภาวะของตลาดที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละประเทศ และปัจจัยทางการเศรษฐกิจที่มีผลต่อการลงทุนในพื้นที่นั้น การทำความเข้าใจเกี่ยวกับสภาวะทางการเงิน และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องก็มีความสำคัญอย่างมาก
นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาปัจจัยที่มีผลต่อสภาวะทางการเมืองและการเศรษฐกิจในแต่ละประเทศด้วย เช่น นโยบายทางการเงินและการเศรษฐกิจของรัฐบาล ปัจจัยทางการเมืองและสังคม และปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงทางทหารและนิติบุคคลในพื้นที่นั้น การทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเข้าถึงตลาดและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องก็มีความสำคัญเช่นกัน
ความน่าสนใจในการลงทุน “หุ้นจีน”
1. นโยบายทางการจีนกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
2. ราคาหุ้นจีน ยังน่าสนใจ แม้ตลาดหุ้นจะถอยหลังไปช่วงหนึ่ง
3. พัฒนานวัตกรรม/อุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องกับมาตราการทางการจีน
4. เปิดให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาขายในตลาดหุ้นจีนง่ายขึ้นผ่าน “Stock contact”
3 ความเสี่ยงหลักที่ตลาดหุ้นจีนกำลังเผชิญหน้าอยู่
1. ความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจจีน
2. ผลกระทบจากภาคอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์ของจีน
3. การฟื้นตัวช้าของเศรษฐกิจโลก
แม้ว่าจีนจะมีการดำเนินมาตรการทางเศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่มีความเชื่อว่ามาตรการ เหล่านี้เป็นเพียง "มาตรการเฉพาะจุด" และไม่น่าจะเป็นมาตรการแบบใหญ่โต ซึ่งอาจทำให้ ประชาชนและนักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ความน่าสนใจในการลงทุน “หุ้นอินเดีย”
1. ตลาดหุ้นของอินเดียเป็นหนึ่งในตลาดยอดนิยมในเอเชีย
2. ในปี 2567 ขนาดเศรษฐกิจใหญ่ขึ้นเป็นอับดับ 3 ของเอเชีย
3. ปฏิรูปด้านภาษี-มาตรการจูงใจอื่นๆ
4. คาดปี 2567 ยอดระดมทุนอย่างต่ำ 1 ล้านล้านบาท
ความน่าสนใจในการลงทุน “หุ้นเวียดนาม”
เวียดนามได้รับประโยชน์จาก ยุทธศาสตร์ China Plus One ซึ่งบริษัทต่างๆ ได้กระจายการลงทุนเพื่อลดการพึ่งพาจีน โดยคาดว่าจะเห็นการเติบโตของ GDP 6%-6.5% ในปี 2567 จากการนำเข้าและส่งออกที่แข็งแกร่ง รวมถึงกิจกรรมการผลิตที่แข็งแกร่งขึ้น มีการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นมากกว่า 14% ในปีที่แล้ว เมื่อเทียบกับปี 2565
โดยมีปัจจัยหนุนหลัก 4 ประการ คือ
1. การการยกระดับความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ และญี่ปุ่น
2. การใช้นโยบายของรัฐบาลที่ยังคงผ่อนคลาย หลังเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเป้าหมาย
3. แนวโน้มการย้ายฐานการผลิตจากจีนมายังเวียดนาม
4. การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว (สัดส่วนราว 10% ของ GDP) โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติของเวียดนามเติบโตได้อย่างน่าประทับใจในปี 2566 เห็นได้จากช่วง 11 เดือนแรกของปีที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนเวียดนามแล้วกว่า 11 ล้านคน มากกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ที่ 8 ล้านคน
พบกับ "โคชหนุ่ม" และ "กาย สวิตต์" ได้ใน "เงินทองของจริง" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.05-9.15 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และช่องทางออนไลน์ TERO Digital