“ผู้กอง” เครียด ! ลั่นไกเมีย-พี่เมียดับ ก่อนปลิดชีพตัวเองตาม | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - อดีตตำรวจสืบสวนเมืองอุดรธานี เกิดอาการเครียดจัดโดยไม่ทราบสาเหตุ ลั่นไกใส่เมียและพี่สาวเสียชีวิต ก่อนยิงตัวเองตาย รวม 3 ศพ ทั้ง ๆ ที่วันพรุ่งนี้เป็นวันเกิดภรรยา และเตรียมที่จะทำบุญบ้านหลังใหม่

 

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.โนนสูง รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต 3 ราย ภายในบ้านสวนสุขรมย์ บ้านเดื่อ ตำบลบ้านตาด อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ยกสูง 2 ชั้น อยู่ในสวนพื้นที่ 15 ไร่ มีรั้วรอบขอบชิด บริเวณลานบ้านชั้นล่าง พบผู้เสียชีวิตนอนเรียงกัน 3 ราย ศพแรกคือร้อยตำรวจเอก สมเด็จ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี อดีตตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี สภาพศพสวมกางเกงขายาวสีดำ สวมเสื้อแขนยาวสีเทา คลุมทับด้วยเสื้อแจ็กเกตแขนกุดแบบเสื้อสนามคล้ายเสื้อเกราะกันกระสุน มีบาดแผลที่ศีรษะ นอนหงายจมกองเลือด มีอาวุธปืนกล็อกสีดำตกอยู่ระหว่างขา 1 กระบอก มีปลอกกระสุนขนาด 9 มม. ตกอยู่ที่พื้น 4 ปลอก และหัวกระสุน 2 หัว ใกล้กันพบศพผู้หญิง 2 ศพ คือ นางสุธาทิพย์ อายุ 53 ปี ภรรยาของร้อยตำรวจเอกสมเด็จ สภาพศพสวมกางเกงขาสั้นสีดำ เสื้อยืดสีแดง สวมผ้ากันเปื้อนทำครัว อีกศพ คือ นางพิมพลา หรือ ป้าไร่ อายุ 62 ปี ญาติผู้พี่ของนางสุธาทิพย์ สวมกางเกงขายาวสีดำ เสื้อลาย สวมผ้ากันเปื้อนทำครัวเช่นกัน ซึ่งทั้ง 3 ศพ มีบาดแผลถูกยิงจ่อยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ศีรษะคนละ 1 นัด

 

ที่เตียงไม้ พบว่ามีการเตรียมทำอาหาร เตรียมใบไว้ห่อข้าวต้ม มีถ้วยจานจำนวนมาก เตรียมจัดงานขึ้นบ้านใหม่อีกหลังที่อยู่ติดกัน และจัดงานวันเกิดของนางสุธาทิพย์ไปพร้อมกันวันพรุ่งนี้ (14 มี.ค.)

 

สอบถามชาวบ้านที่มีบ้านอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ เบื้องต้นทราบว่าสามีภรรยาเจ้าของบ้านทะเลาะกันอย่างรุนแรงช่วงหัวค่ำวานนี้ ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 5 นัด แต่ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดเหตุร้าย

 

นายพิบูลย์ หารกิ่ง อายุ 50 ปี คนสวน ซึ่งพบศพคนแรก เล่าว่า ทำงานมา 3 ปี มาทำงานแบบมาเช้าเย็นกลับ ตอนเช้ามาทำงานตามปกติ เปิดประตูรั้วเข้ามารู้สึกผิดปกติเหมือนไม่มีคนตื่น แต่พอเดินเข้าไปในบ้านก็พบนอนเสียชีวิตกองกัน 3 ศพ จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้าน

 

นายพิบูลย์ บอกด้วยว่า ปกติเห็นผัวเมียคู่นี้ซึ่งเป็นนายจ้างจะทะเลาะกันเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ไม่เคยเห็นทะเลาะกันรุนแรงขนาดนี้

 

ขณะที่เพื่อนตำรวจรุ่นน้องของผู้เสียชีวิต ระบุว่า ร้อยตำรวจเอกสมเด็จ หลังเกษียณราชการก็มาอยู่บ้านสวนหลังที่เกิดเหตุกับภรรยา และครอบครัวภรรยา ก่อนเกิดเหตุผู้ตายแจ้งเพื่อน ๆ ว่าจะทำบุญบ้าน คาดว่าระหว่างพูดคุยกับภรรยาและพี่สาวภรรยาเกิดการโต้เถียงกันรุนแรง อาจเป็นเรื่องหนี้สินสะสมที่ต้องหักใช้หนี้เพื่อนตำรวจในการค้ำประกันเงินกู้ยืมสมัยรับราชการที่เพื่อนตำรวจต้องใช้หนี้แทน ทำให้เงินไม่พอใช้จ่าย และผู้ตายอาจกดดันในหลายเรื่อง เกิดอาการซึมเศร้า เครียด จนก่อเหตุจบชีวิตด้วยการจ่อยิงภรรยาพี่สาวภรรยา และฆ่าตัวตายตาม

 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ร้อยตำรวจเอกสมเด็จ และภรรยา เคยแยกทางกันมาประมาณ 10 ปี ภรรยาไปมีสามีใหม่เป็นชาวอเมริกัน ต่อมา ร้อยตำรวจเอกสมเด็จ ได้ตามมาง้อและอยู่ด้วยกัน กระทั่งมาเกิดเหตุสลดใจ