หดหู่ ! ครูพบจดหมายในถังขยะ นำมาสู่การคลี่คลายคดีอนาจารเด็ก 12 ปี | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ครูสังเกตเห็นจดหมายเปื้อนน้ำตาถูกทิ้งในถังขยะหลังห้องเรียน นำมาสู่การคลี่คลายคดี เด็กสาวมีอายุ 12 ปี ถูกพ่อกับพี่ชายต่างมารดาทำอนาจารทุกวัน ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ จนถึงปัจจุบัน ครูนำเรื่องนี้ไปแจ้งมูลนิธิปวีณาฯ หลังผู้ก่อเหตุรู้ตัวว่าถูกออกหมายจับ จึงแยกย้ายกันหลบหนี ล่าสุดจับตัวพี่ชายต่างมารดาได้แล้ว

 

ครูพบจดหมายเปื้อนน้ำตาในถังขยะหลังห้องเรียน พบเป็นลายมือของนักเรียนหญิงภายในห้อง ในจดหมายระบุข้อความถึงผู้เป็นพ่อและพี่ชายต่างมารดาว่า หนูเกลียดพ่อ หนูเกลียดพี่ หลังครูประจำชั้นพบความผิดปกติ เด็กอายุ 12 ปี จึงยอมเล่าเรื่องราวกับครูประจำชั้นว่า เธอต้องอยู่ในสภาพตกนรกทั้งเป็น เริ่มตั้งแต่เมื่อปลายปี 2562 ตอนที่เธออายุได้เพียง 8 ขวบ เธอต้องอาศัยอยู่กับพ่อและพี่ชายต่างมารดา โดยทุกวันเธอจะถูกพ่อใช้มือล้วงเข้าไปในเสื้อและกางเกง จับหน้าอกและอวัยวะเพศ  เป็นประจำทุกวัน โดยทุกการกระทำของเธอมักจะถูกคนในครอบครัวพูดว่า ต้องเอาร่างกายมาแลก และที่เลวร้ายกว่านั้นคือพี่ชายต่างมารดาก็ร่วมวงทำเลียนแบบเช่นเดียวกับที่พ่อ ทำกับเธอมาจนถึงปัจจุบัน เป็นเวลากว่า 4 ปี ครูจึงนำเรื่องไปแจ้งกับมูลนิธิปวีณาฯ ทางมูลนิธิจึงได้ประสานกับตำรวจ สน.ดินแดง เพื่อออกหมายจับ ซึ่งหลังผู้ก่อเหตุทราบว่าถูกดำเนินคดีก็หอบข้าวของออกจากเมืองกรุง แต่ก็ยังไม่วายพยายามหาช่องทางที่จะคุกคามเหยื่อ โดยพบว่ามีบางครั้งปลอมตัวเป็นทนายความบุกไปที่โรงเรียนเพื่อข่มขู่ หลังทาง พล.ต.ท. ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ทราบเรื่อง จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ต. ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ส่งชุดสืบสวนติดตามจับกุมตัว จนสามารถตามรวบพี่ชายต่างมารดาได้

 

ผู้ต้องหารายนี้คือ นายปฏิภาณ อายุ 22 ปี อยู่ที่อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหากระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกิน 13 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าร้านขายของชำ ซอยประชาสงเคราะห์ 27 แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ โดยสืบทราบว่าตัว นายพรชัย และ นายปฏิภาณฯ ได้หลบหนีไปอยู่ละแวกภาคเหนือ ตามภูมิลำเนาเดิม ชุดสืบสวนจึงวางกำลังสะกดรอยติดตามกว่า 1 สัปดาห์ จนล่าสุดได้เบาะแสว่า นายปฏิภาณฯ ผู้เป็นพี่ชายของผู้เสียหาย กลับเข้ากรุงเทพฯ ชุดจับกุมจึงนำกำลังบุกเข้าไปจับกุมตัวได้ในที่สุด

 

เบื้องต้น นายปฏิภาณ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่ายอมรับว่าเป็นพี่ชายต่างมารดาจริง และอาศัยอยู่บ้านเดียวกัน เติบโตด้วยกันมาตลอดตั้งแต่เด็ก เรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องที่น้องสาวของตนมโนไปเอง สร้างเรื่องให้ตนกับพ่อถูกดำเนินคดี

       

ส่วน นายพรชัย ซึ่งเป็นพ่อแท้ ๆ ตอนนี้ยังหลบหนี้อยู่ พบประวัติของ นายพรชัย ว่าเคยถูกดำเนินคดี 2 คดี คดีแรก ปี 2563 ถูกดำเนินคดีข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย, ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดยาเสพติดได้กว่า 6 ล้านเม็ด คดีที่ 2 ปี 2564 ถูกดำเนินคดีข้อหาร่วมกันนำหรือพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย