logo ถกไม่เถียง

ย่าสุดช้ำ ถูกบุกยึดที่ดิน อ้าง “ครอบครองปรปักษ์” เข้าไปล้อมรั้ว ถูก “คู่กรณีไล่” หน้าตาเฉย !

ถกไม่เถียง : ย่า ช้ำใจหนัก เจอคนบุกรุกที่ดินมรดก พอฟ้องขับไล่ กลับอ้าง “ครอบครองปรปักษ์” อ้างอยู่มาตั้งแต่ปี 2547 ตำรวจเตือนก็ไม่เป็นผล แถมยังขู่ ถกไม่เถียง,ทิน โชคกมลกิจ,ch7,บางขุนเทียน,ครอบครองที่ดิน,ที่ดิน,ที่ดินรกร้าง,ที่ดินไม่ได้ใช้ประโยชน์,ครอบครองปกปักษ์,ย่าร้อง,บุกยึดที่ดิน,มอส,ขยะ,ทิ้งขยะ,สร้างบ้านล้ำที่,มรดก,ที่ดินมรดก,ฟ้องร้องครอบครองปกปักษ์,สารภี สืบสาย,คธาชล คุ้มผิวดำ,ฟ้องร้อง,ฟ้องขับไล่,ไล่ที่,ทีมทนายคลายทุกข์,อยู่มานาน 20 ปี,2547,กูเกิ้ล,google street view,หลักฐานเด็ด

16,754 ครั้ง
|
11 มี.ค. 2567
ย่า ช้ำใจหนัก เจอคนบุกรุกที่ดินมรดก พอฟ้องขับไล่ กลับอ้าง “ครอบครองปรปักษ์” อ้างอยู่มาตั้งแต่ปี 2547 ตำรวจเตือนก็ไม่เป็นผล แถมยังขู่เอาคนมาปิดพื้นที่ หน้าตาเฉย ! 
 
ถกไม่เถียง : ย่าสุดช้ำ ถูกบุกยึดที่ดิน อ้าง “ครอ
 
            วันที่ 11 มี.ค. 2567 สารภี สืบสาย (แว้ด) เจ้าของที่ดิน ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ  เล่าว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินมรดก ตกทอดมาถึงตน ตนได้ครอบครองตั้งแต่ปีพ.ศ.2527 เป็นที่ดินเปล่า ๆ ซึ่งตนได้เสียภาษีมาโดยตลอดจนปัจจุบัน แต่ทว่าที่ดินดังกล่าวไม่มีหลักทรัพย์ ตนจึงไม่ได้ทำการล้อมรั้ว จากกนั้นอยู่มาวันหนึ่งก็มีคนมาบุกรุก มาทิ้งขยะ พอตนไปแสดงตัวว่าเป็นที่ของตนพร้อมโชว์โฉนดเขาก็ไม่ไป เตือนด้วยวาจาก็ไม่เป็นผล เอาตำรวจมาก็ไม่เป็นผล เขาไม่ยอม โดยเขาอ้างว่า เขาอยู่ที่นี่มานานตั้งแต่ปีพ.ศ.2547 เขายืนยันว่าเป็นพื้นที่ของเขา ทีนี้พอพึ่งตำรวจไม่ได้เลยต้องหันไปพึ่งไสยศาสตร์ และสุดท้ายไปปรึกษาทนายเดชา ทีมทนายคลายทุกข์ 
 
            ตอนนี้อยากได้ให้พวกเขาออกไปจากที่ของตน ตนเสียภาษีมาตลอด อยากให้ถอนออกไปทุกอย่าง ซึ่งถ้าจะมาซื้อ หรือมาขอเช่า ขอไม่ยุ่งเกี่ยวใด ๆ 
 
ถกไม่เถียง : ย่าสุดช้ำ ถูกบุกยึดที่ดิน อ้าง “ครอ
 
            ฟาก คธาชล คุ้มผิวดำ (มอส) หลานเจ้าของที่ดิน เล่าต่อว่า เมื่อปีพ.ศ.2565 ตนได้ทำการให้เจ้าหน้าที่กรมที่ดินฯ มารังวัดที่ดิน เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ ซึ่งในตอนนั้นก็ไม่ได้มีใครมาคัดค้านอะไร แถมคู่กรณีเขาก็รู้ด้วย ว่าตนมารังวัดที่ดิน เรียกเขาให้มาดูเขาก็ไม่ได้สนใจ หลังจากนั้นได้เอากล้องวงจรมาติดถึงได้รู้ว่าพวกเขาเอาขยะมาทิ้งในที่ดินของตน กองเป็นผู้เขา ขณะเดียวกัน ได้ไปแจ้งความข้อหาบุกรุก แต่ตำรวจไม่ทำอะไร อ้างว่า เขาไม่ได้เป็นกรมที่ดิน ไม่สามารถตัดสินได้ ทั้งที่ฝั่งตนมีโฉนดที่ดิน 
 
            ทั้งนี้ เมื่อเดือน ก.พ. ปี 2566 คู่กรณี มีการเอาเสามาปักทำเป็นรั้วรวดหนาม กั้นที่ดินเอาเอง โดยที่เมื่อก่อนที่ดินนี้ไม่มีอะไรเลย นอกจากนั้น มีการทิ้งขยะ และเผาขยะ แถมยังจางรถไถ มาไถขยะ พร้อมกับช่วงหลังจากที่ตนฟ้องขับไล่ เขาก็มีการเอาต้นกล้วยมาปลูก แสดงความเป็นเจ้าของที่ดิน ทว่าต้นกล้วยดังกล่าวตนไปดึงออกมายังไม่มีรากเลย เหมือนว่าพึ่งซื้อมาปัก และยังมีการต่อเติมบ้านล้ำเข้ามาในที่ดิน ไม่ได้เกรงกลัวศาลเลย 
 
            ขณะเดียวกัน มีช่วงที่ตนจะเข้าไปกั้นรั้ว มีการเรียกประธานชุมชน ตำรวจ เข้ามาเจรจา แต่พอตำรวจเผลอ เขาก็มาขู่ตน บอกว่า ถ้าตนทำอะไรตรงนี้ เขาจะเอาพวกมาปิดพื้นที่ตรงนี้เลย และยังบอกอีกว่า ที่ละแวกนั้นเขาบุกรุกมาหมด ทำเป็นบ้านหมด ทว่า ที่ที่เขาทำบ้านพวกนั้น มันไม่มีโฉนด แต่พื้นที่ของตนมันมีเจ้าของมีโฉนด 
 
ถกไม่เถียง : ย่าสุดช้ำ ถูกบุกยึดที่ดิน อ้าง “ครอ
 
            ด้าน อำนวยพร  มณีวรรณ์ (ทนายกุ้ง) ทีมทนายคลายทุกข์ ให้ความเห็นว่า เคสนี้มีการฟ้อง 2 คดี ทั้งฟ้องบุกรุก และฟ้องขับไล่ ซึ่งในคดีที่ฟ้องขับไล่คู่กรณีเขาฟ้องแย้งเข้ามา อ้างว่าเขาครอบครองมาตั้งแต่ปี 2547 อ้างว่าเข้ามาปลูกบ้าน ปลูกต้นไม้ มีน้ำมีไฟ แต่ที่ดินของคุณย่าแว้ด มันไม่มีอะไรเลยมีแต่ขยะ ซึ่งบ้านที่เขาปลูกมันเป็นที่ของคนอื่นเขา ส่วนต้นไม้ก็เป็นต้นไม้ที่เขาเพิ่งเอามาปลูก 
 
            อย่างไรก็ตาม ตามหลักกฎหมาย การครอบครองปรปักษ์ได้นั้น จะต้องอยู่ในที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์ของคนอื่นต่อเนื่อง 10 ปี และไม่ใช่อยู่เฉย ๆ ต้องเข้ามาพัฒนาที่ดิน เข้ามาปลูกบ้านอย่างถาวร ไม่ใช่เพลิงหมาแหงนที่จะรื้อเมื่อไหร่ก็ได้ และต้องขอน้ำ ขอไฟจากหน่วยงานรัฐให้ถูกต้อง ส่วนการปลูกต้นไม้ ต้องเป็นต้นไม้ยืนต้นที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าปลูกมาแล้ว 10 ปี ขณะเดียวกันเมื่ออยู่ครบ 10 ปี แล้วต้องยื่นครอบครองปรปักษ์เลย แต่ฝั่งคู่กรณีกลับเพิ่งมายื่นฟ้องแย้งเมื่อเดือน ปี 2566 หลังจากที่เราฟ้องขับไล่ไปแล้ว 
 
            นอกจากนี้ เมื่อช่วงปี 2561-2563 คู่กรณีติดคุก ซึ่งมันขาดช่วงการครอบครองปรปักษ์ไปแล้ว ต้องเริ่มนับใหม่ตั้งแต่ปี 2563 ขึ้นมา ไม่ใช่เอาของเก่ามานับ และใช้เงื่อนไขตามกฎหมายทุกอย่าง 
 
            ขณะเดียวกัน ฝั่งคู่กรณีได้ออกมาชี้แจงว่า "จริง ๆ แล้วเขาครอบครองที่ดินแปลงพิพาทโดยสงบ และได้เข้ามาทำประโยชน์ และเปิดเผย แสดงความเป็นเจ้าของต่อคนอื่น ตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบันก็ล่วงเลยมากว่า 10 ปีแล้ว และได้กรรมสิทธิ์ที่ดินแปลงพิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ตามกฎหมาย แถมยังมีการปลูกบ้าน ปลูกต้นไม้ ต่อน้ำประปา ไฟฟ้าใช้ในพื้นที่พิพาทตั้งแคต่ปี 2547 และโจทก์เองก็ไม่เคยดำเนินการใด ๆ เพื่อโต้แย้งหรือใช้สิทธิศาลเพื่อขับไล่จำเลยที่ 1 ออกจากที่พิพาทเลย"
 
ถกไม่เถียง : ย่าสุดช้ำ ถูกบุกยึดที่ดิน อ้าง “ครอ
 
ถกไม่เถียง : ย่าสุดช้ำ ถูกบุกยึดที่ดิน อ้าง “ครอ
 
ถกไม่เถียง : ย่าสุดช้ำ ถูกบุกยึดที่ดิน อ้าง “ครอ
 
ถกไม่เถียง : ย่าสุดช้ำ ถูกบุกยึดที่ดิน อ้าง “ครอ
 
            ทั้งนี้ทีมงานถกไม่เถียง ได้ลองทำการค้นหาภาพที่ดินดังกล่าวจาก Google Street View แบ่งเป็น 4 ช่วงเวลา พบว่า ในปี 2567 ปีปัจจุบัน ที่ดินนี้มีการล้อมสังกะสีไว้ในที่ดินข้างเคียง ส่วนหลังรั้วสังกะสีเป็นที่ดินของผู้เสียหาย ต่อมาปี 2565 ยังไม่มีการล้อมรั้วสังกะสี มีเพียงเสาที่ปักไว้เท่านั้น ส่วนฝั่งตรงข้ามก็เป็นบ้าน จากนั้นภาพปี 2562 กลับพบว่าเป็นที่ดินว่างเปล่าไม่มีทั้งรั้ว และบ้านใด ๆ และถ้าย้อนไปอีก ปี 2555 ก็พบว่า พื้นที่ดังกล่าว เป็นแค่ป่า ไม่มีอะไรเลย แต่ฝั่งคู่กรณีกลับอ้างว่าเข้ามาทำประโยชน์ที่พื้นที่นี้ตั้งแต่ปี 2547 
 
 
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 17.30-18.00 น. และทุกวันเสาร์ - วันอาทิตย์ พบกับ รายการ “ถกไม่เถียง Weekend” เวลา 17.30-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 

 
ชมผ่าน YouTube https://youtu.be/b22R1AJwTS0

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง