“เดวิด” ไหว้สวยขอโทษกู้ชีพ ปมขู่-ชูนิ้วกลาง ด้าน ตม.เพิกถอนวีซาแล้ว | เช้านี้ที่หมอชิต

เช้านี้ที่หมอชิต - กรณี นายเดวิด ฝรั่งที่เตะไล่แพทย์หญิงจากบันไดวิลลา เมื่อวานนี้ (7 มี.ค.) มีความเคลื่อนไหว และน่าจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของฝรั่งรายนี้

 

เดวิด หิ้วช่อดอกไม้ขอโทษกู้ชีพ ปมขู่-ชูนิ้วกลาง

เมื่อวานนี้ช่วงสาย นายเดวิด เดินทางไปยัง สภ.ถลาง เพื่อมอบช่อดอกไม้ขอโทษ ว่าที่ร้อยตรี วิบูลย์ ฮ้อบุตร เจ้าหน้าที่กู้ชีพ ที่ถูกนายเดวิด ขับรถยนต์เอสยูวีหรูยี่ห้อดัง ชูนิ้วกลางใส่ และแสดงท่าทางเอาปืนจ่อหัว บริเวณก่อนถึงอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร อำเภอถลาง เมื่อช่วงเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ขณะนั้นว่าที่ร้อยตรีวิบูลย์ คนขับรถกู้ชีพ เกิดความกลัวจากการโดนข่มขู่ จึงเข้าแจ้งความที่ สภ.ถลาง และนำเรื่องราวไปโพสต์ในกลุ่มแจ้งข่าวสารจราจรของภูเก็ต แต่ต่อมาทางฝ่ายนายเดวิด กลับไปแจ้งความดำเนินคดีว่าที่ร้อยตรีวิบูลย์ที่ สภ.เชิงทะเล ในข้อหาดูหมิ่น และให้ตำรวจเรียกว่าที่ร้อยตรีวิบูลย์มาไกล่เกลี่ย บีบบังคับให้ขอโทษ ก่อนจะมีการพูดคุยยอมความ และถอนแจ้งความในเวลาต่อมา

 

และวันนี้ตำรวจเรียก นายเดวิด มารับทราบข้อกล่าวหา กรณีการขับรถที่น่าจะเป็นอันตรายแก่ผู้อื่น โดยนายเดวิด พร้อมกับภรรยา และทนายความ เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน รวมถึงขอโทษคนขับรถกู้ชีพ โดยนายเดวิดได้มอบช่อดอกไม้ขอโทษ ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาว่าที่ร้อยตรีวิบูลย์ คนขับรถกู้ชีพดูหมิ่นซึ่งหน้า ปรับ 1,000 บาท และแจ้งข้อหาดูหมิ่นซึ่งหน้านายเดวิด ปรับ 1,000 บาท และอีกหนึ่งข้อหาขับรถประมาทหวาดเสียว ปรับ 4,000 บาท

 

ตม.เพิกถอนวีซา เดวิด

แต่ในระหว่างที่พนักงานสอบสวนทำหลักฐานส่งฟ้อง นายเดวิด ต่อพนักงานอัยการ จังหวัดภูเก็ต มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต 2 นาย มาขอพูดคุยชี้แจง ให้ข้อมูลกับ นายเดวิด โดยนำเอกสารคำสั่งเพิกถอนวีซานายเดวิด มาแสดงให้ดูเพื่อรับทราบ และชี้แจงว่านายเดวิด ยังสามารถอยู่ในราชอาณาจักรไทยได้ 48 ชั่วโมง พร้อมแนะนำให้ นายเดวิด รีบเดินทางไปขอวีซาเพื่อต่อสู้คดีได้ภายใน 48 ชั่วโมงนี้ หากไม่รีบดำเนินการ นายเดวิด ก็จะมีความผิดฐานอยู่ในราชอาณาจักรไทยเกินกว่ากำหนด

 

จากนั้น ตำรวจ สภ.ถลาง ได้นำตัว นายเดวิด ขึ้นรถเดินทางไปสำนักงานอัยการ เพื่อให้ตรวจสอบสำนวน และสอบปากคำเพิ่มเติมว่า นายเดวิด จะให้การรับสารภาพตามสำนวนที่พนักงานสอบสวนส่งสำนวนมาหรือไม่ จากนั้นตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ก็รับตัว นายเดวิด เดินทางไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งก่อนหน้านี้ รักษาการ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ทำหนังสือถึงสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ขอให้พิจารณาดำเนินการเพิกถอนวีซาประกอบธุรกิจของนายเดวิด ที่กำลังจะหมดอายุในวันที่ 13 มีนาคมนี้

 

ล่าสุด พลตำรวจโท อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า กรรมการจังหวัดภูเก็ต พิจารณาแล้วเห็นว่า นายเดวิด มีพฤติการณ์เป็นภัยต่อสังคม ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง จึงเสนอมติต่อ ตม.ภูเก็ต ให้เพิกถอนวีซา

 

โดยผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 6 ลงนามอนุมัติให้เพิกถอนวีซาแล้ว หลังจากพบพฤติการณ์เป็นภัยต่อสังคม 3-4 เหตุการณ์ หลังจากนี้จะแจ้งนายเดวิดว่า สิทธิในการอยู่ในราชอาณาจักรได้หมดลงแล้ว และทำการควบคุมตัวไปกักขังไว้ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (7 มี.ค) แต่นายเดวิด สามารถยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัว เพื่อต่อสู้คดีได้ ซึ่งเจ้าตัวสามารถอยู่ในไทยได้ จนกว่าคดีที่เกิดกรณีฟ้องร้องต่าง ๆ จะสิ้นสุด ด้วยวีซาต่อสู้คดีความ

 

แต่เมื่อคดีความสิ้นสุดลง นายเดวิด จะต้องถูกควบคุมตัวที่ ตม. เพื่อทำการผลักดันออกนอกประเทศ และถูกขึ้นแบล็กลิสต์ โดยสามารถใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่งได้เช่นกัน มีกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้พิจารณาคำร้อง