“อาลีฟ ส.เดชะพันธ์” นักชกหนุ่มลูกครึ่งไทย-มาเลย์ได้ฤกษ์เปิดตัวครั้งแรกในฐานะนักกีฬา ONE โดยขอเล่นใหญ่ เปิดซิงกติกาคิกบ็อกซิ่ง พบกับนักชกดีกรีอดีตผู้ท้าชิงบัลลังก์จากแดนมังกร “จาง เป่ยเหมียน”
จัดหนักอัปดีกรีความมันเพิ่มอีก 1 คู่ในศึกนัดยิ่งใหญ่ ONE ลุมพินี 58 ที่จะจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 5 เม.ย.นี้ โดยประกบดาวรุ่งพุ่งแรง “อาลีฟ ส.เดชะพันธ์” วัย 20 ปี ที่จะขึ้นสังเวียนในฐานะนักกีฬา ONE เป็นครั้งแรก พบกับ “จาง เป่ยเหมียน” จอมยุทธ์ฝีมือฉกาจ วัยเดียวกันจากประเทศจีน ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต (115-125 ป.)
สำหรับ “จาง เป่ยเหมียน” เริ่มฝึกคิกบ็อกซิ่ง ตั้งแต่อายุ 11 ปี ก่อนจะลงแข่งขันในระดับอาชีพครั้งแรก 2561 และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการเก็บชัยไปถึง 11 ครั้งจาก 12 ไฟต์ที่ขึ้นสังเวียน จนได้รับโอกาสเข้ามาล่าความฝันในรายการ Road To ONE ของประเทศจีน ซึ่งเขาก็ไม่พลาดที่จะคว้าชัยรวด 3 ไฟต์ คว้าโอกาสเข้ามาเป็นนักกีฬาระดับโลกภายใต้ชายคา ONE ได้สำเร็จ
จาง เป่ยเหมียน vs โจนาธาน
“จาง เป่ยเหมียน” เปิดตัวใน ONE อย่างร้อนแรงด้วยการเก็บชัย 2 ไฟต์รวด จนได้รับโอกาสสำคัญ ให้ขึ้นชิงตำแหน่งแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวตที่ว่างอยู่ในเวลานั้น กับ “โจนาธาน ดิ เบลลา” ในศึก ONE 162 เมื่อ 21 ต.ค.65 โดยสามารถต่อกรกับสุดยอดนักสู้จากอิตาลีได้อย่างสนุก ก่อนจะแพ้คะแนนไปอย่างน่าเสียดาย ขณะที่ผลงานล่าสุดเพิ่งพลาดท่าพ่าย “รุย โบเทลโฮ” นักสู้จากโปรตุเกส ไปด้วยคะแนนไม่เอกฉันท์ในศึก ONE Fight Night 16 เมื่อ 4 พ.ย.66
อาลีฟ vs เพย์มาน
ทางด้าน “อาลีฟ ส.เดชะพันธ์” ฝากผลงานยอดเยี่ยมไฟต์ล่าสุด ไว้ในศึก ONE ลุมพินี 40 เมื่อ 10 พ.ย.66 ด้วยการกดหมัดน็อก “เพย์มาน โซลฟาการี” นักชกสายแข็งจากอิหร่าน ตั้งแต่ยกแรก ทำสถิติคว้าชัยแบบไม่ครบยกได้เป็นไฟต์ที่ 3 จาก 4 ไฟต์ที่ขึ้นสังเวียน จนสามารถพิชิตใจบิ๊กบอส “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” คว้าสัญญานักกีฬา ONE มาครองได้เป็นรายที่ 7 ของรายการในเวลานั้น
ด้วยผลงานอันร้อนแรงเกินต้าน ทำให้ “อาลีฟ” ถูกดึงตัวเข้ามาเสริมทัพความมันในศึก ONE ลุมพินี 58 โดยครั้งนี้เขาจะต้องเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ ในการขึ้นชกภายใต้กติกาคิกบ็อกซิ่ง เป็นครั้งแรก พบกับนักสู้ดีกรีอดีตผู้ท้าชิงบัลลังก์อย่าง “จาง เป่ยเหมียน” ที่ผ่านประสบการณ์ในกติกานี้มาอย่างโชกโชน และหวังใช้ไฟต์นี้ในการระเบิดฟอร์มเด่งเพื่อกลับขึ้นไปท้าชิงแชมป์โลกอีกครั้ง
ส่วน “อาลีฟ” หากสามารถผ่านบททดสอบสุดหินนี้ไปได้ ก็จะเป็นการพิสูจน์ฝีมือให้ทุกคนเห็น ว่าเขาพร้อมแล้วที่จะไล่ล่าความสำเร็จทั้งในสายมวยไทยและคิกบ็อกซิ่งบนเวทีระดับโลกต่อไป
แฟนกีฬาชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง
THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. รับชมการถ่ายทอดสดทาง ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น. รวมทั้งติดตามข่าวสารและความคืบหน้าของศึกนี้ได้ที่เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เว็บไซต์ ONEFC.com และอินสตาแกรม ONEChampTh
+ อ่านเพิ่มเติม