ข่าวเย็นประเด็นร้อน - กะเทยฟิลิปปินส์บางส่วน ยกธงขาว ขออย่าศึก ยื่นไกล่เกลี่ยกะเทยไทย ด้านตำรวจแจ้งข้อหากะเทยฟิลิปปินส์ 2 ราย พร้อมคุมตัวฝากขัง
คืบหน้ากรณีกะเทยไทยปะทะกะเทยฟิลิปปินส์ ล่าสุดช่วงเช้าที่ผ่านมา พลตำรวจตรี วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เปิดเผยหลังการประชุมร่วมกับพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ระบุว่า คดีนี้แบ่งเป็น 2 ส่วน คือกรณีที่ผู้เสียหายกระเทยไทย 6 คน ที่ถูกกลุ่มกระเทยฟิลิปปินส์ 20 คน รุมทำร้ายช่วงเช้ามืดวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา ตำรวจได้แจ้งข้อหากระเทยฟิลิปปินส์ ที่ทำไปแล้ว 2 คน ในข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย โดยพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ได้นำตัวผู้ต้องหาไปส่งฟ้องต่อศาลแขวงปทุมวัน ช่วงบ่ายที่ผ่านมา
นอกจากนี้ พิสูจน์ทราบตัวกะเทยฟิลิปปินส์ ที่กระทำความผิดได้เพิ่มอีก 1 คน อยู่ระหว่างติดตามตัว โดยพบว่ายังอยู่ในประเทศไทย และตำรวจเตรียมขอศาลออกหมายจับแล้ว เนื่องจากไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง
ส่วนกรณีที่ 2 คือ คดีที่กะเทยไทยนัดรวมตัว ที่ซอยสุขุมวิท 11 ตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา ต่อเนื่องเช้ามืดวันที่ 5 มีนาคม และมีกะเทยฟิลิปปินส์ 1 คน ถูกรุมทำร้าย พิสูจน์ทราบผู้กระทำผิดได้ 1 คน คือ นายแชมป์ ซึ่งได้แจ้งข้อหา และได้รับการประกันตัวไปแล้ว
คดีนี้ผู้เสียหายกะเทยฟิลิปปินส์ ยื่นขอเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย เพราะไม่ได้ติดใจที่จะดำเนินคดี จึงมีการประสานนายแชมป์ เพื่อเข้ามาเจรจากับผู้เสียหาย หากสามารถไกล่เกลี่ยกันได้ คดีจะจบในชั้นพนักงานสอบสวน รวมถึงในวันนี้ จะมีการประสานไปยังกลุ่มผู้เสียหายกะเทยไทย 6 คนของคดีแรก ว่าประสงค์จะเข้าสู่ พ.ร.บ.ไกล่เกลี่ยด้วยหรือไม่
ส่วนอีกคดี ที่ผู้เสียหายกะเทยไทยแจ้งความกะเทยฟิลิปปินส์ ในคดีชิงทรัพย์กระเป๋า และสร้อยทอง เมื่อช่วงเย็นวานนี้ เบื้องต้นยังต้องเรียกผู้เสียหายมาให้ปากคำเพิ่มเติม เพราะยังให้การเรื่องพฤติการณ์ความผิดไม่ชัดเจนว่า เป็นการกระชากกระเป๋า หรือทำหล่นหาย ดังนั้นวันนี้ จะมีการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้งว่าเข้าข่ายความผิดหรือไม่ ส่วนกะเทยฟิลิปปินส์ที่เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว ยังไม่ชัดเจนว่า เป็นผู้ก่อเหตุหรือไม่ ถ้าหากพบว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด จะเอาตัวมาลงโทษแน่นอน
ซึ่ง พล.ต.ต.วิทวัฒน์ กล่าวอีกว่า จริง ๆ เรื่องของคู่กรณีทั้งสองฝ่ายนี้ มีการพูดคุยไกล่เกลี่ยกันไปตั้งแต่รอบแรก และจบไปแล้ว หากไม่มีการโพสต์นัดหมายรวมตัวกัน จนทำให้เหตุการณ์บานปลาย เรื่องนี้ตำรวจจะเชิญผู้โพสต์ชาวไทยที่นัดหมายรวมตัวเมื่อ มาทำความเข้าใจ พร้อมย้ำว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่เป็นเรื่องส่วนบุคคล ซึ่งได้พูดคุยกับสถานเอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ เพื่อทำความเข้าใจกันดีแล้ว
พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ยังบอกอีกว่า การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจได้ส่งชุดสายตรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ เพื่อกวดขันและจับกุมมาตลอด แต่ไม่พบการค้าประเวณีของกะเทยฟิลิปปินส์ในจุดเกิดเหตุ หรือซอยข้างเคียง ส่วนกรณีข้อสังเกตว่า มีนายหน้าให้วีซ่านักท่องเที่ยวชาวฟิลิปปินส์เข้ามา 20-30 วัน เพื่อบังหน้านั้น ไม่จริง เนื่องจากประเทศในอาเซียน ไม่จำเป็นต้องใช้วีซ่า แต่ตำรวจต้องตรวจสอบอย่างละเอียดว่า กลุ่มคนเหล่านี้เข้ามาค้าประเวณีหรือไม่ ขณะที่กระแสข่าวว่า ตำรวจรับส่วย เพื่ออนุญาตให้ค้าประเวณีของกะเทยฟิลิปปินส์นั้น ไม่เป็นความจริงเช่นเดียวกัน
ด้านนายแชมป์ หนุ่มไทยกล้ามแน่น ที่ถูกแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายกะเทยฟิลิปปินส์ บอกว่า เพิ่งรู้ว่ากะเทยฟิลิปปินส์ อยากขอเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย และขอเรียกเงินค่าเยียวยา ส่วนตัวมองว่าถ้ากฎหมายบอกให้จ่าย ก็ต้องไปหาเงินมาจ่าย
ส่วนตัวรู้สึกถึงความไม่เท่าเทียม เพราะตนเป็นเพียงคนเดียวที่ถูกใส่กุญแจมือ แล้วถูกควบคุมตัวมาที่ สน.ลุมพินี ถูกแจ้งข้อหาดำเนินคดีอย่างรวดเร็ว จนแทบไม่ทันได้ตั้งตัว โชคดีที่มีกลุ่ม LGBTQ+ และผู้ใหญ่ใจดีช่วยหาทนายความ หาเงินมาประกันตัวได้ ส่วนกรณีอาจถูกฝั่งฟิลิปปินส์เรียกเงินเยียวยา ช่วงเกิดเหตุมันชุลมุน ต้องว่ากันตามกฎหมาย
ล่าสุดช่วง 15.00 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี นำตัวผู้ต้องหา 2 ราย สวมชุดสีดำ ปิดใบหน้าและสวมแว่นตาดำ และอีก 1 คนสวมเสื้อสีขาว ซึ่งเป็นสาวประเภทสองชาวฟิลิปปินส์ ไปส่งฟ้องยังศาลแขวงพระนครใต้ ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น โดยมีเพื่อนติดตามไปด้วยอีก 1 คน
โดยขณะที่ เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ออกมาจากห้องสืบสวน สน.ลุมพินี โดย 1 ในผู้ต้องหาสวมชุดสีดำ และแว่นตาสีดำ ได้ยกมือไหว้ต่อสื่อมวลชนพร้อมพูดว่า Sorry sorry และจับใจความได้ว่า ไม่คิดว่าเรื่องจะมาถึงขณะนี้ ขณะเดินออกจากห้องสืบสวน ก่อนถูกนำตัวขึ้นรถตู้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อไปฝากขังทันที
ขณะเดียวกัน แชมป์ หนุ่มกล้ามโต ที่ถูกแจ้งข้อหาทำร้ายกะเทยฟิลิปปินส์ ได้เดินทางมาที่ สน.ลุมพินี เพื่อเข้าเจรจาไกล่เกลี่ย หลังคู่กรณีร้องขอ
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35