ถึงคราวเวทีต้องลุกเป็นไฟ เมื่อ 2 นักชกสายบู๊ผู้ไม่รู้จักคำว่าถอย “เมืองไทย พีเค.แสนชัย” และ “นักรบ แฟร์เท็กซ์” ต้องโคจรมาห้ำหั่นกันเอง ในศึก ONE ลุมพินี 58 วันศุกร์ที่ 5 เม.ย.นี้
แฟนมวยสายบู๊ได้เฮกันสนั่น หลังมีการประกาศคู่เดือดเพิ่มในศึกนัดยิ่งใหญ่ ONE ลุมพินี 58 วันศุกร์ที่ 5 เม.ย.นี้ โดยประกบ 2 นักชกผู้สะกดคำว่าถอยไม่เป็น ระหว่าง “ขุนศอกผีเดิบ” เมืองไทย พีเค.แสนชัย วัย 29 ปี จากบุรีรัมย์ มาพบกับ “นักรบ แฟร์เท็กซ์” มวยเข่าทรงพลัง วัย 26 ปี จากสุรินทร์ ในกติกามวยไทย รุ่นฟลายเวต (135-145 ป.)
สำหรับ “เมืองไทย” ขึ้นสังเวียนโชว์ผลงานสุดเดือดออกสู่สายตาแฟนมวยทั่วโลกมากถึง 5 ไฟต์ ในปี 2566 ที่ผ่านมา โดยสามารถคว้าชัยไปได้ 3 ไฟต์ด้วยกัน ขณะที่ผลงานไฟต์ล่าสุดในศึก ONE ลุมพินี 46 เมื่อเดือน ธ.ค.66 แม้จะตกเป็นฝ่ายแพ้คะแนนต่อ “นาบิล อานาน” แต่ก็ได้รับเสียงชื่นชมอย่างหนาหูในเรื่องของหัวจิตหัวใจที่ไม่เคยยอมแพ้จนกว่าเสียงระฆังหมดยกจะดัง ด้วยการเดินไล่บี้รุ่นน้องก้านยาว จนถึงกับออกอาการแกว่งให้เห็นในช่วงยกสุดท้าย
เมืองไทย vs นาบิล
แต่ด้วยความพ่ายแพ้ใน 2 จาก 3 ไฟต์หลังสุด ทำให้ไฟต์นี้ “เมืองไทย” ที่ลดพิกัดลงมาสู้ในรุ่นฟลายเวต เป็นครั้งแรก ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องงัดฟอร์มที่ดีที่สุดในชีวิตออกมาปราบรุ่นน้องฟอร์มเดือดเพื่อกลับไปเดินบนเส้นทางสู่เวทีระดับโลก ONE ที่ตนตั้งใจให้ได้อีกครั้ง
นักรบ vs เพชรทองหล่อ
ทางด้าน “นักรบ” หลังจากสะดุดพ่ายครั้งแรกให้กับ “นาบิล อานาน” ก็สามารถกลับมาคืนฟอร์มเก่งได้อย่างรวดเร็วในไฟต์ต่อมา ด้วยการเป็นคนแรกที่สามารถพิชิตนักกีฬา ONE อย่าง “เด็ดดวงเล็ก ทีเด็ด99” ไปได้ ก่อนที่ไฟต์ล่าสุด ในศึก ONE ลุมพินี 49 เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา จะพลิกนรกจากการโดนกดนับไปก่อนในช่วงยกแรก กลับมาเปิดโหมดโหดไล่ยำใหญ่ “เพชรทองหล่อ ศิษย์หลวงพี่น้ำฝน” ในยกสุดท้าย แซงชนะคะแนนไปแบบสุดเดือด
ด้วยผลงานสุดโหดของ “นักรบ” ที่คว้าชัยไปได้ถึง 6 จาก 7 ไฟต์ที่ผ่านมา ทำให้ถึงเวลาแล้วที่เจ้าตัวจะต้องเผชิญกับบททดสอบสุดหิน ด้วยการเปิดศึกกับนักชกในดวงใจของตัวเองอย่าง “เมืองไทย” เพื่อพิสูจน์ให้เห็นชัดกันไปเลยว่าตัวเขามีดีพอหรือยังที่จะก้าวไปคว้าสัญญานักกีฬา ONE มาครองในอนาคต
แฟนกีฬาชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง
THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. รับชมการถ่ายทอดสดทาง ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น. รวมทั้งติดตามข่าวสารและความคืบหน้าของศึกนี้ได้ที่เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เว็บไซต์ ONEFC.com และอินสตาแกรม ONEChampTh
+ อ่านเพิ่มเติม