อุกอาจ ! 4 โจ๋แว้นชักปืนปล้นรถ จยย.ช่างแอร์ รุมกระทืบน่วม จ.นนทบุรี | เช้านี้ที่หมอชิต

เช้านี้ที่หมอชิต - แก๊งโจ๋พกปืนที่ก่อเหตุอุกอาจระบาดไปทั่วบ้านทั่วเมือง เป็นวัยรุ่น 4 คน แว้นมอเตอร์ไซค์ 2 คัน เห็นช่างแอร์โชคร้ายขี่มอเตอร์ไซค์มาคนเดียว รีบขับประกบถีบรถให้ล้ม แต่พอไม่ล้ม อีกคันรีบขับชนท้าย พอหยุดรถได้ก็ชักปืนขู่พร้อมรุมทำร้าย ก่อนจะชิงทั้งกระเป๋าสตางค์และรถหลบหนีไป

 

ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายภานุพงษ์ พนักงานบริษัทแอร์แห่งหนึ่ง ย่านปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี บอกว่า ซักประมาณ 03.00 น. ของคืนวันที่ 4 มีนาคม ที่ผ่านมา ขณะกำลังขี่รถจักรยานยนตร์ไปรับญาติที่หัวถนนปากเกร็ด ระหว่างทาง มีกลุ่มวัยรุ่นจำนวน 4 คน อายุราว ๆ 17-18 ปี สวมหมวกกันน็อคแบบเต็มใบ ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันมาคันละ 2 คน คันหนึ่งประกบด้านข้างก่อนจะใช้เท้าถีบรถจนเสียหลัก แต่ไม่ทันล้มจึงเตรียมกลับรถหนี อีกคันรีบขับรถมาชนท้ายอย่างแรง ก่อนจะชักอาวุธปืนออกมาขู่พร้อมรุมทำร้ายร่างกาย จากนั้นจึงปล้นชิงรถ โทรศัพท์มือถือ และกระเป๋าสตางค์ไป 

 

หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพคนร้ายทั้ง 4 คน ไว้ได้ แต่ตรงจุดที่เกิดเหตุไม่มีวงจรปิด อย่างไรก็ตาม ตามภาพตำรวจได้เส้นทางหลบหนีของคนร้ายหลังก่อเหตุปล้น ซึ่งรวมรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายแล้วมีทั้งหมด 3 คัน ขับหลบหนีไปตาม ถนนภูมิเวทปากเกร็ด ก่อนจะมาจอดคุยกันที่บริเวณห้าแยกปากเกร็ด แล้วรีบขับย้อนศรไปถนนติวานนท์มุ่งหน้าแยกแคราย หลบหนีหายไป

 

ด้าน นายภานุพงษ์ ผู้เสียหาย บอกว่า เพิ่งย้ายเข้าทำงานแถวนี้ได้แค่เดือนเดียวก็มาโดนปล้นรู้สึกกลัวมากจนไม่กล้าไปไหนเวลากลางคืน เพราะคนร้ายกระทำการอุกอาจมาก อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามรถกลับคืนมาเพราะเป็นรถของลุงที่เพิ่งซื้อมาใหม่ไม่ถึง 2 เดือน   

 

ขณะที่ นายมนตรี  พี่เขยผู้เสียหาย เมื่อทราบข่าวก็รีบพาน้องไปแจ้งความ และไปหากล้องวงจรปิดจากเทศบาลมาดูข้อมูลหลักฐาน โดยบอกว่า จากภาพผู้ก่อเหตุเป็นเด็กวัยรุ่นอายุประมาณ 15-17 ปี เท่านั้น ไม่คิดว่าเด็กสมัยนี้จะกล้าก่อเหตุแบบนี้ มีอาวุธปืนปล้นทรัพย์ไม่พอ กระทืบทำร้ายร่างกายน้องตนอีก โชคดีจุดเกิดเหตุยังพอมีแสง หากเป็นจุดอื่นภายในซอยที่มืดกว่านี้ น้องชายตนอาจถูกปืนยิงตายไปแล้วก็ได้ จึงอยากจะฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือจะไปให้ถึงนายกรัฐมนตรียิ่งดี อยากให้ช่วยกันแก้กฎหมายเด็กและเยาวชน ถ้าก่อเหตุแบบนี้ให้จับเข้าคุกผู้ใหญ่เลยไม่ใช่เอาตัวส่งสถานพินิจ มิเช่นนั้นก็จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยืนยันคดีนี้จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด