เครียด ! ตัดสินใจลาโลก ด้านทนาย “อากู๋” แจง ผู้ตายไม่เกี่ยวคดีครอบครองปรปักษ์ | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

552 ครั้ง

26 ก.พ. 2567

แชร์ข่าวไปที่

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เพื่อนบ้าน 1 ใน 5 ผู้ต้องหา คดีครอบครองปรปักษ์ที่เข้ายึดบ้านอากู๋ เครียดจัด คิดสั้น ตัดสินใจผูกคอเสียชีวิตในบ้านพัก ด้าน อากู๋ ทราบข่าวถึงกับช็อก ขออโหสิกรรมให้

ช่วง 07.00 น. ที่ผ่านมา ตำรวจ สน.โคกคราม ได้รับแจ้ง พบผู้ผูกคอเสียชีวิตในบ้านพักย่านรามอินทรา ตรวจสอบ คือ นางสาวภานุมาศ หรือ นุ 1 ใน 5 ผู้ต้องหาคดีบุกรุกครอบครองปรปักษ์ โดยผู้ที่พบศพคนแรก คือ สามีของนางสาวภานุมาศ ที่ระบุว่า ตนออกไปซื้อของ พอกลับเข้ามาที่บ้านก็ไม่เจอตัวจึงเดินตามหา พบว่าภรรยาใช้ผ้าผูกคอตัวเองในห้องน้ำ จึงพยายามช่วยเหลือทำ CPR แล้ว แต่ไม่เป็นผล

ต่อมา ญาติของผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลว่า ตนไม่ทราบรายละเอียดว่าผู้ตายนั้นเครียดหรือรู้สึกกดดันอะไร หรือมีโรคส่วนตัวอะไรบ้าง เพราะผู้ตายไม่เคยมาปรึกษาอะไรกับตน แต่ได้พูดคุยครั้งสุดท้ายกับผู้เสียชีวิตเมื่อไม่กี่วันที่แล้ว ซึ่งตนก็ให้กำลังใจและบอกว่ามีปัญหาก็ค่อย ๆ แก้กันไป คิดว่าความเครียดเรื่องคดีอาจจะมีส่วนที่ทำให้เขาจบชีวิต

ส่วนบ้านหลังที่เขาจบชีวิต ก็อยู่กับสามี ส่วนร่างของผู้ตาย เจ้าตัวได้บริจาคร่างเอาไว้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะบริจาคได้หรือไม่ ส่วนตัวผู้ตายเป็นคนชอบทำบุญ ชอบไปวัด ปฏิบัติธรรมทุกเสาร์-อาทิตย์

ขณะที่ ทนายความของอากู๋ ออกมาชี้แจง ระบุว่า คุณภานุมาศ ผู้เสียชีวิต เป็นผู้ต้องหาคดีบุกรุก ไม่เกี่ยวข้องกับคดีครอบครองปรปักษ์ เพราะคดีครอบครองปรปักษ์นั้น คือ คุณศรีพรรณ ดังนั้นผู้ตายคือคนละกลุ่มกับคดีครอบครองปรปักษ์ และในทางคดีแพ่งที่ยื่นฟ้องไป เราก็ฟ้อง คุณศรีพรรณ คนเดียว

ทั้งนี้ หลังทราบเรื่องการเสียชีวิตของอดีตคู่กรณีที่เข้าไปยึดของบ้านของลูกความ ก็ได้เดินทางมายัง สน.คันนายาว เพื่อสอบถามกับพนักงานสอบสวน โดยยังไม่ได้มีการพูดคุยกับลูกความ และญาติของฝ่ายอดีตคู่กรณีแต่อย่างใด จึงขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ความสูญเสียที่เกิดขึ้นด้วย

ส่วนการที่ทนายความของคู่กรณีได้ออกมาให้ข้อมูลว่า สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการที่ทางลูกความได้ใช้สื่อมวลชนกดดัน จนทำให้เกิดผู้เสียชีวิตเกิดความเครียดจนฆ่าตัวตายนั้น โดยส่วนตัวเห็นว่าต่างคนก็ต่างทำหน้าที่ของตนเอง ไม่น่าจะเป็นการกดดัน

สำหรับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นนั้น เริ่มจากการที่ฝ่ายเจ้าของบ้านตัวจริงได้แจ้งความดำเนินคดีบุกรุกกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง 5 คน ที่เข้าไปยึดครองบ้านหลังดังกล่าว โดยในจำนวนนั้นมีผู้ตายอยู่ด้วย ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ในชั้นการพิจารณาสั่งฟ้องของพนักงานอัยการ ซึ่งเบื้องต้นมีกำหนดจะสั่งฟ้องในวันที่ 6 มีนาคมนี้ แต่หลังจากที่หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาเสียชีวิต ทางพนักงานอัยการก็จะสั่งไม่ฟ้องกับผู้เสียชีวิตรายนี้ จำหน่ายออกจากคดีไป ในส่วนนี้เป็นคดีในภาคแรก

ต่อมาก็เกิดเรื่องราวภาค 2 ขึ้น เมื่อหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหา (ชื่อศรีพรรณ) ได้ไปยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อให้ออกคำสั่งครอบครองปรปักษ์กับบ้านหลังดังกล่าว เมื่อทางฝ่ายเจ้าของบ้านตัวจริงทราบเรื่อง จึงมอบอำนาจให้ทนายความไปยื่นเรื่องคัดค้านและฟ้องขับไล่ พร้อมกับเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่ง โดยคิดเป็นค่าเช่าเดือนละ 20,000 บาท ย้อนหลัง 6 ปี ซึ่งเป็นในส่วนของคดีแพ่ง ในส่วนของคดีอาญาทางเจ้าของบ้านตัวจริงได้ไปแจ้งความข้อหาบุกรุกกับคู่กรณี (ชื่อศรีพรรณ) รายนี้ด้วย ซึ่งผู้ตายไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีในภาค 2 แต่อย่างใด และทราบมาว่าเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางผู้เสียชีวิตได้มีการโทรศัพท์ไปปรึกษาตำรวจเจ้าของคดี เนื่องจากมีความเครียดในเรื่องนี้

ล่าสุดช่วงบ่าย 15.00 น. ที่ผ่านมา นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ พร้อม นายภคิน หรือ คุณซัน หลานอากู๋ เจ้าของบ้านตัวจริง ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเปิดใจ หลัง 1 ใน 5 ผู้ต้องหาเครียดจนจบชีวิต

โดย คุณซัน เปิดเผยว่า รู้สึกช็อกกับสิ่งที่เกิดขึ้น รวมถึง อากู๋ ก็ตกใจมาก และขออโหสิกรรมให้ผู้เสียชีวิต เบื้องต้นทางครอบครัวตนเองยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะเรื่องเกิดขึ้นเร็วมาก โดย คุณซัน ยังเผยข้อความสุดท้ายที่ผู้ตายส่งมาให้ทางไลน์ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ว่ายังไงก็คิดว่าทำบุญให้คนป่วยแบบพี่ด้วยนะคะ แต่ทาง คุณซัน ไม่ได้ตอบข้อความกลับ กระทั่งเจ้าตัวมาก่อเหตุสลดดังกล่าวขึ้น

ด้าน ทนายเดชา เปิดเผยว่า ทางผู้ตาย (ที่เป็นจำเลยคดีชุดแรก) ได้มีการติดต่อมาเพื่อขอไกล่เกลี่ย ซึ่งทาง ทนายเดชา และ หลานอากู๋ ก็พร้อมไกล่เกลี่ย แต่ขอให้ถอนฟ้องคดีครอบครองปรปักษ์ก่อน ทางนั้นรับปากจะถอนฟ้อง (แต่ผู้ตายไม่ใช่ผู้ฟ้องคดีนี้ เป็นญาติอีกคน) แต่ผ่านไป 2 สัปดาห์ ยังไม่มีการถอนฟ้องคดีครอบครองปรปักษ์ จนเกิดเหตุขึ้น

ทนายเดชา ยังโต้กลับทนายความฝั่งจำเลย ถึงกรณีที่อีกฝ่ายให้สัมภาษณ์ว่า ทนายความฝั่งโจทย์มีการออกสื่อกดดัน จนฝ่ายจำเลยเครียดต้องผูกคอลาโลกว่าทุกอย่างมีเหตุและผล ไม่มีใครกดดันใครได้ พร้อมติงทนายความคนดังกล่าวให้คำนึงถึงจรรยาบรรณในวิชาชีพ ควรใช้คุณธรรมนำกฎหมาย ไม่ใช่ให้คำแนะนำลูกความเรื่อยเปื่อย แทนที่จะแนะนำให้ลูกความมาพูดคุยเจรจา แต่กลับแนะนำให้ไปฟ้อง จนทำให้ลูกความเครียด ตัดสินใจลาโลก

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35