“สาวสอง” แทงสวนหนุ่มอังกฤษ เบี้ยวค่าซื้อบริการ บาดเจ็บสาหัส | เช้านี้ที่หมอชิต

เช้านี้ที่หมอชิต - เมื่อช่วงเช้ามืดเมื่อวานนี้ มีเสียงดังเอะอะโวยวายในวิลลาแห่งหนึ่ง ในย่าน ตำบลกะรน จังหวัดภูเก็ต เป็นเสียงสาวประเภท 2 ทะเลาะกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ถึงขั้นใช้อาวุธมีดแทงกันจนบาดเจ็บสาหัส

 

คลิปที่ชาวต่างชาติซึ่งพักอยู่คอนโดมิเนียมฝั่งตรงข้ามถ่ายไว้ เป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นผู้ชายทั้งหมด ทะเลาะวิวาทกับสาวประเภทสอง ในวิลลาแห่งหนึ่งในพื้นที่ ตำบลกะรน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต มีเสียงกรีดร้อง เสียงกระจกในบ้านแตก นักท่องเที่ยวต่างชาติวิ่งไล่สาวประเภทสองออกมาบนถนนหน้าที่พัก ใช้ถังน้ำฟาดไปที่หัวสาวประเภทสองจนล้มคว่ำ ขณะที่สาวประเภทสองรายหนึ่ง ขับรถพุ่งชนต่างชาติที่กำลังรุมทำร้ายเพื่อนจนต้องวิ่งหนีตาย

 

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงประมาณ 04.00 น. วานนี้ ตำรวจ สภ.กะรน รับแจ้งเหตุ ไปที่เกิดเหตุ พบข้าวของในที่พักพังเสียหายยับเยิน มีคราบเลือดติดอยู่ที่ผนังหน้าประตู

 

จากการสอบสวนทราบว่า ช่วง 03.30 น. ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มนี้ ได้โทรศัพท์ติดต่อสาวประเภทสอง 3 คนจากหาดป่าตอง ให้มาหาที่วิลลา ตกลงราคาค่าตัวกันไว้ที่คนละ 4,000 บาท เมื่อสาวประเภทสองมาถึง นักท่องเที่ยวต่างชาติ จ่ายเงินให้ 1 ใน 3 ของสาวประเภทสองแค่ 2,000 บาท แล้วไล่อีก 2 คนให้กลับไป ทำให้สาวประเภทสองทั้งหมดไม่พอใจ เพราะไม่ได้ราคาที่ตกลงกันไว้ เกิดมีปากเสียง ยื้อแย่งกระเป๋าเงินทั้งของสาวประเภทสองและนักท่องเที่ยว สาวประเภทสองก็จะเอาเงิน นักท่องเที่ยวก็ไม่ยอมจ่ายให้ ก่อนเกิดเหตุทะเลาะวิวาท ขว้างปาข้าวของกัน โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำร้ายร่างกายสาวประเภทสองก่อน จากนั้นสาวประเภทสองหยิบมีดทำครัวมาป้องกันตัว เป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 คน และบาดเจ็บเล็กน้อย 2 คน ส่วนสาวประเภทสองทั้ง 3 คน บาดเจ็บเล็กน้อย มีคนหนึ่งหัวแตก ที่เหลือมีรอยถูกกระจกบาดและฟกช้ำ

 

ล่าสุดตำรวจเดินทางไปเยี่ยมชาวต่างชาติที่บาดเจ็บแล้ว เป็นนักท่องเที่ยวสัญชาติอังกฤษ ได้รับบาดเจ็บบริเวณซี่โครง ซึ่งต้องพักรักษาตัวอีกสักระยะ ซึ่งมีชาวบ้านแถวนั้นให้ข้อมูลว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษกลุ่มดังกล่าวประมาณ 10 คนได้เข้ามาพักตั้งแต่วันที่ 19 จนถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ซึ่งวิลลาหลังดังกล่าวมีห้องพัก 5 ห้องนอน ก่อนหน้านั้นก็เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับสาวประเภทสองเช่นกัน แต่ไม่ถึงขั้นรุนแรงเหมือนในวันที่เกิดเหตุ ซึ่งตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำพยานทั้งหมด ก่อนจะออกหมายเรียกผู้ก่อเหตุมาแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป