หนุ่มถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ อ้างเป็นตำรวจใช้ปืนจ่อหัว ข่มขู่ค้นรถค้นตัวไม่เจอของผิดกฎหมาย แต่เงินหายไป 3,000 บาท สืบพบภายหลังว่าเป็นตำรวจจริง แถมมีเหยื่อโผล่เพิ่ม โดนยัดคดี-ไถเงิน ในวันเดียวกัน
วันที่ 20 ก.พ. 67 คุณวีรชาติ พัฒเกตุ (แป๊ะ) ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 66 ตนขับรถกำลังเดินทางไปซื้อถ่าน จากนั้นมีรถกระบะมาจอดปิดทาง แล้วลงมาชักปืนจ่อหัวตน อ้างว่าเป็นตำรวจบังคับให้ลงจากกรถเพื่อขอค้นตัว ตอนแรกตนนึกว่ามิจฉาชีพ ตนต้องยอมให้ถูกค้นตัวค้นรถ เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย และขณะนั้นมีชาวบ้านออกมาดูช่วยเป็นพยานให้ตนได้ หลังจากค้นตัวเสร็จก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย อีกฝ่ายข่มขู่ว่าถ้าเจอที่ไหนโดนแน่ ชาวบ้านจึงช่วยกันตัวตำรวจออกไป
ตนกลับไปตรวจสอบรถหลังถูกค้น พบว่าเงินที่จะใช้ซื้อถ่านหายไป 3,000 บาท ภายหลังสืบพบว่ากลุ่มชายที่มาค้นตัวเป็นตำรวจ 2 นาย และอาสาตำรวจ 1 คน ตัดสินใจเข้าไปแจ้งความ ผ่านไป 2 เดือน คดีไม่คืบหน้า ตำรวจอ้างว่างานเยอะ ทั้งที่สอบพยานไปทุกคนแล้วแต่ก็ไม่ได้ดำเนินการอะไร รู้สึกกังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะมีรถของคนแปลกหน้ามักมาจอดที่บ้าน มีตำรวจโทรมาหาตนกับพยานในเหตุการณ์ตลอด และกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
คุณเท่ ผู้เสียหาย เผยว่าถูกกลุ่มตำรวจชุดเดียวกัน ค้นตัวในวันเดียวกันกับที่คุณแป๊ะโดน โดยตำรวจมาที่ร้านซ่อมรถของตน แจ้งว่าตนขับรถเสียงดังตอนกลางคืน จากนั้นได้เข้ามาชวนคุย แต่อีกคนเดินเข้าไปในบ้านโดยไม่ได้ขออนุญาต ตำรวจขอตรวจปัสสาวะ ตนยอมรับไปว่าเสพยา จึงพาไปเก็บยาเสพติดของกลาง พร้อมถามย้ำตลอดเวลาว่าอยู่กับใคร และบังคับให้ถอดกล้องวงจรปิด แล้วพาไปป้อมตำรวจที่ห่างจากร้านประมาณ 100 เมตร เมื่อถึงโรงพักตำรวจแจ้งข้อหาเสพแล้วขับขี่พร้อมถามว่าจะเอายังไง ตนโทรหาแม่ให้มาเจรจา คุยไปสักพักตำรวจบอกว่าขอเงิน 4,000 บาท แลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี หลังจากเป็นข่าวมีตำรวจมาจอดรถที่หน้าบ้าน คล้ายกับกรณีของคุณแป๊ะเช่นกัน
นายกองตรี ดร. ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรีสมศักดิ์ เทพสุทิน กล่าวว่า จากรณีของคุณแป๊ะมีหลักฐานชัดเจน ตามข้อกฎหมายที่การค้นตัวแล้วมีอาวุธปืนแล้วเงินหาย อาจเข้าข่ายความผิดลักทรัพย์หรือปล้นทรัพย์ ข้อสงสัยคือทำไมตำรวจจึงมาตามตัวคุณแป๊ะทั้งที่ไม่เคยเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด และหน้าที่ของตำรวจกลุ่มนี้ไม่ได้มีหน้าที่เป็นสายตรวจหรือสายสืบ และเงินที่หายไปต้องตรวจสอบว่าใครเป็นคนเอาไป เบื่องต้นได้สั่งย้ายและตั้งคณะกรรมการสอบตำรวจ 2 นายนี้แล้ว ถ้าผิดจริงก็จะต้องมีการลงโทษ
ส่วนกรณีของคุณเท่ ที่ยอมรับว่าตัวเองเสพยา แต่ตำรวจเดินเข้าบ้านทั้งที่ไม่มีหมายค้นและไม่ได้สวมเครื่องแบบ การควบคุมตัวไปโรงพักหากมีความสุจริตจะต้องถอดกล้องวงจรปิดทำไม การควบคุมตัวหากไม่มีการถ่ายภาพก็จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย นอกจากนี้ยังมีการเรียกรับสินบน 4,000 บาท ก็จะมีความผิดเช่นกัน เรื่องนี้ทางตำรวจจะต้องสืบสวนและมีคำตอบแก่สังคม ตอนนี้ได้ช่วยประสานงานกับผู้กำกับ สภ.หนองแค เพื่อให้ความเป็นธรรม และประสานไปยังยุติธรรมจังหวัดเพื่อให้ช่วยดูแลความปลอดภัยแก่ผู้เสียหายแล้ว
พล.ต.ต. ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี ยืนยันว่ากลุ่มชายฉกรรจ์ที่ในข่าว เป็นตำรวจจริง 2 นาย และอาสาตำรวจ 1 คน ตนเพิ่งได้ทราบเรื่องไม่นาน ขณะนี้ได้ดำเนินการสั่งย้ายและตั้งคณะกรรมการสอบแล้ว ถ้ามีโอกาสตนจะเข้าไปพูดคุยกับผู้เสียหายทั้งสองคน เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าจะดำเนินการตามหน้าที่ ไม่มีการช่วยเหลือตำรวจ และผู้เสียหายจะได้รับความเป็นธรรมอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องความปลอดภัยทางตำรวจจะช่วยดูแลให้
ติดตาม รายการ "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.30 - 18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม