logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

โผล่อีก ! อดีตแก๊งคอลเซนเตอร์ เผยกลโกง คนเดียวโทรหลอกเหยื่อ 300 คนต่อวัน | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : ข่าวเย็นประเด็นร้อน - อดีตแก๊งคอลเซนเตอร์ ซึ่งเคยเป็นผู้ที่โทรศัพท์หลอกคนไทย เผยว่าในแก๊งที่เขาเคยทำงาน หนึ่งคนต้องทำยอดคุย ch7hd news,ch7hdnews,ช่อง7,ช่อง7hd,ch7,ch7hd,ข่าว,news,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวเด็ด,ข่าวด่วน,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวกีฬา,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูย้อนหลัง,ดูทีวี,ดูข่าว,live ข่าว,liveข่าว,ไลฟ์สดทีวี,ไลฟ์สดข่าว,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว7,ถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์,เปรมสุดา สันติวัฒนา,พิพัฒน์ วิทยาปัญญานนท์,อาร์ม พิพัฒน์,ปุ้ม เปรมสุดา

225 ครั้ง
|
20 ก.พ. 2567
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - อดีตแก๊งคอลเซนเตอร์ ซึ่งเคยเป็นผู้ที่โทรศัพท์หลอกคนไทย เผยว่าในแก๊งที่เขาเคยทำงาน หนึ่งคนต้องทำยอดคุยหลอกเหยื่อถึง 300 คนต่อวัน โดยคนที่ปลอมเป็นตำรวจจะใช้แค่เสียงคุย ส่วนภาพจะใช้ AI จำลองภาพตำรวจที่มีตัวตนจริง มาหลอกให้สมจริง
 
อดีตแก๊งคอลเซนเตอร์คนหนึ่ง ติดต่อมาทางรายการ ถกไม่เถียง แจ้งว่าเขาออกจากแก๊งคอลเซนเตอร์มาได้ 1 ปีแล้ว อยากจะเปิดเผยสิ่งที่เขาเคยทำ เพราะอาจจะเป็นประโยชน์ต่อคนไทย ในการป้องกันตัวเองไม่ให้ถูกหลอก และส่วนหนึ่งเขารู้สึกผิดกับการหลอกคนให้โอนเงิน จนหลายคนหมดเนื้อหมดตัว
 
อดีตแก๊งคอลเซนเตอร์คนนี้ ชื่อวิทย์ อ้างว่าไปทำงานนี้เพราะว่ามีเพื่อนชักชวนว่า ไปทำงานแจกไพ่ในกาสิโนฝั่งกัมพูชา โดยแก๊งนี้โอนเงินมาให้ 2,000 บาท ให้ขึ้นรถไปลงอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว จากนั้นมีคนไทยมารับที่ขนส่ง พาลักลอบข้ามแดน มีรถตู้มารับไปที่กาสิโนซานโฮ เอนเตอร์เทนเมนต์ ในฝั่งปอยเปต กัมพูชา
 
แต่ว่าไม่ได้ทำงานแจกไพ่เหมือนที่คุยกันไว้ กลับเป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ของคนจีน ซึ่งเปิดกันเป็นบริษัทอยู่ชั้น 2 และชั้น 3 ของตึกกาสิโน มีหลายบริษัทมาก ใช้วิธีหลอกแตกต่างกันไป เขาได้ทำงานกับแก๊งที่ใช้วิธีโทรศัพท์หลอกเหยื่อว่า เอกสารถูกนำไปทำธุรกรรมผิดกฎหมาย และให้โอนเงินมาตรวจสอบ
 
ตอนนั้นจะไม่ทำก็ได้ ไม่บังคับ แต่ก็เหมือนโดนบังคับกลาย ๆ เพราะต้องหาทางกลับไทยเอาเอง มีเงินเหลือไม่ถึง 200 บาท และเข้ากัมพูชาอย่างผิดกฎหมาย จึงต้องทำงานร่วมกับแก๊งนี้ ซึ่งจากการพูดคุยกับคนที่อยู่ก่อน ส่วนใหญ่เต็มใจที่จะทำ เพราะได้เงินเดือน 25,000 -35,000 บาท และได้ค่าคอมมิชชันตั้งแต่ 7-10 ของยอดที่หลอกได้
 
นายวิทย์ บอกว่า ก่อนจะหลอกคนได้ ต้องนั่งฟังการโทรศัพท์หลอกเหยื่อราว 1 อาทิตย์ จากนั้นได้เริ่มงาน โดยโทรศัพท์ที่ใช้ แก๊งคนจีนจะใช้ไอโฟน เพื่อป้องกันการแกะรอยของตำรวจไทย ต่อมาเขาได้ทำหน้าที่เป็นสาย 1 หรือสายแรกที่โทรศัพท์หลอกเหยื่อคนไทย กล่อมจนเชื่อว่าเอกสารประจำตัวถูกนำไปใช้ และอาจพัวพันกับสิ่งผิดกฎหมาย
 
จากนั้นจะส่งไปสาย 2 ซึ่งปลอมเป็นตำรวจ โดยคนที่ปลอมเป็นตำรวจจะใช้แค่เสียงคุย ส่วนภาพจะใช้เทคโนโลยี AI ปลอมอัตลักษณ์ตำรวจที่มีตัวตนจริง ให้ขยับตาขยับปากพูดเพื่อให้สมจริง ดังนั้นเวลาที่แก๊งคอลเซนเตอร์โทรมา จึงมักให้เหยื่อแอดไลน์เพื่อวิดีโอคอลให้สมจริง
 
อดีตแก๊งคอลเซนเตอร์รายนี้ อ้างด้วยว่าเขาเคยได้คุยกับเพื่อนในแก๊งที่เป็นสาย 2 ซึ่งปลอมเป็นตำรวจที่วิดีโอคอลพูดคุยกับเหยื่อผ่านทางไลน์ ทำให้รู้ว่าระหว่างคุยกันผ่านทางวิดีโอคอล และหลอกเหยื่อให้หลงเชื่อ จนยอมกดรหัสธนาคารหน้าจอโทรศัพท์ของเหยื่อเอง ทางแก๊งจะสามารถเห็นภาพสะท้อนหน้าจอกลับมาทางคอมพิวเตอร์ และรู้ว่าเหยื่อกดรหัสอะไรด้วย
 
ส่วนกรณีที่มีอดีตแก๊งคอลเซนเตอร์ออกมาเปิดเผยว่า คุยสายเพียงแค่ 2 นาที แล้วสามารถดูดเงินได้ นายวิทย์ บอกว่า ตอนที่เขาอยู่ ยังไม่เห็นการใช้เทคโนโลยีที่คุย 2 นาทีแล้วดูดเงินได้ ทีมข่าวตั้งข้อสังเกตว่า ตัวเขาอาจจะออกมาจากแก๊งคอลเซนเตอร์นานถึง 1 ปีแล้ว เป็นไปได้หรือไม่ที่เทคโนโลยีเปลี่ยนเร็ว นายวิทย์จึงโทรศัพท์ถึงเพื่อนที่ยังเป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ที่กัมพูชา เพื่อสอบถามเรื่องนี้ ซึ่งเพื่อนเขาบอกว่าแก๊งที่พวกเขาทำงานอยู่ ยังไม่มีเทคโนโลยีที่ว่านี้มาใช้
 
เขาอ้างด้วยว่าแต่ละวันเขาคุยสายกับเหยื่อประมาณ 300 ราย ซึ่งในแก๊งเขามี 30 คน รวมแล้ว 1 วัน จะโทรหาเหยื่อคนไทยประมาณ 9,000 ราย แต่ว่าวันนั้น ถ้าเขาหลอกสำเร็จสักคนหรือ 2 คน จะไม่ทำต่อก็ได้ พักได้เลย ส่วนการโทรหาเหยื่อ พวกเขาไม่ต้องกดหมายเลขโทรเอง แต่จะมีเครื่องที่เรียกว่าเครื่องยิงแอด ต่อสายพร้อมกันครั้งละ 30 เบอร์ เมื่อมีเหยื่อรับสาย เขาจะกดที่เบอร์โทร ซึ่งขึ้นบนหน้าจอไอโฟน ก็จะเห็นชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน ขึ้นโชว์หน้าจอ
 
อดีตแก๊งคอลเซนเตอร์รายนี้ บอกว่า ข้อมูลที่แก๊งคอลเซนเตอร์มี หลัก ๆ ที่เขาเห็นคือ ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก และเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งแม้แต่ชื่อของพ่อเขา และคนรู้จักเขาก็เคยเจอมาด้วย ดังนั้นข้อมูลคนไทยจำนวนมากตกอยู่กับแก๊งนี้แล้ว ฉะนั้นถ้าเป็นเบอร์แปลกโทรมา ไม่ต้องรับ ถ้ารับแล้วรู้สึกผิดปกติ ไม่ต้องคุยต่อ ตัดสายทิ้ง อย่าถ่ายรูปเอกสารสำคัญ เช่น บัตรประชาชนไว้ในมือถือ และเวลาไปติดต่อราชการ เอกชน ที่ต้องใช้สำเนาบัตรประชาชน เอกสารประจำตัว ให้ขีดฆ่าทุกครั้ง ลงวันที่กำกับไว้
 
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง