“บิ๊กโจ๊ก” ยันถูกดิสเครดิตปมเว็บพนันมินนี่ เผยสงสารลูกน้อง | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

596 ครั้ง

19 ก.พ. 2567

แชร์ข่าวไปที่

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - คดีเจ้าแม่เว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ในภาคอีสาน มินนี่ กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้งเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จนมาถึงวันนี้ หลังเพิ่งมีกระแสข่าวปรากฏออกมาว่า

คดีเว็บพนันออนไลน์ของ มินนี่ นางสาวธันยนันท์ สุจริตชินศรี ซึ่งถูกจับกุมตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมปี 2566 และต่อมาจับกุม 8 นาย ตำรวจลูกน้องคนสนิทบิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในเดือนกันยายนปีเดียวกัน

คดีนี้มีตัวของ มินนี่ และเครือข่ายรวม 53 ราย และตำรวจที่เป็นลูกน้องของบิ๊กโจ๊ก อีก 8 นาย รวมเป็น 61 ราย

แต่ในขั้นตอนการสอบสวน เมื่อช่วงเดือนที่แล้ว มีประเด็นตรงที่ว่า ระหว่างนั้นมีการขอให้ทางอัยการร่วมในการสอบสวน ปรากฏว่าอยู่ ๆ ก็มีคำร้องจากนายตำรวจที่ถูกกล่าวหา ทำหนังสือร้อง โดยหนังสือที่ร้องไปนั้น มีภาพของทีมอัยการ 2 คน ซึ่งมีลักษณะเป็นการติดตามและแอบถ่าย

ทำให้วันนี้ ทีมโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงจี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้หามาตรการคุ้มครองอัยการที่เข้าไปช่วยคดีนี้ว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาอัยการสูงสุดได้ ทำหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ดำเนินการในประเด็นต่อไปนี้ คือ ขอให้มีมาตรการในการป้องกันคุ้มครองความปลอดภัยให้แก่อัยการทั้ง 2 คน และเพิ่มมาตรการต่าง ๆ มิเช่นนั้น อัยการทั้ง 2 คน จะไม่เข้าร่วมการสืบสวนสอบสวนใครั้งนี้ด้วย

ขณะที่ทางด้าน พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ นายกสมาคมพนักงานสอบสวน ซึ่งวันนี้ พล.ต.ต.ไพโรจน์ ออกมาแถลงเรียกร้องพนักงานสอบสวนทั่วไทยแสดงจุดยืน หลังทีมสอบสวนคดีเว็บพนันมินนี่ ปล่อยสำนวนการสอบสวนว่อนโซเชียลมีเดีย เป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของระบบ

ล่าสุด บิ๊กโจ๊ก ออกมาโต้ ถูกดิสเครดิต สงสารลูกน้องทั้ง 8 คน ส่วนที่กรณีที่มีลูกน้อง ไปคุกคามอัยการ ได้สอบถามลูกน้องแล้ว ไม่พบ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ระบุว่า คดีนี้มีการสั่งฟ้องไปยังอัยการแล้ว ทางตำรวจจะหมดอำนาจทันทีในการสอบสวน ถ้ามีการสอบสวนจะต้องมีคำสั่งจากอัยการเท่านั้น ส่วนกรณีพบเส้นทางการเงินของตนโอนไปยังลูกน้องนั้น ยืนยันว่า เป็นเงินที่ตนให้ไปทำงาน ไม่ใช่เงินที่มาจากเว็บพนัน ส่วนที่ตนต้องตกเป็นเป้าหมายนั้น เชื่อว่าสังคมรู้ดีว่าเป็นการดิสเครดิต ส่วนหมายเรียกของ สอท. ที่ระบุว่า ให้ตนไปให้การในฐานะพยานนั้น จนถึงขณะนี้ตนยังไม่ได้รับการประสานแต่อย่างใด

สำหรับคดีนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกว่า รู้สึกสงสารลูกน้อง และพนักงานสอบสวนบางคน ที่ถูกเรียกมาเซ็นชื่อแต่ไม่ได้ทำสำนวน ส่วนกรณีอัยการถูก 1 ใน 8 ลูกน้องของตนไปคุกคาม สะกดรอย จากการสอบถามลูกน้อง ยืนยันว่า ไม่ได้กระทำการลักษณะดังกล่าว และหลังจากเป็นกระแส ก็ได้ยื่นเรื่องไปยังนายกรัฐมนตรี เพื่อให้มีคำสั่งออกจากราชการไว้ก่อน เป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ และต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ที่ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่า มีการไปคุกคาม ได้มีการมาปรึกษาก่อนยื่นจดหมายถึงนายกฯ หรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า ตนเพิ่งรู้หลังจากที่ยื่นหนังสือไปแล้ว เพราะถ้าทราบก่อนจะไม่ให้ยื่นเด็ดขาด เพราะมองว่าไม่จำเป็น

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35