เช้านี้ที่หมอชิต - แน่นอนว่าการได้รับการพักโทษของ นายทักษิณ ในครั้งนี้ย่อมสร้างแรงสั่นสะเทือนทางเมืองระดับหลายริกเตอร์ บางคนบอกว่า ตัวจริงกลับมาแล้วให้จับตาดูการปรับ ครม. บางคนบอกว่าเป็นกระบวนการยุติธรรมหลายมาตรฐานของเหล่าอภิสิทธิ์ชน แต่ถ้าไปถามฝั่งรัฐบาล อารมณ์ตอนนี้ดูเบิกบานเต็มที่ เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความยินดีปรีดา หลายคนถึงกับบอกว่าอยากไปกราบเยี่ยมเยียน เดี๋ยวเราไปดูแรงสั่นสะเทือนครั้งนี้กัน ไล่จากท้องถนนหน้าทำเนียบกันเลย
บรรยากาศบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ที่ทาง เครือข่ายนักศึกษา และประชาชนปฏิรูปประเทศ หรือ คปท. ได้เดินทาง มาปักหลักชุมนุมคัดค้านการพักโทษ นายทักษิณ ตั้งแต่กลางดึกของคืนวันที่ 17 กุมภาพันธ์ หลายคนมีท่าทีผิดหวังต่อการพักโทษครั้งนี้ เพราะการกลับบ้านได้ทันทีเป็นการยืนยันว่า นายทักษิณ มีสุขภาพแข็งแรงมาตลอด ไม่ได้ป่วยหนักจริง สิ่งที่สื่อสารออกมาว่าป่วยหนักจึงเป็นการโกหกสังคม ซึ่งทาง คปท. ยืนยันว่าจะคงปักหลักชุมนุมต่อไป ไม่มีกำหนดเลิก เนื่องจากยังมีคดีที่ต้องติดตามต่อ คือกรณีที่ นายทักษิณ เป็นผู้ต้องหาคดี 112 ด้วย
ขณะที่ ทางฝั่งพรรคก้าวไกล มีท่าทีไม่เห็นด้วยกับการพักโทษในครั้งนี้เช่นกัน ได้ออกแถลงการณ์ จุดยืนพรรค ระบุว่า แม้รัฐบาลและนายกฯ มักย้ำในหลายเวทีถึงความสำคัญของการสร้างหลักนิติรัฐที่เข้มแข็ง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า กระบวนการทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับคุณทักษิณ ตลอด 180 วันที่ผ่านมา โดยเฉพาะการได้รับสิทธิรักษาตัวนอกเรือนจำเป็นกรณีพิเศษโดยขาดความโปร่งใส เรื่องอาการป่วย ต่อเนื่องมาจนได้รับสิทธิพักโทษ กลับเพิ่มคำถามที่มีในใจของประชาชนจำนวนมาก ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นภายใต้รัฐบาลปัจจุบัน สอดคล้องกับหลักการบังคับใช้กฎหมายกับทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ไม่เลือกปฏิบัติหรือไม่ ทั้งยังระบุว่า พรรคก้าวไกลยืนยันว่า หากรัฐบาลต้องการจะอำนวยความยุติธรรมให้แก่คุณทักษิณในฐานะผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งหรือการกลั่นแกล้งกันทางการเมือง แนวทางในการดำเนินการต้องไม่ใช่การตอกย้ำระบบสองมาตรฐานของกระบวนการยุติธรรมในประเทศ หรือส่งเสริมให้ใครคนใดคนหนึ่งได้รับอภิสิทธิ์เหนือคนอื่นในทางกฎหมาย แต่รัฐบาลต้องยึดแนวทางที่อำนวยความยุติธรรมให้แก่ทุกคนอย่างทัดเทียมกัน
ซึ่งในประเด็น หลัง นายทักษิณ ได้พักโทษ อาจนำไปสู่การมีนายกรัฐมนตรี 2 คน นั้น ก็มีการประสานเสียงตอบโต้รัว ๆ ออกมาจากฝั่งรัฐบาล ทั้ง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า คิดมากเกินไป พูดแบบนี้คือการไม่เคารพการเป็นมนุษย์ของนายกฯ เพราะคงไม่มีใครยอมเป็นหุ่นเชิดใคร ขณะที่ นายเศรษฐา บอกว่า ขออย่าดรามาเรื่องนี้ดีกว่า
รัฐธรรมนูญระบุว่านายกมีคนเดียวก็คือผม ท่าน ว่าแบบนี้ ทั้งยังย้ำถึงสองรอบว่า นายทักษิณ กลับเข้ามาตามกระบวนการทางกฎหมายทุกข้อทั้งกฎหมายกรมราชทัณฑ์ โรงพยาบาลตำรวจ และกระทรวงยุติธรรมเป็นคนเดินเรื่อง เชื่อว่าช่วงเวลาหลังจากนี้ นายทักษิณ คงไม่ได้สนใจเรื่องการเมือง คงอยากใช้เวลาอยู่กับครอบครัว และก็รักษาตัวให้ดี หลังจากนั้นก็ค่อยว่ากัน
ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยืนยันเช่นกันว่า การพักโทษครั้งนี้ ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย เชื่อว่าครอบครัวนายทักษิณ คงมีความดีใจและมีความสุข
ส่วนคำถามที่การมองกันว่าศูนย์รวมอำนาจจะย้ายจากทำเนียบรัฐบาลไปอยู่ที่บ้านจันทร์ส่องหล้านั้น นายอนุทิน ตอบว่า พูดอะไรก็พูดได้หมดแหละ ผมก็โดนว่าศูนย์รวมอำนาจอยู่ที่ จังหวัดบุรีรัมย์ แล้วมันจริงหรือไม่ ใช่ไหมล่ะ ทุกคนก็ช่วยกันทำงาน นอกจากนี้ ยังระบุว่า ถ้า นายทักษิณ หายดีแล้ว ก็คงจะไปกราบในฐานะที่เคยเป็นผู้บังคับบัญชาเก่า
ไปดูความเห็นจากโหรการเมืองกันนิดนึง นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความเรื่อง เมื่อจันทร์ส่องหล้า ระบุว่า ระยะนี้ดาวจันทร์กับดวงเมืองและผู้มีอำนาจทางการเมืองมีความสัมพันธ์และสำคัญมาก คุณทักษิณ ชินวัตร ผู้มีอำนาจตัวจริงเสียงจริงออกมาแล้ว คือศูนย์รวมแห่งอำนาจตัวจริง คุณเศรษฐา แม้จะแสดงบทบาทมาแล้ว 6 เดือน ใครก็รู้ว่าไม่ใช่ตัวจริงเสียงจริง ที่ออกจากเรือนจำในช่วงเช้าของวันที่ 18 กุมภาพันธ์ เป็นฤกษ์แห่งจันทร์เสน่ห์ จันทร์มหาอุจจ์ มุ่งไปสู่จันทร์ส่องหล้า ทางการเมืองอาจปรับ ครม. อาจปรับเปลี่ยนกระทรวงหรือวิธีการทำงาน อันจะทำให้เศรษฐกิจและสังคมกลับมาเฟื่องฟูเข้มแข็งก็ด้วยจันทร์มหาอุจจ์
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.00-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม