ลุงสุดช้ำ ! ถูกเต็นท์รถโกงเงินดาวน์ แจ้งความตำรวจให้ตามจับเอง | เบื้องหลังข่าว กับ กาย สวิตต์

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ลุงกับป้า ทำงานรับจ้างอยู่ในกรุงเทพมหานคร หลังแก่ตัว ลุงร่างกายไม่ค่อยดี ทำงานไม่ค่อยได้ จึงย้ายกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด จากนั้นใช้เงินเก็บก้อนสุดท้ายที่มีอยู่ ไปดาวน์รถกระบะมาไว้ใช้งาน แต่กลับไม่ได้รถ ถูกเจ้าของเต็นท์รถโกงเงินไปหมด หลังไปแจ้งความ เรื่องผ่านมาเกือบ 2 ปีแล้ว เรื่องก็เงียบ ยังจับคนร้ายไม่ได้ พอโทรศัพท์ไปถามตำรวจ ตำรวจบอกว่า ให้ตามผู้ต้องหาเอง แล้วเอามาส่งที่โรงพักด้วย

 

นายชัยยา ปรุงกลิ่น อายุ 53 ปี กับนางสมคิด สอนแสง 2 สามีภรรยา เดินทางมาจากจังหวัดกำแพงเพชร มายังรายการ ข่าวเย็นประเด็นร้อนและรายการถกไม่เถียง เพื่อขอความช่วยเหลือ ให้ช่วยเป็นกระบอกเสียงให้ตำรวจตามจับคนร้ายในคดีนี้ให้ที เนื่องจากตอนนี้ใช้ชีวิตลำบากมาก เงินเก็บที่ได้มาทั้งชีวิตต้องหมดไป ภรรยาต้องหาเงินเพียงคนเดียว เนื่องจากหลังถูกโกงไปสามีได้ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองแตก ทำงานไม่ได้

 

นายชัยยา ผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2565 ตนเองไปดูรถกระบะยี่ห้ออีซุซุ ปี ค.ศ.2008 มือ 2 ที่เต็นท์รถแห่งหนึ่งในจังหวัดกำแพงเพชร หลังดูรถเสร็จตนเองเกิดถูกใจรถคันนี้ เจ้าของเต็นท์ที่ชื่อพันพิชิตจึง พูดโน้มน้าวว่า ถึงติดแบล็กลิสต์ก็สามารถจัดไฟแนนซ์ผ่านได้ และบอกให้ตนวางเงินมัดจำไว้ 10,000 บาท ตนเองก็หลงเชื่อ จ่ายเงินมัดจำ 10,000 บาทไว้ทันที หวังจะได้รถมาทำมาหากินในตอนแก่ ตนจึงใช้ชื่อลูกชายคนโตเป็นคนจัดไฟแนนซ์รถคันนี้ ปรากฏว่าจัดไม่ผ่าน ติดแบล็กลิสต์รถจักรยานยนต์ 

 

จากนั้นพอวันที่ 13 มิถุนายน 2565 ตนได้เข้าไปคุยกับเจ้าของเต็นท์รถ เจ้าของเต็นท์รถได้เสนอมาว่า ให้วางเงินมัดจำเพิ่มอีก 20,000 บาท แล้วลองหาชื่อคนอื่นมาจัดไฟแนนซ์ใหม่ดู ตนจึงยื่นข้อเสนอไปว่า หากมัดจำเพิ่มงั้นตนของเปลี่ยนรถคันใหม่เป็นรถกระบะอีซูซุปี ค.ศ. 2011 เจ้าของเต็นท์ก็ยอมตกลง ตนจึงโอนเงินให้ไป และเจ้าของเต็นท์ได้ทำสัญญาปล่อยรถให้ตนนำรถออกไปใช้งานก่อน ตนจึงนำรถออกมา แล้วนำรถไปรับลูกมาเซ็นสัญญาจัดไฟแนนซ์ในวันที่ 24 มิถุนายน 2565 ทางเต็นท์รถได้ขอเงินค่าดำเนินการไปอีก 6,000 บาท หลังจากนั้นทางเต็นท์รถได้ขอรถกลับไปก่อน อ้างว่าจะนำรถไปต่อทะเบียน ตนก็ให้รถคืนไป หลังจากนั้นอีกประมาณ 3 วัน เต็นท์รถได้โทรมาแจ้งว่า รถจัดไฟแนนซ์ไม่ผ่านเนื่องจาก ทางเต็นท์รถส่งเบอร์ผิดให้กับทางไฟแนนซ์ ทำให้ทางไฟแนนซ์ไม่เชื่อมั่นผู้เช่าซื้อรถ  

 

ทางเต็นท์รถได้เสนอให้ตนจัดไฟแนนซ์รถคันใหม่อีก แต่ตนเองไม่อยากได้รถในเต็นท์นี้แล้ว จึงขอเงินดาวน์รถคืนทั้งหมด จำนวน 36,000 บาท ทางเต็นท์ก็บอกยินดีจะคืนเงินให้ ได้นัดให้มาเอาเงิน ในวันที่ 5 กันยายน 2565 พอถึงวันนัดหมายตนเองได้โทรศัพท์ไปหาเจ้าของเต็นท์รถ แต่ติดต่อไม่ได้ ตนจึงเดินทางไปยังเต็นท์รถ ปรากฏว่าเต็นท์รถได้ปิดไปแล้ว ไม่มีรถจอดอยู่ในเต็นท์สักคัน หลังจากนั้นตนจึงพยายามติดต่อเจ้าของเต็นท์รถเรื่อยมา แต่ก็ติดต่อไม่ได้ ตนจึงได้ตระเวนดูรถตามเต็นท์รถต่าง ๆ ปรากฏว่าไปพบรถคันที่ตนจะซื้อทั้ง 2 คันจอดอยู่ในเต็นท์รถอีกเต็นท์ ตนจึงเข้าไปสอบถามเจ้าของเต็นท์รถ ได้ความว่ารถทั่ง 2 คันนี้เป็นรถของเขาเอง แต่ได้นำไปจอดฝากขายในเต็นท์รถของ นายพันพิชิต ซึ่งคนรู้จัก จากนั้น นายพันพิชิต ได้ขโมยรถตนไปขาย 1 คัน แล้วไม่จ่ายเงิน ตนจึงนำรถทั้งหมดกลับมาจอดที่เต็นท์ดังเดิม ตอนนี้ตนได้ตามตัว นายพันพิชิต อยู่เช่นกัน

 

พอตนทราบเรื่องอย่างนี้แล้ว ตนจึงตัดสินใจเดินทางไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ขาณุวรลักษณ์บุรี จังหวัดกำแพงเพชร ตอนนี้ก็เกือบ 2 ปี แล้วตำรวจยังจับกุมผู้ต้องหาไม่ได้เลย พอตนโทรศัพท์ไปถามก็บอกว่า ให้ไปหาตัวคนร้ายเอง ถ้าเจอแล้วจับมาส่งตำรวจด้วย 

 

ตนจึงไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร จริงอยู่เงิน 36,000 บาท คนอื่นอาจจะมองว่าเป็นเงินไม่เยอะ แต่สำหรับครอบครัวตนเองแล้ว ถือว่าเป็นเงินจำนวนมากเลย

 

เดี๋ยวเรามาติดตามเรื่องนี้กันต่อในรายการ ถกไม่เถียง Weekend ในวันเสาร์ที่ 17 กุมภาพันธ์นี้ มารอดูกันว่าเราจะมีช่องทางช่วยเหลือผู้เสียหายได้ยังไง