logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

สาวแสบ ! แอบอ้าง ตำรวจใหญ่-ทนายดัง รีดทรัพย์ญาติ | เบื้องหลังข่าว กับ กาย สวิตต์

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หลานผู้เสียหายที่ ทนายรณณรงค์ เคยช่วย ทำแสบ ปลอมเพจทนายคู่ใจของ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ แช็ตไปหลอกญาติ ช่อง7,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว,ข่าว7,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวเด็ด,ข่าวด่วน,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูทีวีย้อนหลัง,ดูรายการย้อนหลัง,ดูย้อนหลัง,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์,เปรมสุดา สันติวัฒนา,ฝนฟ้าอากาศ,ทิน โชคกมลกิจ

226 ครั้ง
|
15 ก.พ. 2567
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หลานผู้เสียหายที่ ทนายรณณรงค์ เคยช่วย ทำแสบ ปลอมเพจทนายคู่ใจของ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ แช็ตไปหลอกญาติ ๆ ว่า ต้องจ่ายค่าวิ่งคดีที่ช่วยเหลือ ญาติหลงเชื่อคิดว่าเป็นทนายรณณรงค์แช็ตมาเรียกเก็บเงินจริง ๆ โอนเงินไปให้เกือบล้านบาท และยังแอบอ้างตำรวจใหญ่หลอกเหยื่ออีก ความเสียหายรวม ๆ แล้วเกือบ 1,500,000 บาท เรื่องนี้ ทนายรณณรงค์ บอกไม่เคยเรียกเก็บเงินใครเพื่อล้มคดีทั้งนั้น เรื่องนี้ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
 
เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา มีกลุ่มผู้เสียหายเข้าร้องเรียนกับ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กรณีถูกหลานตัวแสบปลอมเพจทนายคู่ใจ เรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายในการวิ่งทำคดี
 
เรื่องราวเป็นแบบนี้ คดีการเสียชีวิตของ นายณรงค์ ปักกาโร อายุ 54 ปี เจ้าหน้าที่สหกรณ์การเกษตรอำเภอชุมพวง จังหวัดนครราชสีมา เสียชีวิตอยู่เบาะนั่งข้างคนขับ ภายในรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีดำ เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564 จากการตรวจสอบ พบบริเวณคอด้านหน้ามีรอยช้ำคล้ายรอยสร้อย กระจกฝั่งที่ผู้ตายนั่งถูกเปิดลดลงประมาณ 5 เซนติเมตร ประตูรถไม่ได้ล็อก มีสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 5 บาท กับ แหวน 1 บาท หายไป คดีนี้ทำให้ทางญาติผู้เสียชีวิตติดใจสาเหตุการตาย ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม จึงเข้ามาช่วยตรวจสอบคดี จนสามารถคลี่คลายคดี
 
โดยตำรวจสรุปผลคดีไปแล้วว่าเป็นการเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว รอยช้ำคล้ายรอยสร้อยบริเวณคอเกิดจากการที่ผู้ตายนอนคว่ำหน้าในลักษณะคอพับ จึงทำให้เกิดรอยย่น เมื่อศพเข้าสู่สภาวะโลหิตตกลงสู่ที่ต่ำ คอจึงเกิดรอยช้ำ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังมีหลักฐานเป็นเสียงบันทึกจากกล้องหน้ารถของผู้ตาย ซึ่งบันทึกเสียงนอนกรนของผู้ตายได้ตลอดระยะเวลาการนอนอยู่ในรถ
 
เรื่องก็น่าจะจบไปแล้ว แต่ปรากฏว่าเรื่องยังไม่จบ เพราะ น.ส.บลู ซึ่งเป็นเหลนคนตาย ได้ปลอมเฟซบุ๊ก ทนายคู่ใจ รวมทั้งแอบอ้างชื่อ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ซึ่งเป็นผู้บังคับการกองปราบปรามในขณะนั้น หลอกเอาเงินญาติ ๆ อ้างนำไปสู้คดีถึง1,498,000 บาท
 
หนึ่งในผู้เสียหาย เผยว่า นางสาวบลู (นามสมมติ) เป็นเหลนของ นายณรงค์ (ผู้เสียชีวิต) ที่พบร่างเสียชีวิตในรถยนต์อยู่ภายในที่ว่าการอำเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ปี 2564 ที่ผ่านมา จนเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2564 หลังจากเกิดเหตุ นางสาวบลู ได้พาญาติ ๆ เดินทางมาขอให้ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ช่วยเหลือเนื่องจากคดีไม่มีความคืบหน้า ก่อนที่ ทนายรณณรงค์ จะช่วยดำเนินการให้ตามที่เป็นข่าวจนโด่งดังไปแล้วนั้น
 
จนเมื่อเดินทางกลับบ้าน นางสาวบลู ได้บอกกับญาติ ๆ ผู้ตายว่า หากจะติดต่อกับ ทนายรณณรงค์ ให้ติดต่อผ่านตนเองเพียงผู้เดียว ก่อนที่ นางสาวบลู จะทำการปลอมเฟซบุ๊ก ทนายคู่ใจ และแคปแช็ตที่อ้างว่า นางสาวบลู ได้พูดคุยกับทนายคู่ใจผ่านทางเฟซบุ๊กที่ได้ปลอมแปลงขึ้น เพื่อเรียกเงินก้อนแรกเป็นจำนวน 37,000 บาท อ้างจะนำไปเป็นค่าดำเนินการในเรื่องคดี โดยหลังจากนั้น นางสาวบลู ก็ได้มีพฤติการณ์เช่นนี้มาตลอด โดยการแคปแช็ตที่คุยกับเพจทนายคู่ใจ
 
นอกจากนี้ ยังมีการแอบอ้างชื่อ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผู้บังคับการกองปราบปรามในขณะนั้น เพื่อเรียกเงินจากญาติ อ้างนำไปดำเนินการเรื่องคดี ยัดใต้โต๊ะให้กับเจ้าหน้าที่ และ ทนายรณณรงค์
 
นอกจากนี้ ยังมีพฤติการณ์ทำให้ญาติ ๆ หลงเชื่อ โดยเมื่อใดที่เรียกเงินจากญาติ และหากญาติไม่มีเงินพอจำนวนตามที่ต้องการ ก็มักจะอ้างว่าเดี๋ยวออกให้จนครบจำนวน โดยทำพฤติการณ์แบบนี้กว่า 20 ครั้ง ญาติ ๆ ทุกคนของ นายณรงค์ ผู้ตาย หลงเชื่อสูญเงินกว่า 1,498,000 บาท ต่อมา นางสาวบลู ได้นำสัญญาเงินกู้มาให้กับญาติทุกคนเซ็น อ้างว่าจะนำเงินกู้ไปวิ่งเต้นคดี ญาติ ๆ จึงเกิดความสงสัยไม่ตกลงเซ็น แต่มีญาติ 2 คน ยอมเซ็นสัญญาเงินกู้นั้นไป และต้องสูญเงินกว่า 400,000-500,000 บาท เรื่องได้มาแตกตรงนี้ คือ ญาติ ๆ ทั้ง 8 คน เริ่มสงสัยจึงได้ตัดสินใจติดต่อ ทนายรณณรงค์ เพื่อถามถึงจำนวนเงินที่ นางสาวบลู ได้ออกสัญญาเงินกู้และอ้างจะโอนให้กับทนาย จนได้รู้ว่าจำนวนเงินดังกล่าวทนายไม่เคยได้รับ และไม่เคยขอ และนอกจากนี้ ก็ยังมาสอบถามถึงคดีการเสียชีวิตของ นายณรงค์ ปักกาโร เพราะคดีก็ยังไม่มีความคืบหน้าเลย
 
จากการตรวจสอบ นางสาวบลู ยอมโอนเงินเข้าบัญชีของทนายอร ซึ่งมารู้ทีหลังว่า ทนายอร นั้นเป็นเพื่อนกับ นางสาวบลู มานาน ก่อนที่พวกตนทั้งหมดจะตัดสินใจไปแจ้งความดำเนินคดีกับ นางสาวบลู
 
ด้าน นางสงวน อายุ 68 ปี ป้าของผู้ก่อเหตุ เผยว่า ตนเอ็นดู นางสาวบลู เพราะเป็นหลานของตน โดยทุกครั้งที่นางสาวบลูมาขอเงิน เธอจะให้เสมอ จนไม่มีเงินให้ จึงต้องนำนาไปจำนองกับธนาคาร เพื่อนำเงินไปให้หลานในการสู้คดี จนตอนนี้หมดตัว นาก็ไม่มีทำ พอรู้ว่าหลานทำแบบนี้ รู้สึกเสียใจเพราะรักมาก ส่วนผู้ก่อเหตุตอนนี้มีชีวิตสุขสบาย ปลูกบ้านหลังใหญ่เพิ่งเสร็จ
 
ขณะที่ ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่อง ตนรู้สึกโมโหมาก ซึ่งกรณีดังกล่าวที่เคยเดินทางมาหาตนนั้น ตนไม่เคยเก็บเงิน มีเพียงค่ารถแค่ 10,000 บาท ที่เคยขอเพื่อส่งทนายลงพื้นที่ให้ไปดูคดีเท่านั้น และยืนยันว่า ตั้งแต่รับเรื่องมาไม่เคยขอเงินจากใคร มีแต่ให้เงินเคสที่มาร้องด้วยซ้ำ และจากกรณีดังกล่าวจะเดินทางไปพบ ผู้การเจี๊ยบ ผู้การ สอท. ให้ช่วยเหลือเนื่องจากมีการอ้างถึงตน และอ้างถึง พล.ต.ต.สุวัฒน์ นอกจากนี้ ยังปลอมแปลงเอกสารในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
 
ส่วนคดีฉ้อโกงนั้น ไม่สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้แล้ว เพราะคดีความหมดอายุ จากนั้น ทนายรณณรงค์ ได้พาผู้เสียหายทั้งหมดเดินทางมายังตำรวจไซเบอร์ เพื่อขอให้ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ ช่วยเหลือ
 
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 
ชมผ่าน YouTube https://youtu.be/2x7IoHdHVmU?feature=shared

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง