หนุ่มถูกหุ้นส่วนยึดรถเบนซ์ไปเป็นหลักประกันหนี้ หลังทำธุรกิจแล้วขาดทุนไม่มีเงินมาคืน แต่เมื่อนำเงินมาจ่ายหนี้กลับไม่คืนรถให้ แถมยังพาพวกมารุมทำร้าย หลังเกิดเหตุไม่กล้าไปแจ้งความ เพราะกลัวอิทธิพล แถมถูกส่งข้อความมาขู่ทุกวัน
วันที่ 13 ก.พ. 67 คุณบี (นามสมมติ) ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า ตนร่วมลงทุนกับนายตั้ม โดยอีกฝ่ายให้เงินทุนมา 600,000 บาท ไปซื้อรถกระบะมาขายต่อ แต่ยังขายไม่ได้ โดยก่อนหน้านี้ตนซื้อรถเบนซ์กับหุ้นส่วนคนนี้ด้วย โดยวางเงินดาวน์ 300,000 บาท ผ่อนเดือนละ 27,400 เป็นเวลา 12 เดือน
เมื่อธุรกิจที่ลงทุนยังไม่ได้กำไร จึงอยากเอารถไปจำนำเพื่อหาเงินทุนมาคืนหุ้นส่วน โดยหุ้นส่วนอ้างว่าเจ้าของตัวจริงอยู่ต่างประเทศให้เซ็นเอกสารเองได้เลย แต่ตนให้เพื่อนไปสืบมาพบว่าเจ้าของรถตัวจริงมีปัญหากับหุ้นส่วน และมายึดรถเบนซ์คืนไป กำหนดเงื่อนไขว่าต้องหาเงินมาจ่ายหนี้ที่เหลืออีก 300,000 บาท พร้อมจ่ายค่างวด 1 เดือน เพื่อไม่ให้รถถูกยึด แต่เมื่อตนนำเงินไปจ่ายหุ้นส่วนกลับไม่คืนรถให้ อ้างว่าถูกไฟแนนซ์ยึดไปแล้ว
ทางหุ้นส่วนต้องการทั้งคืนเงินทุนที่เหลือ 300,000 บาท และยึดรถไปด้วย จึงได้ประสานผู้ใหญ่ที่รู้จักให้ไปช่วยเจรจาแต่ไม่เป็นผล ระหว่างเจรจาอีกฝ่ายข่มขู่และพาพวก 6 คน มารุมทำร้ายตนต่อหน้าผู้ใหญ่ที่มาช่วยเจรจา ตนพยายามไหว้ขอชีวิตแต่อีกฝ่ายก็ไม่สนใจ ทุกวันนี้ยังโดนอีกฝ่ายส่งข้อความมาข่มขู่ทุกวัน
คุณนิรันดร์ เกแง้ว ผู้ร่วมก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เผยว่าคุณบีผู้เสียหายไม่กล้าไปแจ้งความ เนื่องจากกลัวอิทธิพลของผู้ก่อเหตุ ที่กล้าก่อเหตุอุกอาจต่อหน้าผู้ใหญ่ที่นับถือ ทำได้เพียงหลบหนีและร้องเรียนเข้ามาในเพจสายไหมต้องรอด โดยหลังจากจบรายการถกไม่เถียงตนจะพาคุณบีเข้าแจ้งความ และจะประสานงานช่วยเหลืออย่างเต็มที่
คุณตั้ม คู่กรณี ชี้แจงว่า รถเบนซ์ที่ตนขายให้กับคุณบี ตนแรกอีกฝ่ายส่งค่างวดปกติ แต่ระยะหลังค้างค่างวดกว่า 7 งวด จึงทำให้ไฟแนนซ์มาตามที่น้องชายตนซึ่งมีชื่อเป็นเจ้าของ ทำให้จำเป็นต้องนำรถไปขายเพื่อเอาเงินมาปิดไฟแนนซ์ ส่วนเรื่องเงินลงทุน 600,000 บาท แล้วยังไม่คืนเงินที่เหลืออีกกว่า 300,000 บาท ไม่เกี่ยวข้องกับการยึดรถเบนซ์
ยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นหุ้นส่วนกับคุณบี เป็นเพียงแค่คนให้ยืมเงินเพื่อไปลงทุน แต่อีกฝ่ายอ้างว่าถูกลูกน้องเชิดเงินลงทุนไป ส่วนการทำร้ายร่างกายตนยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุเอง เนื่องจากอีกฝ่ายมักนำเรื่องรถเบนซ์มาอ้างว่าถ้าหากใช้หนี้ที่ยืมไปลงทุน ตนจะต้องคืนรถเบนซ์ให้ทั้งที่อีกฝ่ายไม่ได้จ่ายค่างวดกว่า 7 เดือน ด้านคุณบีแย้งว่า การค้างค่างวดรถเบนซ์ 7 งวด เกิดขึ้นหลังจากถูกยึดรถไปเป็นหลักประกันในการใช้หนี้ ตนจึงตัดสินใจไม่จ่ายค่างวดต่อ
ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ให้คำแนะนำในมุมกฎหมายว่า การที่คุณตั้มไปทำร้ายร่างกายอีกฝ่ายแล้วมีการข่มขู่ อาจมีความผิดหลายข้อหา ถ้าหากมีปัญหาเรื่องเงินที่ยืมแล้วไม่คืน ควรใช้หลักกฎหมายฟ้องร้องมากกว่าการทำร้ายร่างกาย จึงอยากแนะนำให้ถอยคนละก้าว เรื่องคดีทำร้ายร่างกายก็ว่าไปตามกฎหมาย เรื่องเงินที่คุณบีติดหนี้ 300,000 บาทก็ต้องคืนแน่นอน
ส่วนเรื่องรถเบนซ์ทั้งสองฝ่ายจะต้องเปิดใจให้กว้างแล้วเข้าสู่กระบวนการเจรจากัน แต่ปัญหาของเรื่องคือรถถูกขายไปแล้ว อาจทำให้เกิดปัญหาไปถึงบุคคลที่ 3 ได้ แนวทางแก้ปัญหาสามารถนำหลักฐานการจ่ายเงินมาหักลบหนี้กัน หากขาดเหลือเท่าไรก็ค่อยให้คุณบีชดใช้เงินที่เหลือ โดยมีคุณนิรันดร์ช่วยเป็นคนกลางในการเจรจา
ติดตาม รายการ "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.30 - 18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35