สดอึ้ง อดีต “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ออกมาเผยกลลวงใหม่ ที่แค่คุยโทรศัพท์กับเหยื่อ รอให้ยืนยันเสียง ก็สามารถดูดเงินไปได้หมดบัญชี เน้นไปที่ข้าราชการ ที่โดนกันไปแล้วถ้วนหน้า !
วันที่ 12 ก.พ. 2567 นายเอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนถูกหลอกให้ไปทำงานที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยตอนแรกบอกให้ไปทำตอบแชตเว็บพนัน แต่จริง ๆ แล้วคือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งตนไม่สามารถทำอะไรได้ ต้องทำงานนี้ไปก่อน เพราะถ้าไม่ทำก็จะถูกทำร้าย ทั้งเอาไม้ทุบตี กระทืบ ช็อตไฟฟ้า และถ้ายังไม่ยอมอาจถูกขายส่งไปองค์กรอื่น หรือถูกฆ่าได้เลย
สำหรับการทำงานนั้น ตอนแรกเขาให้ตนไปฝึกงานก่อน วิธีการที่เขาใช้หลอกคน เขาจะทำการโทรศัพท์ไปหาเหยื่อ คุยหลอกล่อ อ้างว่าเป็นพนักงานรัฐ หรือพนักงานธนาคาร จากนั้นแค่ให้เหยื่อพูดยันยัน ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน เมื่อเหยื่อ พูดยืนยันเสร็จสิ้นจะส่งเสียงไปให้เจ้าหน้าที่คนจีน ที่ใช้เครื่องดูดเงิน ทำการแฮ็กเงินในบัญชีธนาคารของเหยื่อจนเกลี้ยงบัญชี หรือถ้าหากธนาคารของเหยื่อรายนั้น ๆ ไม่ได้ยืนยันตัวตนด้วยเสียง ก็จะใช้วิธีดัดแปลงรูปภาพด้วย AI นำมาแสกนใบหน้าแทน เขาทำได้เพราะเขามีข้อมูลของเหยื่อทั้งหมด มาจากการใช้เงินซื้อ แค่นี้ก็ดูดเงินเหยื่อได้โดยไม่ต้องกดลิงก์ ไม่ต้องโหลดแอปใด ๆ โดยทั้งหมดนี้ เขามีการตั้งเป้าไว้ว่าจะหลอกเหยื่อให้ได้วันละ 150 ล้านบาท ซึ่งทำได้ตามเป้าทุกวัน
ทั้งนี้ตนเคยถูกขู่าถ้าแจ้งตำรวจเขาก็ไม่กลัว เขาได้ทำการจ่ายส่วยไว้หมดแล้ว 60-90 ล้านบาท นอกจากนั้น กว่าตนจะหนีออกมาได้ ตนคิดหนีอยู่ 4 ครั้ง โดยที่ 3 ครั้งแรกนั้นโดนจับหมด เพิ่งจะมารอดเอาครั้งล่าสุด โดยการเอาผ้านวมพาดไปที่รวดไฟฟ้า แล้วกระโดดจากชั้น 5 ข้ามรั้วที่มีความสูง 3-4 เมตรออกมา จากนั้นตนได้เรียกรถ 3 ล้อ ไปส่งที่หน้าด่านอรัญประเทศ แต่ตนไม่ได้ข้ามด่านแบบปกติเพราะกลัวตำรวจหน้าด่านจะเป็นพวกเขา เลยหาวิธีข้ามประเทศกลับมาด้วยวิธีธรรมชาติ โดยจ่ายเงินไป 3,000 บาท ซึ่งมีโอกาสรอดแค่ 50/50 และเงินก็โทรยืมจากเพื่อนในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ตนรอดกลับมาได้ก็อยากกลับไปช่วยคนไทยที่ติดอยู่ที่นั่น เพราะ บางคนเขาก็ถูกหลอกมาเช่นกัน
ฟาก เอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เผยว่า ตนอยากฝากประชาชนช่วยแชร์ เนื่องจากมิจฉาชีพกลุ่มนี้จะเน้นหลอกไปที่เจ้าหน้าที่รัฐ โดยพวกเขาได้ข้อมูลของเจ้าหน้าที่รัฐหมดแล้ว ทั้ง เลขบัตรประจำตัวประชาชน และการทำธุรกกรรมต่าง ๆ ที่ผูกมัดไว้ รวมถึงเลขบัญชีด้วย หลัก ๆ จะเป็นของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่มีเงินอยู่ในบัญชีเกิน 2 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งพวกเขาได้มาโดยการซื้อข้อมูลจากธนาคารแห่งหนึ่ง และพวกค่ายซิม ต่าง ๆ อีกทั้งประกันภัยด้วย และที่ต้องเน้นหลอกไปที่กลุ่มข้าราชการ เพราะพวกข้าราชาการระดับสูง เมื่อโดนแล้วเขาก็ไม่กล้าไปแจ้งความ เพราะ กลัวโดนตรวจสอบที่มาของเงิน
ขณะที่ พล.ต.ต. ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตนคิดว่าก่อนจะมาถึงขั้นตอนการยืนยันตัวตนนี้ ต้องมีขั้นตอนอะไรมาก่อน หรืออาจจะฝังโปรแกรมควบคุมโทรศัพท์จากระยะไกลไว้ที่เหยื่ออยู่ก่อนแล้ว ต้องมาตรวจสอบ ขณะเดียวกัน ตนก็จะช่วยประสานงานในการช่วยเหลือคนไทยที่ยังติดอยู่ที่กัมพูชา ทว่าอย่างไรก็ตาม ประชาชนคนไทยอย่าเพิ่งตื่นตระหนกกับมิจฉาชีพนี้ เพราะเท่าที่ตนตรวจสอบ ยังไม่มีใครมาแจ้งความแล้วเข้าข่ายเลย
ติดตาม รายการ "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.30 - 18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม