logo เงินทองของจริง

“เพชร” “ทอง” หรือ “นาฬิกาหรู” ลงทุนอะไรดีกว่า ? | เงินทองของจริง

เงินทองของจริง : สมัยนี้หลายคนหันมาบริหารเงินในการลงทุนให้งอกเงยด้วยการลงทุนกับสินทรัพย์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เพชร ทอง นาฬิกาหรู เราควรที่จะเลือกลง ch7hd news,tero digital,ch7hdnews,terodigital,เงินทองของจริง,moneycoach,money coach,โคชหนุ่ม จักรพงษ์ เมษพันธุ์,โคชหนุ่ม จักรพงษ์,โคชหนุ่ม,โค้ชหนุ่ม จักรพงษ์ เมษพันธุ์,โค้ชหนุ่ม จักรพงษ์,โค้ชหนุ่ม,โคชหนุ่มจักรพงษ์,โค้ชหนุ่มจักรพงษ์,กาย สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,กาย สวิตต์,กายสวิตต์,แพรว ภัทรนันท์ ประยูรวงค์,แพรว ภัทรนันท์,แพรวภัทรนันท์,เศรษฐกิจ,การเงิน,การลงทุน,การออม,ออมเงิน,เก็บเงิน,สอนลงทุน,สอนออมเงิน,สอนเก็บเงิน

13,309 ครั้ง
|
12 ก.พ. 2567
สมัยนี้หลายคนหันมาบริหารเงินในการลงทุนให้งอกเงยด้วยการลงทุนกับสินทรัพย์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เพชร ทอง นาฬิกาหรู เราควรที่จะเลือกลงทุนอะไรดี ถ้าย้อนไป 10 ปี มูลค่าอะไรเพิ่มมากกว่า
 
ต้องบอกก่อนเลยนะครับว่า การลงทุนในเพชร ทอง และนาฬิกาหรู เป็นการตัดสินใจที่ต้องดูจากหลายปัจจัยและการตัดสินใจของแต่ละคน ถ้ามองกันในมุมที่ย้อนหลัง 10 ปี 
ก็จะมีความเปลี่ยนแปลงในราคาและมูลค่าของแต่ละอย่าง ดังนี้
1. เพชร : สำหรับการลงในเพชร ถือเป็นการลงทุนที่เหมาะกับสายสะสมที่ไม่ชอบความเสี่ยงมากหนัก เพชรเป็นสินทรัพย์ที่ราคาตกยาก ซึ่งราคาเพชรมีความผันผวนมาก และมีหลายปัจจัยที่มีผลต่อราคา แถมมีแนวโน้มราคาปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ จากข้อมูลเรื่องของราคาพบว่า ในระยะเวลา 10 ปี เพชรมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 100% นอกจากนี้ ทาง Future Market Insights ยังได้คาดการณ์ว่าตลาดการค้าเพชร และกลุ่มอัญมณีอื่นๆ ในช่วงปี 2021 – 2031 สามารถเติบโตเฉลี่ยได้ปีละ 5.7% จึงเป็นการการันตีว่าลงทุนเพชรขาดทุนยาก และได้กำไรแน่นอน อย่างไรก็ตาม การลงทุนเพชรเหมาะกับการลงทุนระยะยาวมากกว่าการลงทุนระยะสั้น หรือระยะกลาง อีกทั้งยังต้องให้ความสำคัญกับการเลือกชนิด สี ขนาด และใบรับรอง (Certificate) มาตรฐานของเพชรด้วย ซึ่งเพชรที่นิยมลงทุน ส่วนใหญ่จะเป็นเพชรสีขาวหรือเพชรไร้สี และ เพชรแฟนซีครับ
 
2. ทอง : ซึ่งทองถือได้ว่าคนส่วนใหญ่นิยมลงทุนกันเป็นอย่างมาก เพราะทองถือเป็นสินทรัพย์ที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซื้อง่าย ขายคล่อง เวลาที่คนส่วนใหญ่เดือนร้อนก็จะนำทองไปขาย เพื่อทำกำไรได้ในทันที และราคาทองมีผลต่อตลาดทองโลกในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ราคาทองมีความผันผวน แต่มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นในระยะยาว การลงทุนในทองสามารถทำได้ในรูปแบบต่างๆ เช่น ทองแท่ง, ทองคำ, หรือการลงทุนในกองทุนทอง การตัดสินใจนี้ควรพิจารณาปัจจัยหลายประการ เช่น จำนวนที่ลงทุน, ระยะเวลาที่ต้องการลงทุน, และความเชื่อมั่นในการดูแลรักษามูลค่า  และทองยังมีหลายรูปแบบให้ได้เลือกเก็บสะสม 
 
 สำหรับการลงทุนทองมีด้วยกัน 2 รูปแบบ ดังนี้
- การซื้อทองคำจากร้าน : การลงทุนทองคำ คือ การซื้อทองคำรูปพรรณจากร้านขายทองโดยตรง หรือ การซื้อทองคำแท่ง ซึ่งมีข้อดีคือเราได้ทองจริงมาอยู่ในมือเรา สามารถสวมใส่ในชีวิตประจำวันได้ ถ้าอยากสะสมทองจริงควรสะสมให้ได้อย่างน้อย 10-20 บาท จึงจะคุ้มค่าในการลงทุน
- กองทุนรวมที่ลงทุนในทองคำ : การลงทุนในกองทุนรวมที่มีการนำเงินไปลงทุนกับทองคำอีกที ซึ่งจุดเด่น คือ สามารถเริ่มต้นด้วยเงินลงทุนน้อย มีความเสี่ยงต่ำ และไม่ต้องบริหารการลงทุนเอง เพราะมีผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนเป็นผู้ดำเนินการแทน จึงเหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ สำหรับผลตอบแทนจะอยู่ในรูปแบบของเงินปันผล และส่วนต่างจากการขายหน่วยลงทุนคืนให้กับกองทุน
 
3. นาฬิกาหรู : การลงทุนในนาฬิกาหรู ถือว่าก็ได้รับความนิยมมากเช่นกันเพราะถือสินทรัพย์ที่สามารถทำกำไรได้สำหรับ “นาฬิกาข้อมือหรู” หนึ่งไอเทมสะสมที่ร้อนแรง และยังคงครองความน่าสนใจในตลาดนักสะสมเป็นอย่างมาก ทั้งมือหนึ่งและมือสอง ที่ได้รับความนิยมมากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในทุกปี จากนักลงทุนและนักสะสม โดยถ้าหากต้องการสะสมเพื่อทำกำไร ควรเลือกจากแบรนด์ที่ตัวเรามีความชื่นชอบ แบรนด์ที่เป็นที่ต้องการของตลาด ควรเลือกรุ่นที่มีความน่าสนใจ หรือ รุ่น Limited  และต้องมีใบการันตีว่าเป็นนาฬิกาของแท้ อย่างไรก็ตาม นาฬิกาหรูมักมีค่าเพิ่มสูงเมื่อมีประวัติและมีความหายาก การเลือกซื้อนาฬิกาต้องพิจารณาถึงความเชื่อถือในแบรนด์, สภาพของนาฬิกา, และการรักษาดูแลในระยะยาว
 
โดยการลงทุน เพชร ทอง นาฬิกาหรู จะมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป และจะมีความเสี่ยงทางการลงทุนที่แตกต่างกันอีกด้วย ดังนั้นการเลือกลงทุนควรพิจารณาถึงความเหมาะสม ความต้องการ และวัตถุประสงค์ของตัวนักลงทุนเอง เรามาดูถึงข้อดีข้อเสียของการลงทุนในสินทรัพย์แต่ละชนิด
 
1. เพชร 
ข้อดี
- มีมูลค่าคงที่ : เพราะเพชรมักมีมูลค่าคงที่และมักจะมีการเพิ่มมูลค่าตลอดเวลา
- การลงทุนเพื่อรักษามูลค่า : นักลงทุนบางคนเลือกที่จะลงทุนในเพชรเพื่อที่จะรักษามูลค่าของทรัพย์สิน
ข้อเสีย
- การขายเพชรอาจจะไม่ง่ายเท่ากับการขายทรัพย์สินอื่น ๆ 
- ความเสี่ยงในการประเมินมูลค่า การประเมินมูลค่าของเพชรอาจจะมีความยุ่งยากและมีความเสี่ยงในการเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้อง
2. ทอง
ข้อดี
- ทองคำมีสภาพคล่องการซื้อขายสูง เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์มีค่าเป็นที่ยอมรับในระดับสากล สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนกันได้ในทุกประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยด้วย มีทั้งตลาดหลักและตลาดรอง รองรับการซื้อขายแลกเปลี่ยน การที่ทองคำมีสภาพคล่องสูงช่วยให้นักลงทุนไม่กังวลที่จะลงทุนซื้อทองคำเก็บไว้ในครอบครองเพื่อแสวงหากำไร และหากต้องการถอนการลงทุนหรือนำออกขายเปลี่ยนเป็นเงินสด ก็สามารถทำได้ทันที่ที่ต้องการ
ข้อเสีย
- ราคาทองคำค่อนข้างเสถียรไม่เปลี่ยนแปลงขึ้นลงมาก โอกาสที่จะแสวงหากำไรจากส่วนต่างของราคาทองคำในระยะสั้นทำได้ค่อนข้างยาก การลงทุนทองคำจำเป็นต้องใช้เงินเย็นและใช้เวลาในการลงทุนจึงจะสร้างผลตอบแทนการลงทุนให้แก่ผู้ลงทุน
- ทองคำเป็นเครื่องมือการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนเพียงทางเดียวคือส่วนต่างของราคาซื้อกับราคาขาย ไม่มีผลตอบแทนการลงทุนในรูปแบบของดอกเบี้ยเช่นเงินฝากธนาคาร หรือผลตอบแทนในรูปแบบของเงินปันผล เช่นการถือครองหุ้นหรือตราสารทุนของสถานประกอบการทางธุรกิจ
 
3.นาฬิกาหรู
ข้อดี
- บางรุ่นผลิตในจำนวนจำกัด ทำให้หายาก เป็นที่ต้องการสูง
- ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูงและได้รับการประกอบอย่างประณีต ทำให้มีความทนทานและมีอายุการใช้งานยาวนาน
- นาฬิกาหรูเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหรา ทำให้เป็นที่ต้องการของผู้คนที่มีหน้ามีตาในแวดวงสังคม
- สามารถสวมใส่ได้ทุกวัน ใช้งานได้หลากหลาย หรือหากซื้อมาลงทุนก็มักสร้างความคุ้มค่า
ข้อเสีย
- การลงทุนในนาฬิกาหรู การลงทุนย่อมมาพร้อมความเสี่ยง ราคาที่ขึ้นแรงนี้มาจากการเก็งกำไรที่สูง อีกทั้งในปัจจุบัน อุปทานนาฬิกาก็กลับมาเพิ่มขึ้นแล้ว โลกก็กำลังเผชิญความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยที่อาจทำให้ความต้องการในสินค้าฟุ่มเฟือยเหล่านี้ลดน้อยลงได้ จึงจำเป็นต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน
 
พบกับ "โคชหนุ่ม" และ "กาย สวิตต์" ได้ใน "เงินทองของจริง" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.05-9.15 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และช่องทางออนไลน์ TERO Digital
 
 
รับชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtube.com/live/RYG1GQ5M6e4

ข่าวที่เกี่ยวข้อง