ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เรานำเสนอเรื่องเจ้าของเต็นท์รถไปซื้อรถซูเปอร์คาร์ ยี่ห้อปอร์เช่ จ่ายเงินแล้วไม่ได้รถ กลับโดนแจ้งความลักทรัพย์อีก วันนี้ ข่าวเย็นประเด็นร้อน ไปสอบถามเรื่องนี้จากนายหน้าที่ไปทำสัญญาซื้อขายแทนคนซื้อ ได้ความว่ามิจฉาชีพหลอกเป็นพี่ชายเจ้าของรถซูเปอร์คาร์ได้อย่างแนบเนียน
จากกรณี นายณัฐภัทร เจ้าของเต็นท์รถในกรุงเทพฯ ให้นายหน้าในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ไปทำสัญญาซื้อขายรถซูเปอร์คาร์ ยี่ห้อปอร์เช่ ราคา 3,170,000 บาท จากชายหนุ่มชื่อฮวด อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของรถ แต่โอนค่ารถไปแล้ว กลับไม่ได้รถ เพราะคนขายบอกว่า ระหว่างการซื้อขายถูกมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินค่ารถที่เพิ่งได้มา ออกไปให้มิจฉาชีพอีกทอดหนึ่ง จึงไม่ยอมให้รถกับผู้ซื้อ และเมื่อผู้ซื้อไปเอารถกลับกรุงเทพฯ เพราะจ่ายเงินและทำสัญญาแล้ว กลับถูกแจ้งความลักทรัพย์
เพื่อความชัดเจน ผู้สื่อข่าวไปพบกับ นายจักรกฤษณ์ หรือบังหมาน ซึ่งเป็นนายหน้า คนที่ไปทำสัญญาซื้อขายให้กับ นายณัฐภัทร์ นอกจากเป็นนายหน้า ยังเปิดเต็นท์รถมือสองด้วย
บังหมาน เล่าว่า เริ่มจากวันที่ 28 มกราคม ได้เข้าไปในไลน์ซื้อขายรถยนต์มือสอง และมีเซลขายรถมือ 2 ชื่อแนน ซึ่งรู้จักกัน แนะนำรถปอร์เช่คันนี้ให้ บอกว่าเป็นของชายที่ชื่อ นายต๋อง เมื่อตนเห็นแล้วสนใจ จึงขอคอนแท็กไลน์นายต๋อง และได้แช็ตคุยกัน
โดย นายต๋อง อ้างว่าเคยเป็นเจ้าของรถคันนี้ แต่ปัจจุบันไปทำงานอยู่ที่สิงคโปร์ จึงโอนไปให้น้องชายแท้ ๆ คือ นายฮวด ราคาเบื้องต้นอยู่ที่ 3.2 ล้านบาท จากนั้นได้นัดดูรถในวันรุ่งขึ้น คือ 29 มกราคม ที่บ้านของนายฮวด ในหาดใหญ่ และไลฟ์สดให้เจ้าของเต็นท์รถที่สุราษฎร์ธานี และเจ้าของเต็นท์ที่กรุงเทพฯ ดู
ซึ่งนายณัฐภัทร เจ้าของเต็นท์รถที่กรุงเทพฯ สนใจซื้อ จึงแช็ตต่อรองราคากับนายต๋อง จากเดิม 3,200,000 บาท เป็น 3,170,000 บาท ตอนนั้นหลงเชื่อว่านายต๋อง กับนายฮวด เป็นเจ้าของรถตัวจริง สุดท้ายนัดทำสัญญาซื้อขาย และส่งมอบรถช่วงเย็นวันที่ 29 มกราคม ที่คาร์แคร์แห่งหนึ่งในอำเภอหาดใหญ่
เมื่อทั้ง 2 ฝ่ายมาถึง ตนได้ประสาน นายต๋อง ให้ส่งบัญชีธนาคารมา แต่เมื่อดูชื่อบัญชีกลับไม่ใช่ของนายฮวด ที่เป็นเจ้าของรถตัวจริง จึงบอกให้นายต๋อง เอาเลขบัญชีของนายฮวดมาให้ สุดท้าย นายต๋องส่งบัญชีของนายฮวดมาให้ จึงส่งต่อให้เจ้าของเต็นท์รถที่กรุงเทพ โอนเงินไปให้ตามที่ตกลง พร้อมกับเซ็นเอกสารซื้อขายรถยนต์ และลงนามกันทั้ง 2 ฝ่าย โดยมีเอกสารการซื้อขาย และโอนเล่มทะเบียนรถ
แต่ช่วงที่เซ็นสัญญาและส่งมอบเอกสาร นายฮวด ยังคงติดต่อกับนายต๋องเป็นระยะ และบอกว่าถูกมิจฉาชีพหลอกแล้ว เพราะได้โอนเงินค่ารถที่ได้รับทั้งหมดไปให้นายต๋อง และนายต๋องได้บล็อกไลน์ชิ่งหนี เมื่อตนเปิดดูไลน์ในมือถือ พบว่าไลน์ของนายต๋อง บล็อกหนีไปแล้วเช่นกัน
ตนจึงให้นายฮวด โทรศัพท์ไปอายัดบัญชีปลายทางที่โอนเงินไป พร้อมขับรถปอร์เช่ที่กำลังจะนำไปส่งให้คนซื้อที่กรุงเทพฯ ไปแจ้งความที่ สภ.หาดใหญ่ เพราะเห็นใจที่นายฮวด เสียท่ามิจฉาชีพ
แต่เมื่อไปถึงโรงพัก หลังนายฮวด แจ้งความเรื่องถูกมิจฉาชีพหลอก ให้การเป็นอื่นว่า จะเอารถคืน จนวุ่นวายทั้ง 2 ฝ่าย ตำรวจจึงต้องเก็บรถเอาไว้ กระทั่งวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ตนได้นำเอกสารหลักฐานไปเอารถปอร์เช่คืน ซึ่งตำรวจก็ให้เอาไป ก่อนจะส่งมอบให้เจ้าของเต็นท์รถที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเจ้าของตัวจริง เอารถกลับไป แต่หลังจากนั้นตนและคนที่เกี่ยวข้อง ถูกนายฮวดแจ้งความในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์
บังหมาน บอกว่า ทั้งตนและนายฮวด น่าจะโดนนายต๋อง หลอกลวงทั้ง 2 ฝ่าย โดยนายต๋อง บอกกับตนว่า เป็นพี่ชายแท้ๆ ของนายฮวด แต่ในฝั่งของนายฮวด ไม่รู้ว่านายต๋องกล่าวอ้างอย่างไร
ขณะที่ทีมข่าวโทรศัพท์คุยกับคุ นายฮวด บอกว่า ได้ประกาศขายรถทางออนไลน์ 4.9 ล้านบาท ต่อมามีคนชื่อต๋อง ติดต่อว่ามีเพื่อนสนิทจะมาซื้อรถ โดยจะซื้อรถคันนี้ไปให้พ่อราคา 3.2 ล้าน เพราะหากราคาสูงกว่านี้ พ่อจะไม่เอา โดยนายต๋องอ้างว่า จะออกส่วนต่างที่เหลือให้ แต่มีข้อแม้ว่า เมื่อได้เงินค่ารถแล้ว ต้องโอนเงินให้นายต๋องก่อน แล้วนายต๋องจะเติมเงินส่วนที่เหลือให้ครบ แล้วโอนคืนมาให้ สุดท้ายนายต๋อง ได้เงิน แล้วดีดตัวออกจากไลน์หายเข้ากลีบเมฆ
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35