สาวโอนเงินให้พ่อ “เดือนละหมื่น” ถูกถอนปริศนา “เกือบแสน” แจ้ง ตร. - ธนาคาร ไม่คืบ !

สุดงง ? ลูกสาวโอนเงินให้พ่อ ไปกดที่ตู้ ATM ใช้เดือนละไม่กี่พันบาท ถูกมือมืดถอนเงินที่เหลือออกไปนานนับปี รวมแล้วกว่าแสนบาท จึงไปแจ้งความกับตำรวจ ผ่านมา 8 เดือนแล้วคดียังไม่คืบแม้แต่ภาพวงจรปิดก็ไม่เคยได้เห็น

 

วันที่ 7 ก.พ. 67 คุณเลื่อน พลนางรอง (เลื่อน) ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า ลูกจะโอนเงินให้ตนแต่ละครั้งไม่เท่ากัน แต่ตนจะกดเงินออกมาใช้ไม่เต็มจำนวนที่ลูกโอนมา โดยกดเพียงแค่เดือนละครั้ง สังเกตมาเกือบปีแล้วว่าเงินมักจะหายไป ทั้งที่จะต้องมีเงินเหลือทุกเดือน จึงตัดสินใจบอกลูกให้ไปแจ้งความ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนกดเงินที่เหลือ และมีบัตร ATM อยู่กับตัวเพียงแค่ใบเดียว

 

 

คุณอัมพาพร พลนางรอง (ตัง) ผู้เสียหาย และ คุณชีวาวิชญ์  กุนอก (ชี) ผู้เสียหาย เล่าว่า หลังจากได้รู้เรื่องจากพ่อ ตำรวจแนะนำให้ไปดูกล้องวงจรปิดบริเวณตู้ ATM ว่ามีใครมากดเงินหรือไม่ หรือพ่ออาจจะกดเงินหลายครั้งแล้วจำไม่ได้ โดยแจ้งตำรวจและธนาคารตั้งแต่เดือน ส.ค. 66 แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า แม้แต่ภาพจากกล้องวงจรปิดก็ยังไม่ได้ โดยธนาคารได้ส่งหนังสือไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ส่งเอกสารไปที่ระนอง ทั้งที่ตนอยู่ที่บุรีรัมย์ จึงต้องไปตามเรื่องเอง

 

 

สุดท้ายต้องมาพิมพ์เอกสารของตำรวจไปส่งธนาคารเอง เนื่องจากตำรวจทำไม่ถูกวิธีจนถูกธนาคารตีกลับ ผ่านมากว่า 8 เดือน ที่ต้องเดินเรื่องเองตลอด ทำให้ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตและหน้าที่การงานอย่างมาก ก่อนมาออกรายการถกไม่เถียง ทางธนาคารโทรมาหาพยายามชี้แจงเพื่อหาทางออก แต่ไม่ได้พูดคุยเนื่องจากอยู่ระหว่างเดินทาง โดยทางรายการถกไม่เถียงจะเปิดโอกาสให้ธนาคารชี้แจงในกรณีนี้ด้วย

 

 

ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า กรณีนี้จะต้องพิสูจน์ว่าคุณพ่อเลื่อนไม่ได้เป็นคนไปกดเงินด้วยตัวเอง ถ้าหากเป็นผู้เสียหายจริง แจ้งความแล้ว 8 เดือนคดีไม่คืบหน้า แนะนำให้ไปร้องเรียนกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ การหาตัวคนที่กดเงินหลังจากคุณพ่อเลื่อนทำได้ไม่ยาก โดยสามารถดูจากกล้องวงจรปิดว่ามีคนอื่นมากดเงินหรือไม่ ถ้าหากตำรวจเร่งทำคดีตั้งแต่แรกก็จะไม่ยืดเยื้อนานขนาดนี้ ย้ำว่าปกติแล้วกระบวนการทำงานคดีแบบนี้ไม่ควรกินเวลานานถึง 8 เดือน

 

 

พ.ต.อ. ชิษณุพงศ์ เถียรกิตติพงศ์ ผกก.สภ.ปะคำ เผยว่า จากการสอบถามพนักงานสอบสวน เรื่องความคืบหน้าของคดีนี้พบว่า ธนาคารมีการส่งเอกสารผิดไปที่จังหวัดระนองจริง ตอนนี้ได้ส่งเรื่องไปขอเอกสารจากทางระนองเพื่อนำมาสืบสวนต่อไป ตำรวจได้รับหลักฐานจากธนาคารเมื่อวาน ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบหลักฐาน และจะนัดผู้เสียหายกับธนาคารมาพูดคุย เชื่อว่าถ้าหากมีพยานหลักฐานครบถ้วนก็จะปิดคดีนี้ได้ ส่วนกล้องวงจรปิดเนื่องจากผ่านไปเกิน 2 เดือนแล้วจึงไม่สามารถย้อนกลับไปดูได้ แต่ยังสามารถสืบสวนจาก Statement ได้ว่าใครเป็นคนกดเงินไป สาเหตุที่คดีล่าช้ากว่า 8 เดือน ตนไม่ทราบเนื่องจากเพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง แต่ยืนยันว่าจะรีบดำเนินการให้อย่างแน่นอน

 

ติดตาม  รายการ "ถกไม่เถียง"  ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ”  ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.30 - 18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35