ทลายเครือข่ายหวยออนไลน์ โกฟุก เงินหมุนเวียน 3 พันล้านบาท | เช้านี้ที่หมอชิต

เช้านี้ที่หมอชิต - กรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงผลการทลายเครือข่ายโกฟุก ผู้มากบารมีแห่งระนอง ซึ่งว่ากันว่าเป็นอีกหนึ่งมาเฟียอันดามันตัวเอ้ จากการทำธุรกิจหวยเถื่อนออนไลน์และฟอกเงิน พบเงินหมุนเวียนกว่า 3,000 ล้านบาท และตรวจยึดอายัดทรัพย์สินได้เป็นจำนวนมาก

 

เครือข่ายนี้อู้ฟู่ขนาดไหน เงินที่ได้มาเปลี่ยนเป็นกระเป๋าแบรนด์เนมใบละเป็นแสน ยึดได้เป็นลังๆแบบนี้ รถหลายคัน บ้านและที่ดินซึ่งมีการอายัดไว้แล้ว เฉพาะตรงนี้มูลค่าหลายร้อยล้าน

 

หลังกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI เปิดปฏิบัติการทลายเครือข่ายโกฟุก โดยบุกค้นพร้อมกันทั่วประเทศ 27 จุด เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เมื่อวานนี้มีการแถลงผลปฏิบัติการ โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางไปรับฟังรายงานด้วยตนเอง

 

โดยทาง DSI ระบุว่า คดีนี้เป็นการสืบสวนขยายผลจากกรณีมีเบาะแสการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ของกลุ่มบุคคลภายใต้เครือข่ายโกฟุก นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จในระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อหลอกลวงให้ประชาชนเข้าซื้อรางวัลเลขท้ายของรางวัลที่ 1 และรางวัลเลขท้าย 2 ตัว ซึ่งมีการเปิดเว็บไซต์ให้แทงหลายเว็บ เช่น ร่ำรวยร้อยล้าน, นพเก้า, นาคราช, ชอบหวย, ล๊อตโต้เอ็มเอ็ม, ดีเอ็นเอ เยเย่ และอื่น ๆ ทำต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2560 พบเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 3,000 ล้านบาท ไปสู่การขอออกหมายจับผู้ต้องหา 18 ราย และตรวจค้น 27 จุด จับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 7 ราย ซึ่งมีรายงานว่า 1 ใน 7 รายนี้ มีหนึ่งคนที่อยู่ในระดับรองจากโกฟุก หรือเป็นมันสมองคนสำคัญของกลุ่ม ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นลักษณะของบัญชีม้า ส่วนตัว โกฟุก ไหวตัวทันชิงหลบหนีออกจากประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ ทันทีที่ทราบว่าศาลอนุมัติหมายค้น

 

สำหรับทรัพย์สินที่ยึดได้ มูลค่าประเมินแล้วน่าจะหลายร้อยล้านบาท จำแนกเป็น 14 ประเภท เช่น เงินสด 55 ล้านบาท, ทองคำน้ำหนัก 350 บาท, โฉนดที่ดิน-หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด 8 ฉบับ, รถยนต์ 8 คัน, พระเครื่อง 97 รายการ, นาฬิกาหรู 47 เรือน, อาวุธปืน 10 กระบอก, กระเป๋า รองเท้า และเสื้อผ้าแบรนด์เนมกว่า 400 รายการ

 

และเมื่อขยายผลไปเรื่อย ๆ พบว่าเครือข่ายโกฟุกมีความเชื่อมโยงกับกระบวนการสร้างหลักฐานการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปนอกประเทศอันเป็นเท็จ เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยบริษัทที่เปิดไว้ในต่างประเทศเป็นบริษัทที่ไม่มีอยู่จริง และมีการนำเอาน้ำมันวนกลับมาขายยังท่าเรือหรือแพปลา ในเครือข่าย คาดว่าสร้างความเสียหายแก่รัฐมากกว่า 10,000 ล้านบาท จากการดำเนินการลักษณะนี้สืบเนื่องมามากกว่า 10 ปี ถือเป็นอีกคดีใหญ่ของเครือข่ายโกฟุก ที่อยู่ในระหว่างการสืบสวนขยายผล

 

ส่วนตัวของ โกฟุก ทางการข่าวของ DSI ระบุว่าเป็นผู้มีอิทธิพลในจังหวัดระนอง เป็นบุคคลสองสัญชาติ คือ ไทยและเมียนมา มีการทำธุรกิจข้ามไปมา ระหว่างประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านจึงทำให้มีความคล่องตัวในการหลบหนี