หนุ่มร้อง ! ตกเป็นแพะติดคุกฟรี 3 ปี ครอบครัวพังพินาศ | เบื้องหลังข่าว กับ กาย สวิตต์

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หนุ่มโรงงาน ต้องตกเป็นแพะในคดีพยามฆ่า ต้องติดคุกฟรี 3 ปี ทำครอบครัวพังพินาศ ภรรยาต้องหอบลูกน้อย 2 คน ไปอยู่กับสามีใหม่ทั้งที่ยังคาทะเบียนสมรสอยู่ ภรรยาให้เหตุผลว่า ถ้าไม่ไปก็อดตาย หลังออกจากคุกมา ได้ติดต่อขอเงินเยียวยาจากกระทรวงยุติธรรม แต่กระทรวงก็ปฏิเสธการเยียวยา ทุกวันนี้หนุ่มโรงงานรายนี้ต้องคิดหนัก ได้แต่คิดถึงลูก คิดถึงเมีย

 

เมื่อเช้าที่ผ่านมา นายนิรันดร์ ท้วมเกร็ด อายุ 28 ปี เดินทางมาขอความช่วยเหลือในด้านกฎหมาย กับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังต้องตกเป็นแพะนาน 3 ปี

 

นายนิรันดร์ ท้วมเกร็ด ผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2561 เวลา 19.00 น. ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปหาเพื่อน ระหว่างทางถูกวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ซ้อน 3 มาเบิ้ลเครื่องใส่ และมองหน้าหาเรื่อง ตนจึงถามไปว่า มองหน้ามีอะไรหรอ ฝั่งวัยรุ่นได้ตอบกลับมาว่าไม่มีครับ พร้อมถามกลับมาว่าแล้วพี่มีอะไรหรือเปล่า ตนได้ตอบไปว่าไม่มี จากนั้นต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันไป พอตนจึงถึงบ้านเพื่อน ก็ได้พูดคุยกัน จากนั้นได้นำเรื่องนี้ไปคุยกับเพื่อน เพื่อนก็บอกว่าน่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน ไม่มีอะไรหรอก หลังจากคุยกับเพื่อนได้ประมาณ 10 นาที ตนเองก็ขี่รถกลับบ้าน

 

ต่อมาเวลา 21.00 น. แฟนของเพื่อนได้โทรศัพท์มาหา ได้บอกว่าเมื่อกี้ที่เข้ามา ได้ไปมีปัญหาอะไรกับใครหรือเปล่า และได้สั่งห้ามไม่ให้ตนเข้าไปที่บ้านเพื่อนอีก พร้อมบอกว่าเรื่องมันจบแล้ว

 

หลังจากนั้นเรื่องผ่านไป 1 ปี ขณะที่ตนกำลังทำงานอยู่ที่โรงงานขายเหล็ก ได้มีตำรวจเข้ามาจับตนในคดีพยายามฆ่า จับตนไปฝากขังที่ศาล ตนได้ปฏิเสธพร้อมสู้คดีในชั้นศาล พร้อมติดต่อกองทุนกระทรวงยุติธรรม ให้ช่วยเรื่องประกันตัว ศาลจึงอนุมัติให้ประกันตัวในศาลชั้นต้น ต่อมาศาลชั้นต้นได้ตัดสินให้ตนเองมีความผิด สั่งจำคุก 11 ปี ตอนนั้นตนเองรู้สึกเสียใจมาก เพราะต้องจากเมียกับลูกน้อย 2 คน เข้าไปอยู่ในเรือนจำ ตนเองได้สู้ต่อในชั้นศาลอุทธรณ์ แต่ต้องสู้อยู่ในเรือนจำแล้วคราวนี้ และศาลอุทธรณ์ได้ตัดสินยืนตามศาลชั้นต้น ระหว่างนั้นมีแต่คนเกลี้ยกล่อมให้ตนเองยอมรับผิด โทษจะได้ลดลง แต่ตนไม่ยอมรับผิดแน่นอน เพราะตนเองไม่ได้ทำผิด ต่อมาตนเองได้สู้ต่อในชั้นศาลฎีกา โดยเป็นการเขียนฎีกาขึ้นมาเอง ศาลฎีกาตัดสินยกฟ้องตนเอง จังหวะนั้นตนเองดีใจจนร้องไห้ คิดว่าความเป็นธรรมมีอยู่จริง

 

หลังตนเองพ้นโทษออกมา ในเดือนกันยายนปี 2566 ได้ทราบว่าพ่อตนเองป่วยหนัก ตนเองจึงเข้าไปหาพ่อ ไปกราบพ่อก่อน หลังจากนั้นตนเองได้ไปตามหาภรรยากับลูก ปรากฏว่าภรรยาตนเองได้พาลูกหนีไปอยู่กับสามีใหม่แล้ว ทำให้ตนเสียใจมาก เพราะตนได้จดทะเบียนสมรสกับภรรยา หวังจะสร้างอนาคตไปด้วยกัน แต่ต้องมาพังทลาย เพราะถูกกล่าวหาว่าพยายามฆ่าผู้อื่น ต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำถึง 3 ปี

 

ต่อมาตนเองได้ทำเรื่องขอเงินเยียวยาจากกระทรวงยุติธรรม ในเรื่องที่ตนเองติดคุกฟรี 3 ปี แต่ทางกระทรวงกลับไม่อนุมัติเงินเยียวยาให้ โดยให้เหตุผลว่า ที่ตนเองหลุดคดีมาได้ เพราะว่า หลักฐานไม่เพียงพอ ศาลจึงยกผลประโยชน์ให้กับจำเลย แสดงว่าตนเองไม่ขาวบริสุทธิ์ ศาลจึงไม่ได้เยียวยา

 

ทางด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ กล่าวว่า ต้องฝากกระทรวงยุติธรรม เพราะในการจับแพะยังมีให้เห็นกันอยู่ต่อเนื่อง ในประเทศไทยกฎหมายได้บัญญัติไว้ว่า ถ้าถูกจับติดคุกฟรี สามารถเข้าไปติดต่อเงินเยียวยาที่กระทรวงยุติธรรมได้ แต่กระทรวงยุติธรรมกลับมีหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ว่า หากศาลไม่ได้ชี้ขาดว่าบริสุทธิ์ ชี้เพียงว่ายกประโยชน์แห่งความสงสัย ทางกระทรวงก็จะไม่จ่ายเงินเยียวยา ต้นมองว่าประเทศไทยมี 3 ศาล ในเมื่อศาลสูงสุดตัดสินให้พ้นผิดแล้ว ทางกระทรวงก็ควรที่จะเยียวยา