ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หนุ่มพิการขา โยกรถสามล้อจากสุโขทัย เข้ากรุงเทพฯ บอกว่าจะไปขอสิทธิคนพิการคืนที่กรมบัญชีกลาง หลังถูกตัดเบี้ยคนพิการมา 4 ปี โดยไม่รู้สาเหตุ
หนุ่มสุโขทัยใจเด็ด ! โยกรถเข้ากรุงเทพฯขอสิทธิคนพิการคืน
กรณีเมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.ไชโย รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบชายพิการใช้รถโยกสามล้อ เดินทางมาตามถนนสายเอเชีย มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ
ตำรวจไปตรวจสอบที่บริเวณทางเข้าอำเภอไชโย ตำบลจระเข้ร้อง จังหวัดอ่างทอง ไปเจอ นายมณฑล เพ็ชรสังข์ อายุ 48 ปี อยู่ที่อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย บอกว่ากำลังเดินทางด้วยรถสามล้อโยกไปที่กรมบัญชีกลางที่กรุงเทพฯ เพื่อยืนยันตัวตนตามที่เจ้าหน้าที่บอก เนื่องจากถูกตัดสิทธิผู้พิการ และไม่มีบัตรประชาชน
นายมณฑล ให้ข้อมูลกับตำรวจ บอกว่า เดิมทำงานเป็นช่างแกะลายกระจก แกะสลักไม้ รับทำป้ายอยู่ในกรุงเทพฯ แต่เกิดอุบัติเหตุตกตึก 6 ชั้น ตั้งแต่ปี 2557 ทำให้เป็นผู้พิการขาทั้ง 2 ข้าง จึงเดินทางกลับจังหวัดบ้านเกิด ไปรับจ้างทำงานแฮนด์เมด แต่รายได้ไม่ดี
ที่ผ่านมาได้เงินช่วยเหลือสวัสดิการของคนพิการเดือนละ 800 บาท ต่อมาไปขอตรวจสอบเบี้ยคนพิการ ทำให้ทราบว่าไม่มีเบี้ยคนพิการโอนเข้ามาในบัญชีมาตั้งแต่ปี 2563 จึงไปตรวจสอบที่อำเภอศรีสัชนาลัย เจ้าหน้าที่แจ้งว่าตนถูกตัดสิทธิผู้พิการ เนื่องจากไม่มีบัตรประชาชน
เจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้ไปแจ้งความที่ สภ.ศรีสัชนาลัย และต้องไปยืนยันสิทธิด้วยตนเองที่กรมบัญชีกลางในกรุงเทพฯ เคยขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยพาไป แต่เจ้าหน้าที่ตอบกลับมาว่าช่วยเหลือได้เท่านี้ ตัดสินใจใช้รถสามล้อโยกออกเดินทางมา พร้อมสัมภาระใส่ตะกร้าหน้าและหลังรถ ใช้เวลากว่า 3 สัปดาห์ มาถึงจังหวัดอ่างทอง รวมระยะทางกว่า 400 กิโลเมตร
จากนั้น ตำรวจสายตรวจ สภ.ไชโย ได้นำตัวไปพักผ่อนที่สถานีตำรวจ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย
พบรายชื่อในทะเบียนบ้านกลาง-เร่งคืนสิทธิคนพิการ
ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอ่างทอง และตำรวจ สภ.ไชโย ต้องระดมกำลังกันออกตามหาตัวนายมณฑล เนื่องจากหนีออกมาจากสถานีตำรวจ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
กระทั่งมาเจอ นายมณฑล กำลังโยกรถสามล้ออยู่ริมถนนสายเอเชีย ที่อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
นายมณฑล แจ้งว่า ต้องการเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไปคุยกับเจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลางด้วยตัวเอง ไม่อยากพูดอะไรมากไปกว่านี้ อยากจะไปพูดคุยกับผู้ใหญ่ถึงปัญหาของระบบการทำงานของราชการ ส่วนที่มีข่าวว่าตนเองหนีคดีมานั้น ก็ไม่เป็นความจริง
ขณะที่ นางวาสนา ทองจันทร์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอ่างทอง และนางสาวอัญชลี มีพรเจริญกิจ คลังจังหวัดอ่างทอง ที่มาช่วยดูแลเรื่องสิทธิของคนพิการและเบี้ยยังชีพคนพิการ บอกกับนายมณฑลว่า หลังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบเรื่อง ก็ได้ตรวจสอบรายชื่อของนายมณฑล พบว่ามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านกลาง ส่วนเรื่องเบี้ยคนพิการ ก็จะดูแลและตรวจสอบให้โดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม หลังพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ นายมณฑล ก็ยังจะโยกรถเข้ากรุงเทพฯ ตามที่ตั้งใจ บอกด้วยว่าไม่ต้องให้ใครขับรถตาม ไม่ต้องให้ใครมายุ่ง ถ้าวุ่นวายมาก ๆ จะโยกรถให้สิบล้อชน
พบสาเหตุชื่อหายเพราะเคยต้องคดี
ทีมข่าวตรวจสอบย้อนกลับไปที่จังหวัดสุโขทัย นางสาวมะลิวัน สิทธิโยธี พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุโขทัย ระบุว่า นายมณฑล ได้ขึ้นทะเบียนคนพิการเมื่อ 10 มิถุนายนปี 2558 และบัตรคนพิการหมดอายุวันที่ 9 มิถุนายน 2566 ซึ่งกรณีนี้สามารถต่ออายุบัตรคนพิการได้ที่สำนักงาน หรือที่ อบต.ท้องที่ที่อาศัยอยู่ได้
แต่เมื่อตรวจสอบในฐานข้อมูล นายมณฑล ไม่มีชื่อในทะเบียนบ้านในจังหวัดสุโขทัย แต่ชื่อไปอยู่ในทะเบียนบ้านกลางของมหาดไทย จึงไม่สามารถทำบัตรประชาชนและบัตรคนพิการให้ได้
ส่วนสาเหตุที่ชื่อของนายมณฑล ไปอยู่ในทะเบียนบ้านกลางนั้น นายเอกสิฏฐ์ วิไลศิลป์ นายอำเภอศรีสัชนาลัย ชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา นายมลฑล มาขอทำบัตรประชาชนที่สำนักทะเบียน อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย แต่ทำไม่ได้ เนื่องจากข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของนายมณฑล ปรากฏหมายจับของ สน.บางซื่อ ในคดีอาญา วันเดือนปีที่ออกหมายจับ 30 สิงหาคม 2559
เจ้าตัวอ้างว่าถูกดำเนินคดีไปแล้ว เจ้าหน้าที่จึงถามหาใบบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นหลักฐานให้ผู้ได้รับโทษที่ได้รับการปล่อยตัว แต่เจ้าตัวแจ้งว่าเอกสารสูญหาย เจ้าหน้าที่จึงแนะนำให้ไปติดต่อ สภ.ศรีสัชนาลัย เพื่อให้ประสานขอหลักฐานแสดงคดีถึงที่สุดจาก สน.บางซื่อ เพื่อใช้ประกอบการปลดล็อกรายการทะเบียนราษฎร์ แต่ปรากฏว่าในวันดังกล่าวไม่มีการติดต่อใด ๆ กลับมาจากนายมณฑล จนมาปรากฏเป็นข่าวว่านายมณฑลโยกรถเข้ากรุงเทพฯ
ทั้งนี้ หากได้หลักฐานคดีถึงที่สุด หรือใบบริสุทธิ์ ทางสำนักทะเบียนอำเภอศรีสัชนาลัย จะปลดล็อกรายการในทะเบียนราษฎร์ให้ จึงจะสามารถทำบัตรประจำตัวประชาชน และติดต่อขอรับเบี้ยผู้พิการจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่นายมณฑลมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านได้
ขณะที่ นายทเนตร์ น้อยสุก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 บ้านวังขอนงุ้น ตำบลแม่สำ อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ให้ข้อมูลกรณีนายมณฑล โดยนายมณฑลออกจากพื้นที่ไปทำงานตั้งแต่วัยรุ่น และมีคดีต้องโทษจำคุกมาหลายปี ในคดีเกี่ยวกับยาเสพติด มีนิสัยใจร้อน ทำร้ายคนในครอบครัว
อย่างไรก็ตาม 2-3 ปีที่ผ่านมา นายมณฑลกลับมาอยู่บ้านในสภาพพิการ แต่มีความสามารถด้านการแกะสลัก ผู้นำท้องถิ่นได้จัดหางบประมาณซื้ออุปกรณ์ทำงานแกะสลักเพื่อให้มีอาชีพ จะได้อยู่กับครอบครัว แต่ก็มีปากเสียงกับพ่อแม่มาตลอด กระทั่งมาเป็นข่าวโด่งดัง
วราวุธ สั่งช่วยเหลือคืนสิทธิคนพิการโดยด่วน
ขณะ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว และได้สั่งการให้กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เข้าไปตรวจสอบ และดูว่าจะสามารถแก้ปัญหาให้ได้อย่างไรบ้าง
นายวราวุธ ฝากไปถึงคนพิการทั่วประเทศ หากมีปัญหาเรื่องสิทธิหรือเงินสนับสนุน ไม่ต้องรีบเดินทางเข้ามาที่กรุงเทพมหานคร ให้โทรศัพท์ไปที่ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) สายด่วน 1300 ของกระทรวง พม. และทาง ศรส. จะช่วยประสานงานและหาข้อมูลให้ เพื่อจะได้ประหยัดเวลาและประหยัดแรงของพี่น้องคนพิการทุกคน
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35