สุดงง ? พ่อลูกพบศพขณะพาวัวไปกินหญ้า จึงรีบแจ้งตำรวจ 1 เดือนต่อมากลับถูกจับทั้งครอบครัว ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้เสียชีวิตที่พบศพในวันนั้น โดยตำรวจบอกว่ามีพยานสำคัญคือคำให้การของเด็ก 5 ขวบ
วันที่ 3 ก.พ. 67 คุณสมพร ครูอ้น (กลํ้า) พ่อ ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า วันที่ 21 ต.ค. 66 ตนกับลูกชายพาวัวไปกินหญ้าบริเวณหมู่บ้านในตอนเช้า ระหว่างทางไปเจอศพในห้วย ลูกชายจึงไปบอกผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านให้ไปแจ้งตำรวจในพื้นที่ จากนั้นได้ให้ลูกชายกลับไปที่บ้าน ส่วนตนกลับไปดูที่ศพเพื่อรอตำรวจมาตรวจสอบ
รอจนตำรวจมาถึงตรวจสอบศพจึงได้รู้ว่าผู้เสียชีวิตเป็นพ่อค้าทอดมันในหมู่บ้าน ยืนยันว่ารู้จักกันแต่ไม่เคยมีปัญหากับผู้เสียชีวิตมาก่อน จากนั้นตำรวจเชิญตัวไปให้ปากคำแล้วก็กลับบ้านตามปกติ ผ่านไป 1 สัปดาห์ ตำรวจเชิญไปให้ปากคำเหมือนเดิม และได้ตรวจดีเอ็นเอ
คุณสุจิตรา สิกขาจารย์ (สาว) แม่ เล่าต่อว่า ผ่านไป 1 เดือน 23 พ.ย. 66 ตำรวจติดต่อมานัดให้สามีของตนไปที่โรงพัก แต่หลังจากนั้น วันที่ 24 พ.ย. 66 ตำรวจบุกมาที่บ้านพาทั้งครอบครัว 12 คน ไปที่โรงพักจับแยกกันสอบ จนถึง 3 ทุ่มก็ถูกออกหมายจับทั้งครอบครัว ด้วยความไม่รู้หนังสือ จึงถามตำรวจว่าทำไมครอบครัวถึงถูกจับ ตำรวจบอกว่าสามีกับลูกชายรับสารภาพว่าเป็นคนฆ่า
โดยตำรวจอ้างว่าให้รับสารภาพจะได้ปล่อยกลับบ้าน แต่ทุกคนในครอบครัวยืนยันว่าทุกคนให้การปฏิเสธ เหตุจูงใจที่ตำรวจแจ้งคือลูกเขยของตนมีปัญหากับผู้เสียชีวิตจึงลงมือฆ่า แต่ครอบครัวปฏิเสธ ตำรวจจึงตั้งอีกเหตุจูงใจว่า สามีกับลูกชายของตนมีความขัดแย้งกับผู้เสียชีวิต และลวงมาฆ่าในบ้าน ซึ่งเป็นไปไม่ได้เนื่องจากในบ้านมีเด็กอยู่ด้วยกว่า 5 คน และทุกวันนี้ยังมีคนในครอบครัวติดคุกอยู่อีก 3 คน
คุณนิรันดร์ เกแง้ว ผู้ร่วมก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เล่าว่า หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียน พบว่าครอบครัวนี้ถูกจับเข้าคุกไป 6 คน ต้องขายทรัพย์สินทุกอย่างเพื่อใช้ประกันตัว แต่ไม่สามารถประกันตัวออกมาได้ทุกคน ตอนนี้ยังมีอีก 3 คนที่ยังอยู่ในคุก ทุกวันนี้ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ส่วนเรื่องการทำงานของตำรวจ จะต้องไปตรวจสอบให้แน่ชัดว่าทำตามขั้นตอนหรือไม่ ตอนนี้ได้ประสานงานขอช่วยเหลือจากหน่วยงานต่าง ๆ แล้ว เพื่อให้ครอบครัวนี้ได้รับความเป็นธรรม
พ.ต.อ.สานิตย์ พลเพชร ผกก.สภ.เมืองตรัง กล่าวถึงสาเหตุการจับกุมว่า หลักฐานของคดีนี้ที่ทำให้ตำรวจตัดสินใจจับกุมครอบครัวนี้ เนื่องจากมีพยานเป็นเด็ก 5 ขวบ จากการสอบปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพ ส่วนผู้เสียชีวิตถูกมีดฟันตามลำตัวและเชือดคอ แต่อาวุธที่ใช้ก่อเหตุยังหาไม่พบ การสืบสวนสอบปากคำพยานหลายปากพบไทม์ไลน์ที่สอดคล้องกับคำให้การของเด็ก 5 ขวบ ส่วนหลักฐานอื่นยังไม่พบ
แต่คุณสุจิตรา แย้งว่าตำรวจบังคับให้เด็ก 5 ขวบที่เป็นหลานของตนพูด เนื่องจากแม่ของเด็กถูกจับไปด้วยจึงทำให้เด็กกลัว และตำรวจได้ให้เงินเด็ก 240 บาทเพื่อบังคับให้เด็กพูด ยืนยันว่าขณะสอบปากคำเด็กไม่มีญาติอยู่ด้วย พ.ต.อ.สานิตย์ ชี้แจงต่อว่า เหตุจูงใจจากการสอบสวนยังไม่ทราบรายละเอียด ตอนนี้ทราบเพียงว่าเป็นการก่อเหตุภายในบ้าน แล้วนำศพไปทิ้งที่อื่น ยืนยันว่ามีการดำเนินการตาม พ.ร.บ.อุ้มหายทุกขั้นตอน ไม่มีการบังคับให้รับสารภาพ และตอนนี้ตำรวจได้พยานหลักฐานหลายอย่างที่ทำให้มั่นใจว่าคนในครอบครัวนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้อย่างแน่นอน หลังจากนี้จะต้องไปว่ากันในชั้นศาล
นายกองตรี ดร. ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรีสมศักดิ์ เทพสุทิน กล่าวว่า คดี้มีข้อสังเกตที่น่าสนใจหลายเรื่อง โดยทางออกของคดีนี้อยู่ที่พยานหลักฐาน ครอบครัวนี้สามารถร้องขอให้อัยการช่วยสอบเพิ่มเติมได้ ตอนนี้สามารถร้องขอกองทุนยุติธรรมมาช่วยประกันตัวทั้ง 3 คน ออกมาสู้คดีก่อน และมีทนายความให้ฟรี ส่วนถ้ามีเรื่องใดที่คิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ตอนนี้ได้ประสานงานไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรังให้ลงมาช่วยดูคดีนี้แล้ว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
เชื่อว่าในกรณีนี้หากเป็นผู้ก่อเหตุจริงจะต้องมีร่องรอยการต่อสู้กัน อาจมีบาดแผลหรือร่องรอยต่าง ๆ จึงอยากให้กลับไปทบทวนไทม์ไลน์ของคนในครอบครัวทุกคนว่าขณะเกิดเหตุแต่ละคนทำอะไรบ้าง เพื่อนำมาต่อสู้คดีในชั้นศาลต่อไป และถ้าหากในอนาคตมีผลตัดสินว่าตกเป็นแพะ สามารถยื่นขอรับการเยียวยาและฟ้องเจ้าหน้าที่กลับได้ ด้านสามพ่อแม่ลูกยืนยันว่าคนในครอบครัวไม่ได้ทำอย่างที่ตำรวจกล่าวหาอย่างแน่นอน
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง Weekend” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันเสาร์ และ วันอาทิตย์ เวลา 17.30 - 18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35