“ปวีณา” มอบโทรศัพท์น้องจ๋า ตกตึกที่มาเลเซีย ให้ “บิ๊กโจ๊ก” แกะรอย | เบื้องหลังข่าว กับ กาย สวิตต์

329 ครั้ง

02 ก.พ. 2567

แชร์ข่าวไปที่

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - คดีน้องจ๋า สาวไทยอายุ 23 ปี ตกตึกสูง 33 ชั้น ที่มาเลเซีย ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา พ่อแม่ยังคาใจสาเหตุการตาย ซึ่งวันนี้ คุณปวีณา หงสกุล พาพ่อแม่เข้าขอความช่วยเหลือกับ บิ๊กโจ๊ก รอง ผบ.ตร. พร้อมกับนำโทรศัพท์มือถือน้องจ๋า ที่เพิ่งได้มาจากเพื่อนที่มาเลเซีย มอบให้กับ บิ๊กโจ๊ก เพื่อใช้แกะรอยสืบสวน และที่น่าเศร้า เมื่อวานนี้ มหาวิทยาลัยที่น้องจ๋าเพิ่งรับปริญญา ได้ส่งรูปรับปริญญามาให้น้องจ๋าที่บ้าน พ่อแม่เปิดดูถึงกับน้ำตาซึม

พ่อแม่นำรูปตอนรับปริญญาบัตรของน้องจ๋า เมื่อปลายปีที่แล้ว เดินทางมาที่สโมสรตำรวจ เพื่อมาขอความช่วยเหลือจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งรูปนี้ทางมหาวิทยาลัยเพิ่งส่งมาให้เมื่อวานนี่เอง จ่าหน้าพัสดุชื่อน้องจ๋า พ่อแม่เปิดดูมีอารมณ์เกิดขึ้น 2 อย่างพร้อมกัน คือ ปลื้มในความสำเร็จของลูก และเสียใจที่ลูกเสียชีวิตแบบมีเงื่อนงำแบบนี้

ย้อนคดีนี้กันสักนิด น้องจ๋า มีเพื่อนสมัยเรียนซึ่งมีแฟนเป็นชาวมาเลเซีย เพื่อนคนนี้ชักชวนไปเที่ยวที่มาเลเซีย โดยที่พ่อแม่น้องจ๋าไม่ทราบ แต่เริ่มแปลก ๆ เมื่อวันที่ 5 มกราคม น้องจ๋า ส่งข้อความทางไลน์มาหาแม่ว่า "รักเสมอนะแม่ ขอโทษนะแม่ที่ไม่ได้ให้เงิน ไม่ได้กลับไปหาแม่ ขอบคุณนะที่มีแม่และพ่อที่เกิดเป็นลูกพ่อแม่ ขอโทษที่ไม่ได้ไปเจอเลย" กระทั่งวันที่ 8 มกราคม เพื่อนลูกสาวแจ้งมาหาญาติว่า น้องจ๋า ตกตึก 33 ชั้น เสียชีวิตที่มาเลเซีย

พ่อแม่ของน้องจ๋า ขอความช่วยเหลือจากคุณปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ส่งศพลูกสาวผ่าชันสูตรที่สถาบันนิติเวช รอบ 2 เนื่องจากรอบแรกผ่าชันสูตรที่โรงพยาบาลกัวลาลัมเปอร์ ยังไม่ทราบผล ซึ่งเมื่อ 22 มกราคมที่ผ่านมา แพทย์สถาบันนิติเวช ระบุผลชันสูตรเบื้องต้นพบว่า ตามร่างกายมีแผลถลอกฟกช้ำเป็นรอยครูดทั่วตัวที่คาง ไหล่ ก้น หลัง ต้นแขน และขาหนีบ ซึ่งเกิดจากการถูกของแข็งที่ไม่มีคมก่อนเสียชีวิต

อีกทั้งกระดูกกะโหลกด้านหลังแตก กระดูกต้นขาหัก กระดูกข้อเท้าหัก กระดูกเชิงกรานหัก กระดูกสันหลังหัก ซี่โครงซ้าย-ขวา ด้านหลังหัก อวัยวะทุกส่วนหักหมด นอกจากนี้ยังได้ตัดชิ้นส่วนตับเพื่อไปตรวจดูสารพิษ และตัดเล็บไปตรวจหาเนื้อเยื่อ หรือ DNA และทำการเก็บสารคัดหลั่งในช่องคลอด ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจจากห้องแล็บ เพื่อทราบผลอย่างละเอียด

พ่อแม่ของน้องจ๋า ยังเกิดความกังขาในเรื่องรอยช้ำตามร่างกายก่อนเสียชีวิต จึงอยากรู้ว่าผลชันสูตรศพครั้งแรกที่มาเลเซีย เป็นอย่างไร ขอให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ รอง ผบ.ตร. ช่วยขอผลชันสูตรศพจากมาเลเซีย และช่วยสืบสวนทำความจริงให้ปรากฏว่า ลูกสาวเสียชีวิตเพราะอะไรกันแน่

คุณปวีณา บอกว่า เพื่อนสนิทของน้องจ๋า ที่อยู่มาเลเซีย ซึ่งตอนนี้กลับมาประเทศไทย ได้ส่งโทรศัพท์มือถือของน้องจ๋าให้กับพ่อแม่น้องจ๋า ซึ่งได้มอบให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพื่อช่วยแกะรอยสืบสวนเบาะแสที่อาจอยู่ในโทรศัพท์มือถือ พร้อมกับมอบคลิปที่มีให้กับ บิ๊กโจ๊ก ด้วย ซึ่งคลิปนี้ได้จากเพื่อนน้องจ๋าคนที่อยู่มาเลเซีย ซึ่งบันทึกไว้ตอนวิดีโอคอลกับน้องจ๋า ลักษณะเหมือนหวาดกลัวอะไรสักอย่าง และยกมือไหว้

นอกจากนี้ เพื่อนของน้องจ๋าคนดังกล่าว ซึ่งสมมติว่าชื่อ เอ ยังได้โทรศัพท์มาที่มูลนิธิฯ ซึ่งคุณปวีณาได้คุยด้วย จึงถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพื่อนคนนี้เล่าว่า น้องจ๋าไปหาเธอที่มาเลเซีย และได้ไปเที่ยวสถานบันเทิงของแฟนเธอ ซึ่ง น้องจ๋า ได้ออกไปกับคนที่มาเที่ยวในร้าน จากนั้น 2 วันกลับมา มีอาการเบลอ รักษาจนหาย แล้วพาขึ้นไปชั้น 33 ซึ่งเป็นห้องของเธอกับแฟน แล้วตอนนั้นเธอลงมาซื้อของ พอขึ้นไปเห็นน้องจ๋าโดดตึกแล้ว

คดีนี้ บิ๊กโจ๊ก บอกว่า ได้ประสานงานไปยังผู้บัญชาการตำรวจของมาเลเซียแล้ว เพื่อขอผลชันสูตรพลิกศพจากโรงพยาบาลกัวลาลัมเปอร์ และจะเดินทางไปกัวลาลัมเปอร์ เพื่อหาข้อพิสูจน์ว่าร่องรอยบาดแผลตามร่างกายที่ปรากฏนั้นเกิดขึ้นก่อนหรือหลังการเสียชีวิตและคดีนี้จะเป็นการฆาตกรรมหรือไม่ เบื้องต้น ได้สั่งการให้ชุดทำงานไปมาเลเซียแล้ว เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้น ตอนนี้ได้โทรศัพท์มือถือของผู้ตายมาแล้ว คาดว่าจะสามารถสืบสวนหาความชัดเจนได้ต่อไป

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35