แกะรอยอุ้มสังหาร “หนุ่มโรงงาน” จับพิรุธ “ขี้เล็บ” สัมพันธ์ลับรักซ้อน คำสารภาพสุดพีก !

หลังจับกุมตัว “ช่างกิต บางบ่อ” พร้อมพวกแก๊งอุ้มฆ่าหนุ่มโรงงาน พบปมสังหารคือเรื่องชู้สาว เนื่องจากฝ่ายหญิงภรรยาของผู้เสียชีวิตมีความสนิทสนมกับผู้ก่อเหตุ แต่สังคมยังตั้งขอสงสัยว่าฝ่ายหญิงมีส่วนรู้เห็นกับผู้ก่อเหตุหรือไม่

 

วันที่ 2 ก.พ. 67 คุณพงศกร รอดภัย ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสมุทรปราการ ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า จุดเริ่มต้นของคดีนี้ มีการพบศพในวันที่ 29 ม.ค. 67 ตำรวจลงพื้นที่ไปพบหลักฐานจากกล้องวงจรปิดพบว่ามีรถต้องสงสัยมาปาดหน้าและอุ้มผู้เสียชีวิตไปยังจุดที่พบศพ โดยทั้งสองจุดห่างกันกว่า 40 กิโลเมตร และพบว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นคนในพื้นที่ เนื่องจากรู้จักเส้นทางเป็นอย่างดี สืบต่อพบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุมีความสัมพันธ์ที่ดีกับภรรยาของผู้เสียชีวิต

 

 

โดยเฉพาะหัวหน้าแก๊งที่สนิทสนมกับฝ่ายหญิง จึงอาจทำให้สังคมเกิดข้อสงสัยว่าเป็นการสมรู้ร่วมคิดกันหรือไม่ นอกจากนี้ยังพบว่าฝ่ายหญิงยังมีการคบซ้อนกับชายคนอื่นอีก โดยผู้เสียชีวิตที่เป็นสามีไม่เคยรู้มาก่อนจนกระทั่งฝ่ายหญิงไปออกรายการหนึ่ง แต่ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าฝ่ายหญิงภรรยาของผู้เสียชีวิตมีส่วนรู้เห็นกับผู้ก่อเหตุหรือไม่

 

พล.ต.ต. วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล วิเคราะห์สาเหตุการเสียชีวิตของคดีนี้ว่า เป็นการยิงโดยเตรียมการไว้ล่วงหน้าเพื่อฆ่าผู้เสียชีวิต แรงจูงใจจะต้องวิเคราะห์จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นเงินประกันชีวิต หรือเรื่องส่วนตัว เช่น เรื่องชู้สาว ที่พบว่าฝ่ายหยิงเกี่ยวข้องกับชายอื่น 

 

 

ส่วนประเด็นสำคัญที่สังคมสงสัยว่าฝ่ายหญิงรู้เห็นกับผู้ต้องหาในการลงมือก่อเหตุหรือไม่ ซึ่งจะต้องรอผลสอบปากคำแก๊งคนร้าย ตั้งข้อสงสัยเรื่องการส่งไลน์ก่อนที่ผู้ตายจะเสียชีวิต เชื่อว่าเป็นการสร้างหลักฐานที่อยู่ก่อนถูกอุ้ม และสามารถตรวจสอบได้ว่าฝ่ายหญิงมีการโทรหาผู้เสียชีวิตหรือไม่ หรือการโทรของผู้ก่อเหตุว่าโทรหาฝ่ายหญิงหลังก่อเหตุหรือไม่ ซึ่งการโทรจะเป็นหลักฐานสำคัญว่าฝ่ายหญิงรู้เห็นกับผู้ก่อเหตุหรือไม่

 

ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา นักอาชญาวิทยาเชิงจิตวิทยา และพฤติกรรมอาชญากร มหาวิทยาลัยมหิดล วิเคราะห์พฤติกรรมของฝ่ายหญิง ต้องดูจากสถานะทางการเงินว่าเดือดร้อนต้องการเงินจากการเสียชีวิตของสามีหรือไม่ หรืออาจเป็นปัญหาภายในครอบครัว ที่ทำให้ฝ่ายหญิงต้องการมีความสัมพันธ์กับชายอื่น ด้านคุณพงศกร ยืนยันว่าฝ่ายหญิงได้โทรไปบอกแม่ของผู้เสียชีวิต ว่าต้องการเป็นผู้จัดการมรดก แต่เชื่อว่าเป็นเพียงการขอสิทธิตามกฎหมายเท่านั้น

 

 

จากหลักฐานรูปภาพของผู้ก่อเหตุที่โพสต์เกี่ยวกับฝ่ายหญิง เชื่อว่าผู้ก่อเหตุคนนี้จะต้องเคยก่อคดีก้าวร้าวรุนแรงอย่างแน่นอน เนื่องจากการรวมกลุ่มกันเพื่อวางแผนฆ่าคนไม่ใช่เรื่องง่าย คาดว่าผู้หญิงอาจจะไม่รู้ว่าผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมรุนแรงขนาดนี้ การสืบว่าฝ่ายหญิงมีเหตุผลอะไรที่จะต้องมีชายอื่นหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมหรือไม่ สามารถไปสอบกับเพื่อนสนิทของฝ่ายหญิงได้ เชื่อว่าจะได้สาเหตุที่ชัดเจนมากขึ้น ด้านผู้การแต้มเชื่อว่าถ้าหากต้องการฆ่าสามีเพื่อเอาเงิน น่าจะมีวิธีอื่นที่ดีกว่าการอุ้มฆ่า

 

 

คุณพงศกร ได้เปิดเผยว่ามีแหล่งข่าวไม่ประสงค์ออกนาม เปิดเผยว่าฝ่ายหญิงไปอยู่ที่บ้านผู้ก่อเหตุทุกวันหลังจากสามีของตัวเองออกไปทำงานตอนกลางคืน และก่อนเกิดเหตุ 1 วัน ผู้ก่อเหตุได้โพสต์พร้อมกับมีเพื่อนผู้ร่วมก่อเหตุมาแสดงความคิดเห็นกัน เหมือนกับเป็นการเตรียมก่อเหตุล่วงหน้า นอกจากนี้ยังมีภาพสำคัญว่าหลังจากพาฝ่ายหญิงมาดูศพสามีแล้วผู้ก่อเหตุอมยิ้ม ไม่รู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นได้พากันไปอยู่ในบ้านของผู้เสียชีวิตกันสองคน ดร.ตฤณห์ เห็นว่าเป็นพฤติการณ์ที่แปลกมากว่าการเป็นกิ๊กกันแล้วถึงขั้นล้ำเส้น ถึงขั้นรู้ที่อยู่มีคีย์การ์ดเข้าบ้าน เป็นไปได้ยากที่ฝ่ายหญิงจะไม่รู้เห็นกับผู้ก่อเหตุ

 

ติดตาม  รายการ "ถกไม่เถียง"  ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ”  ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.30 - 18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35