จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ว่าการที่พรรคก้าวไกลหาเสียงแก้ไขมาตรา 112 มีความผิดฐานล้มล้างการปกครอง ซึ่งคำวินิจฉัยนี้อาจทำให้ก้าวไกลส่อโดนร้องเรียนให้ถูกยุบพรรค
วันที่ 1 ก.พ. 67 รศ.ดร.นันทนา นันทวโรภาส คณบดีวิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ว่าการแก้ไข ม.112 ของพรรคก้าวไกล เป็นการล้มล้างการปกครอง วิเคราะห์อนาคตของพรรคก้าวไกลว่า ถึงแม้จะไม่มีการตัดสินให้ยุบพรรค แต่บรรดานักร้องเรียนทั้งหลายก็จะได้สารตั้งต้นไปร้องเรียนให้ยุบพรรคก้าวไกลได้ เชื่อว่าผลอาจจะไม่ผิดไปจากการยุบพรรค แต่เชื่อว่าประชาชนจะคอยสนับสนุนต่อไป ไม่ว่าจะยุบพรรคไปกี่ครั้งก็ตาม
รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย มองว่าหลังจากนี้สมดุลทางการเมืองจะเปลี่ยนไป วิเคราะห์ว่าก้าวไกลไม่น่ารอดจากการถูกยุบพรรค แต่คาดว่าไม่ได้เกินความคาดหมายของคนในพรรคก้าวไกล เชื่อว่าพรรคใหม่ของก้าวไกลจะกลับมาชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ในครั้งหน้าอย่างแน่นอน ซึ่งอาจไม่ต้องรอนานถึง 4 ปี เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมือง ที่อาจเกิดการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ตอนไหนก็ได้
อนาคตของการเมืองไทย รศ.ดร.นันทนา ให้ความเห็นว่า ประเด็นเรื่องการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อก้าวไกลอย่างเดียว แต่จะกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ในสังคม ที่จะส่งผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของคนไทยทุกคน ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรี จะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นที่ก้าวไกลได้ลงพื้นที่ไปพอสมควรแล้ว ก็จะทำให้ประชาชนรู้สึกอึดอัดกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แล้วกลายเป็นการแสดงพลังในคูหาเลือกตั้ง ผลการเลือกตั้งท้องถิ่นจะเป็นสิ่งที่สะท้อนความไม่พอใจของประชาชน เชื่อว่าจะไม่มีการลงถนนอย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าการลงถนนไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น
ด้าน รศ.ดร.ธนพร มองว่า อนาคตของการเมืองไทย เห็นว่าก้าวไกลสามารถไปต่อได้หลังถูกยุบพรรค เนื่องจากไม่ได้ใช้เงินทุนในการทำการเมือง หลังจากนี้จะมีการเลือกตั้ง สว. เชื่อว่าจะได้เห็น สว. สีส้มเต็มสภาและจะมีองค์กรอิสระที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญหลายอย่างจะทำให้ชาวต่างชาติไม่เข้าใจ มีผลให้ไม่มีใครอยากจะมาลงทุนในประเทศไทยในภาวะที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ และการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ดูไม่เป็นสากล
รศ.ดร.นันทนา เห็นว่าสิ่งนี้เหมือนกับเหตุการณ์เดจาวู ไม่ต่างจากที่พรรคอนาคตใหม่โดนมาแล้วเมื่อไม่นานมานี้ ความเสี่ยงของ สส.44 คน ที่ยื่นแก้ไข ม.112 นอกจากจะถูกยุบพรรคแล้ว อาจมีความเสี่ยงถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนทรัพยากรบุคคลในพรรคก้าวไกลได้ แต่ รศ.ดร.ธนพร เห็นแย้งว่า ถ้าหาก สส. 44 คนถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต เชื่อว่าจะมีคนใหม่มาทดแทนได้อย่างแน่นอน ส่วนหัวหน้าพรรคคนใหม่ถ้าหากก้าวไกลถูกยุบพรรค รศ.ดร.ธนพร คาดว่าจะเป็นหนึ่งในทีมด้านเศรษฐกิจของพรรคก้าวไกล ด้าน รศ.ดร.นันทนา คาดว่า คนที่เหมาะสมจะนำพรรคต่อไปได้คือ คุณไอติม พริษฐ์ วัชรสินธุ แต่เชื่อว่าคนในพรรคไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่งหรือตัวบุคคล ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะหาหัวหน้าพรรคคนใหม่ และไปต่อได้อย่างมีเสถียรภาพ
อาจารย์ทั้งท่านคนเชื่อว่า หลังจากนี้ทุกพรรคการเมืองจะต้องปรับตัว เล่นการเมืองแบบใหม่ ต้องใช้เงินให้น้อยลง ปรับปรุงคุณภาพของบุคลากรในพรรค ให้ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดียิ่งขึ้น ปรับการสื่อสารการเมืองให้เข้าถึงประชาชนมากขึ้น เพราะทุกวันนี้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้น ดังนั้นนักการเมืองทุกคนจำเป็นต้องรักษาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก
ติดตาม รายการ "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.30 - 18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม