logo เช้านี้ที่หมอชิต

มติเอกฉันท์ “ก้าวไกล” ล้มล้างการปกครอง หาเสียงแก้ ม.112 | เช้านี้ที่หมอชิต

เช้านี้ที่หมอชิต : เช้านี้ที่หมอชิต - บรรยากาศที่ศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวานนี้ ทั้งโศก ทั้งเดือด เพราะมีกองเชียร์ 2 ฝ่ายไปรอลุ้นฟังคำวินิจฉัยกรณี นายพ ข่าว,ช่อง7สี,ช่อง7HD,กด35,ข่าวช่อง7,CH7HD,รายการ,ดูย้อนหลัง,คลิปย้อนหลัง,CH7HDNEWS,ข่าวการเมือง,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวบันเทิง,ข่าวโซเชียล,ข่าวออนไลน์,ข่าวสังคม,ข่าวอาชญากรรม,ข่าวกีฬา,ข่าวภูมิภาค,ข่าวด่วน,ข่าวเด็ด,ข่าวร้อน,ข่าวสด,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ch7 news,เช้านี้ที่หมอชิต,ข่าวเช้า,ข่าวเช้าช่อง 7,เช้านี้ที่หมอชิตวันนี้,เช้านี้ที่หมอชิต ล่าสุด,เช้านี้ที่หมอชิต ช่อง7,TERO Digital

388 ครั้ง
|
01 ก.พ. 2567
เช้านี้ที่หมอชิต - บรรยากาศที่ศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวานนี้ ทั้งโศก ทั้งเดือด เพราะมีกองเชียร์ 2 ฝ่ายไปรอลุ้นฟังคำวินิจฉัยกรณี นายพิธา และพรรคก้าวไกล เสนอการแก้ไข ม.112 เป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งศาลมีมติเอกฉันท์ฟันฉับว่าการกระทำดังกล่าวถือเป็นการล้มล้างการปกครอง
 
มติศาลเอกฉันท์ ก้าวไกล ล้มล้างการปกครอง
เวลาประมาณ 14.00 น. คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยคดีที่ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร อดีตทนายความพระพุทธะอิสระ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่า การกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ขณะเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล และพรรคก้าวไกล ที่เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือไม่
 
โดย ศาลรัฐธรรมนูญ ไล่เรียงที่มาที่ไป รวมถึงแจกแจงข้อกฎหมายต่าง ๆ ก่อนจะวางบรรทัดฐานว่า พระมหากษัตริย์ ทรงอยู่เหนือการเมือง และดำรงความเป็นกลางทางการเมือง การกระทำใดที่ถือเป็นการเซาะกร่อน ทำลาย ถือเป็นการล้มล้างการปกครอง อีกทั้งการแสดงสิทธิเสรีภาพต้องไม่ละเมิดบุคคลอื่นด้วย ต้องไม่กระทบต่อชาติ ความสงบเรียบร้อย และบุคคลอื่น แต่ผู้ถูกร้องทั้ง 2 มีการแสดงออกซ่อนเร้น โดยใช้ มาตรา 112 และมีการรณรงค์มาอย่างต่อเนื่อง ทำเป็นกระบวนการ ทั้งการชุมนุม การยื่นต่อสภา และใช้เป็นนโยบายการหาเสียง จึงไม่ไกลเกินเหตุที่จะล้มล้างการปกครองอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามมาตรา 49 วรรค 1 ศาลจึงมีคำวินิจฉัยว่า การแสดงสิทธิดังกล่าวเป็นการล้มล้างการปกครอง และสั่งให้เลิกการกระทำนั้น
 
ก้าวไกล โต้แก้ ม.112 ไม่เจตนาบ่อนทำลาย
หลังทราบคำวินิจฉัย ทางพรรคก้าวไกล นำโดย นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้แถลงข่าวโต้ทันที ยืนยันว่า พรรคก้าวไกลไม่ได้มีเจตนาเซาะกร่อน บ่อนทำลาย หรือแยกสถาบันพระมหากษัตริย์ออกจากชาติแต่อย่างใด และมีความกังวลในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อการเมืองไทยในระยะยาวอีกด้วย 
 
เรืองไกร รีบซ้ำ! จ่อยื่น กกต.ยุบ ก้าวไกล
สำหรับผลของคำวินิจฉัย แม้ศาลจะสั่งเพียงให้เลิกการกระทำ ไม่ได้สั่งยุบพรรคก้าวไกลอย่างที่หลายคนกังวล แต่ไม่ได้หมายความว่า ขณะนี้ พรรคก้าวไกล ปลอดภัยแล้ว เนื่องจากยังมีดาบสอง และดาบสาม รออยู่ ดาบแรก คือ อาจมีการยื่น ป.ป.ช. ให้ชี้มูล สส. และอดีต สส. 44 คน ที่ลงชื่อเสนอแก้ไข ม.112 ในสมัยสภาชุดที่แล้วว่าผิดจริยธรรมร้ายแรง เพื่อส่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิจารณา โทษอาจถึงตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิตได้
 
ส่วนอีกดาบหนึ่ง คือ การร้อง กกต. ให้ชงศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค จากกรณีกระทำการอันเป็นปฏิปักษ์ล้มล้างการปกครองว่าผิดกฎหมายพรรคการเมืองหรือไม่ ซึ่งในดาบนี้ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ลับคมรอไว้แล้ว
 
โดยเปิดเผยว่า ในวันนี้ (1 ก.พ.) เวลา 10.00 น. จะเดินทางไป สำนักงาน กกต. เพื่อยื่นยุบพรรคก้าวไกล เนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ระบุชัดเจนว่าการแก้ไขมาตรา 112 เป็นการล้มล้างการปกครองถือว่าเข้าเงื่อนไขตาม มาตรา 92 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง
 
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.00-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
รับชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/zxOaqU7ksAo?si=KmqOxpVjmyoQqLNx