อุทาหรณ์ ถูกตำรวจฮ่องกงจับ หลัง “บล็อกเกอร์ดัง” ขอใช้ชื่อเพื่อช่วยโหลดกระเป๋าขึ้นเครื่องบิน พอไปถึงฮ่องกงพบว่าในกระเป๋ามีกัญชาซึ่งเป็นของผิดกฎหมาย ต้องติดคุกฟรีทั้งที่ไม่เกี่ยวข้อง ด้านโซเชียลแฉพฤติกรรม “บล็อกเกอร์ดัง” มีผู้เสียหายเพียบ
วันที่ 31 ม.ค. 67 คุณขนิษฐา ชื่นจิตร์ (แมว) แม่ของซินดี้ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า ตนไม่รู้จักเก็ทมาก่อน ซินดี้เล่าให้ฟังว่ารู้จักเก็ทจากการไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นได้ไม่นาน และได้เดินทางไปฮ่องกงเพื่อทำบุญด้วยกัน เนื่องจากเห็นว่าอีกฝ่ายมีโปรไฟล์ดีน่าเชื่อถือได้ ในตอนแรกแม่จะต้องไปกับซินดี้โดยไม่มีเก็ทไปด้วย แต่ซินดี้ตัดสินใจไปกับเก็ทแม่จึงไม่ได้เดินทางไปด้วย ยืนยันว่าลูกสาวของตนไม่เกี่ยวข้องกับกัญชาแน่นอน
คุณแพรวผกา สุนทะวงศ์ (ปูเป้) เพื่อนของซินดี้ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนรู้จักกับซินดี้ตั้งแต่อนุบาล สนิทกันมาตลอด แต่เก็ทตนไม่รู้จัก เก็ทอ้างว่าจะไปไหว้พระทำบุญที่ฮ่องกง จึงต้องการใช้ชื่อซินดี้โหลดกระเป๋าไปด้วยกัน ซินดี้เดินทางไปวันที่ 19 ม.ค. 67 โดยไม่ได้แจ้งว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ สุดท้ายพบว่าซินดี้ถูกจับกุมตัวที่ฮ่องกงข้อขาลักลอบนำกัญชาเข้าประเทศ ส่วนเก็ทไม่ทราบว่าถูกจับด้วยหรือไม่เนื่องจากติดต่อคนรอบตัวเก็ทไม่ได้เลย จึงพยายามช่วยเหลือซินดี้ผ่านหน่วยงานต่าง ๆ แต่ยังไม่มีความคืบหน้า จึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากสายไหมต้องรอด
ภาพหลักฐานจากกล้องวงจรปิดพบว่าขณะที่ซินดี้กำลังโหลดกระเป๋าขึ้นเครื่องกับเก็ท โดยซินดี้มีกระเป๋าเพียงใบเดียวส่วนเก็ทมีกระเป๋า 5 ใบ จากภาพเก็ทโหลดกระเป๋าแล้วน้ำหนักไม่ผ่าน และพบว่ามีการนำวัตถุต้องสงสัยว่าอาจจะเป็นกัญชาออกจากกระเป๋าของตัวเอง ย้ายไปยังอีกกระเป๋าหนึ่ง จากนั้นเก็ทได้มาขอใช้ชื่อซินดี้มาช่วยโหลดกระเป๋าให้
คุณเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เล่าว่า หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนและดูหลักฐานภาพกล้องวงจรปิดแล้ว เชื่อว่าซินดี้อาจจะไม่รู้เรื่อง และถูกเก็ทยัดกัญชา จึงช่วยประสานงานผ่านนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานต่าง ๆ ในไทย ติดต่อสถานทูตไทยในจีน กงสุลใหญ่ในฮ่องกง ไปช่วยดูแลช่วยเหลือซินดี้ในฮ่องกง หลักฐานสำคัญคือความสัมพันธ์ของซินดี้กับเก็ท ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าซินดี้ไม่มีส่วนรู้เห็นกับเก็ท และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำกัญชาเข้าฮ่องกง เชื่อว่าซินดี้จะได้กลับไทยอย่างแน่นอน แต่อาจจะต้องรอนานนิดหน่อย เพราะกระบวนการยุติธรรมในฮ่องกงจะต้องใช้เวลาพอสมควร
คุณโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี กล่าวว่า จากหลักฐานกล้องวงจรปิดพบว่า ซินดี้ไม่ได้แตะต้องกระเป๋าที่มีกัญชาเลย แต่แท็กกระเป๋าเป็นชื่อของซินดี้ จึงถูกทางฮ่องกงจับกุมตัว เนื่องจากกฎหมายฮ่องกงกัญชาคือยาเสพติด ไทยกับจีนมีข้อกฎหมายความร่วมมือระหว่างประเทศทางอาญา โดยญาติต้องติดต่อซินดี้ให้ร้องขอเจ้าหน้าที่ฮ่องกงทำเรื่องติดต่อขอภาพกล้องวงจรปิดจากไทยเพื่อสอบสวนได้ และสามารถสืบหาความสัมพันธ์ระหว่างซินดี้กับเก็ทได้
ถ้าซินดี้ถูกหลอกให้ใช้ชื่อโหลดกระเป๋าจริงก็อาจจะพ้นผิดและสามารถกลับไทยได้ เชื่อว่าถ้าหากซินดี้ให้การตามข้อเท็จจริง ทางเจ้าหน้าที่ฮ่องกงน่าจะตามหาหลักฐานและตามตัวเก็ทผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว พร้อมให้คำแนะนำว่าถ้าหากถูกดำเนินคดีโดยไม่มีความผิด ไม่ควรรับสารภาพเพื่อให้ได้รับการลดโทษ
ติดตาม รายการ "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.30 - 18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม