ข่าวเย็นประเด็นร้อน - มาตามต่อกับคดี ตำรวจยศร้อยตำรวจเอก ขืนใจนักเรียนสาวอายุ 17 ปี ขณะถูกจับ ไม่มีเงินเสียค่าปรับ 2,000 บาท
สำหรับคดีนี้ เมื่อเช้าวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา น้องผู้เสียหายขี่รถจักรยานยนต์รถไปโรงเรียน โดยมีน้องสาวอายุ 15 ปี ซ้อนท้ายไปด้วย ระหว่างทางก่อนถึงโรงเรียน ได้ถูกตำรวจท่านหนึ่งเรียกให้หยุด หลังจากน้องหยุดรถแล้วตำรวจท่านนั้นได้ยึดกุญแจรถไป พร้อมตั้งข้อกล่าวหาว่าไม่มีใบขับขี่ และไม่สวมหมวกกันน็อก ต้องเสียค่าปรับ 2,000 บาท แต่น้องไม่มีเงินจ่าย ตำรวจจึงพาน้องเข้าไปในห้องเก็บของหลังที่ทำการ ก.ศ.น.อำเภอป่าติ้ว แล้วก็ทำการล่วงละเมิดทางเพศน้อง เรื่องนี้ ร้อยตำรวจเอก กัมปนาท พิมพ์ภู ถูกดำเนินคดีในข้อกล่าวหา พรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร และข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังขู่เข็ญโดยใช้กำลังประทุษร้าย
ต่อมาพนักงานสอบสวน นำ ร้อยตำรวจเอก กัมปนาท พิมพ์ภู ไปยื่นคำร้องฝากขังที่ศาลจังหวัดยโสธร โดยศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวผู้ต้องหาเข้าเรือนจำจังหวัดยโสธรทันที
หลังฐานสำคัญเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด ที่ทำให้คนร้ายดิ้นไม่หลุด เป็นภาพจากกล้องที่อยู่ในตัวอาคารของที่ทำการ ก.ศ.น.อำเภอป่าติ้ว ซึ่งจะเห็นว่าตอนเกิดเหตุ ว่าเป็นเวลา 10.25 น. ร้อยตำรวจเอก กัมปนาท พิมพ์ภู เดินนำหน้าผู้เสียหายออกมาจากมุมห้อง
เมื่อคืนนี้เพจสายไหมต้องรอด ได้นำแชทพฤติกรรมของ ร้อยตำรวจเอก กัมปนาท มาเปิดเผย โดย ร้อยตำรวจเอก กัมปนาท มีหน้าที่เป็นครูแดร์ คอยเข้าไปสอนนักเรียนตามโรงเรียนต่าง ๆ เรื่องการป้องกันตัวจากการถูกคุกคามทางเพศ และเรื่องอื่น ๆ ตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนเด็กนักเรียนหลายคนรู้จัก จะเรียก ร้อยตำรวจเอก กัมปนาท ว่า ครู และมีเด็กบางคนให้ข้อมูลว่าเพื่อนนักเรียนเคยถูก ร้อยตำรวจเอก กัมปนาท ทักมาพูดคุยในข้อความ ลักษณะชู้สาว โดยทำทีเป็นบอกลูกศิษย์ที่เป็นเด็กผู้หญิงว่า มีคนคนอายุเยอะแอบชอบ ถ้าลูกศิษย์อยากรู้ว่าใคร ลูกศิษย์ต้องบอกก่อนว่ารับคนมีอายุมากเป็นแฟนได้
ส่วนคืบหน้าล่าสุดวันนี้ เมื่อเช้าวันนี้ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เดินทางเข้าพบ นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีหน้าที่กำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อประสานขอความช่วยเหลือกรณีเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.5 อายุ 15 ปี เหยื่อรองสารวัตร ในการขอย้ายโรงเรียนเข้ามาเรียนอยู่ในกรุงเทพมหานคร
โดย นายเอกภพ เผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นส่งผลต่อสภาพจิตใจของน้องผู้เสียหาย ทำให้ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ รวมถึงทั้งครอบครัวยังติดใจกับพฤติการณ์ของครูบางคนที่หลังเกิดเหตุ มีการทักข้อความสอบถามเด็กในกลุ่มโรงเรียนว่า ใครถูกกระทำตามที่เป็นข่าว ซึ่งมองว่าพฤติกรรมลักษณะนี้ไม่เหมาะสมอย่างมาก จึงเข้ามาประสานกับทางกระทรวงศึกษาธิการให้ช่วยตรวจสอบและดำเนินการเรื่องนี้
ตนเชื่อว่า อาจมีเหยื่อรายอื่นเพิ่มเติมอีก เนื่องจากนายตำรวจคนนี้ มักได้รับมอบหมายให้ไปเป็นวิทยากรสอนนักเรียนเรื่องเกี่ยวกับยาเสพติด การป้องกันเหตุทางเพศ โดยมีข้อมูลว่าพฤติกรรมของนายตำรวจคนนี้มักเข้าหานักเรียนหน้าตาดี ขอไลน์เด็กนักเรียน และติดต่อไปพูดคุยถึงชู้สาว ซึ่งหลังจากนี้ก็ต้องตรวจสอบเพิ่มเติมว่ามีนักเรียนคนไหนเป็นเหยื่อที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศอีกหรือไม่
ขณะเดียวกันก็ต้องตรวจสอบนายตำรวจคนอื่นว่ามีใครมีพฤติกรรมเช่นเดียวกับ กับตำรวจนายนี้หรือไม่ ขณะเดียวกันตัวเองมองว่าเรื่องนี้ไม่ควรเอาผิดแค่ตำรวจผู้ก่อเหตุเพียงคนเดียว ควรตรวจสอบผู้บังคับบัญชาด้วย ว่าทำไมวันนั้นที่มีการตั้งด่านตรวจ ถึงไม่มีผู้บังคับบัญชาหรือนายตำรวจคนอื่นอยู่ด้วย หรือว่ามีนายตำรวจคนอื่นอยู่ด้วยแล้วรู้เห็นกับเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่
ทางด้าน นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า เบื้องต้นจะให้การช่วยเหลือเยียวยากับครอบครัวของเด็กนักเรียนในเบื้องต้นก่อน เรื่องของการเรียน ทางเราจะประสานไปยังโรงเรียน ว่าจะมีวิธีการไหนช่วยเหลือเด็กใดบ้าง เช่น การเรียนออนไลน์หรือให้ทำรายงานส่งเก็บคะแนน รวมถึงจะส่งเจ้าหน้าที่สำนักความปลอดภัยให้ไปดูแลความปลอดภัยของเด็ก รวมถึงเข้าไปเน้นย้ำเรื่องพฤติกรรมของบุคลากรในโรงเรียน เรื่องของการให้ข่าวกับสื่อมวลชน ตนมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากอาจจะกระทบจิตใจของเด็กผู้เสียหาย
ส่วนที่มีข้อมูลว่านายตำรวจคนนี้เคยเข้าไปสอนนักเรียน แล้วมีพฤติกรรมทักข้อความหานักเรียนอย่างไม่เหมาะสม ก็ฝากประชาสัมพันธ์ว่าใครที่ถูกนายตำรวจคนนี้ทักไปหาเชิงชู้สาว หรือแม้กระทั่งบุคลากรการศึกษาคนอื่นทักข้อความพูดคุยลักษณะเชิงชู้สาว ก็ให้ติดต่อมาที่กระทรวงศึกษาเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และเอาผิดตามกระบวนการต่อไป
ส่วนเรื่องคดีความ เมื่อเช้านี้มีการประชุมในคดีนี้ โดยมี พลตำรวจตรี ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ รองผู้บังคับบัญชาการภาค 3 เป็นประธานในการประชุม หลังประชุมเสร็จได้ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้สอบปากคำผู้เสียหายและแม่ผู้เสียหายเรียบร้อยแล้ว ส่วนสภาพจิตใจจองน้องผู้เสียหายถือว่าไม่ดี ตอนนี้เตรียมแจ้งมาตรา 157 ฐานละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือทุจริตเพิ่มอีก 1 คดี ซึ่งขณะนี้ผู้ก่อเหตุถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำยโสธรแล้ว ส่วนของวินัยร้ายแรงนั้นคือ มีคำสั่งให้ไล่ออกจากราชการแล้ว
แม่ของผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่าขณะนี้ลูกสาวอยู่ในการของนักจิตวิทยาอย่างใกล้ชิด และเมื่อคืนนี้ลูกสาวได้โทรศัพท์มาบอกว่าไม่อยากให้เป็นข่าวอีกแล้วเนื่องจากเพื่อนที่โรงเรีบนมีการแชร์ภาพข่าวเป็นจำนวนมาก ซึ่งน้องได้รับผลทางจิตใจโดยตรงเป็นอยากมาก และที่สำคัญน้องตัดพ้ออยากจะฆ่าตัวตาย
วันนี้ผู้สื่อข่าวไปเจอกับ นายอุทัย จันทะศรี นักการภารโรง ก.ศ.น.อำเภอป่าติ้ว ซึ่งเป็นคนเห็นเหตุการณ์วันวันเกิดเหตุ ได้เล่าว่า ในช่วงเกิดเหตุ ตนเห็นตำรวจและน้องผู้เสียหายยืนอยู่ใต้ร่มไม้หน้าศูนย์ ก.ศ.น. จากนั้นน้องผู้หญิงมาท่าทีขัดขืน เหมือนไม่พอใจ จากนั้นทั้ง 2 คน ได้เดินตามกันออกจากแถวหน้าที่ว่าการอำเภอป่าติ้วไป จากนั้นตนก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35