ข่าวเย็นประเด็นร้อน - สีกากีฉาวอีกแล้ว หลังมีเพจดังออกมาโพสต์แฉ ตำรวจเรียกตรวจนักเรียนสาวอายุ 17 ปี ขณะขี่รถจักรยานยนต์กำลังไปโรงเรียน ตั้งข้อหาไม่สวมหมวกกันน็อก ปรับ 2,000 บาท
คลิปนี้เพจสายไหมต้องรอด โพสต์ลงเรื่องราวนี้เอาไว้ พร้อมระบุข้อความว่า นักเรียนหญิง ม.5 ขับรถจักรยานยนต์ไปเรียนกับน้องสาว ถูกตำรวจเรียกตรวจ พบไม่มีใบขับขี่ ตำรวจเรียก 2,000 บาท น้องไม่มีจ่าย จึงพาไปข่มขืนข้างโรงพัก
พอ เพจสายไหมต้องรอด โพสต์มาแบบนี้ นักข่าวเราก็ต้องตามต่อว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ไหน ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์พูดคุยกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้ความว่า แม่ของผู้เสียหายได้โทรศัพท์มาขอความช่วยเหลือ พร้อมทั้งเล่าเหตุการณ์ทั้งน้ำตาให้ฟังว่า เรื่องเกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ น้องถูกตำรวจเรียกตรวจเรื่องไม่มีใบขับขี่และไม่สวมหมวกกันน็อก แต่น้องไม่มีเงินจ่าย เบื้องต้นตนเองได้ประสานไปยัง พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแล้ว ท่านมีคำสั่งให้ตำรวจที่ก่อเหตุออกราชการไว้ก่อนแล้ว ขณะนี้แม่ของน้องกำลังเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดยโสธร
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถาม แม่ของเด็ก 17 ปี แม่เล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงเช้าของเมื่อวานนี้ น้องผู้เสียหายขี่รถจักรยานยนต์รถไปโรงเรียน โดยมีน้องสาวอายุ15 ปี ซ้อนท้ายไปด้วย ระหว่างทางก่อนถึงโรงเรียน ได้ถูกตำรวจท่านหนึ่งเรียกให้หยุด หลังจากน้องหยุดรถแล้วตำรวจท่านนั้นได้ยึดกุญแจรถไป พร้อมตั้งข้อกล่าวหาว่าไม่มีใบขับขี่ และไม่สวมหมวกกันน็อก ต้องเสียค่าปรับ 2,000 บาท แต่น้องไม่มีเงินให้ เลยบอกตำรวจไปว่าขอจ่ายพรุ่งนี้ได้ไหม แต่ตำรวจท่านนั้นไม่ยอม พาน้องเดินไปตามข้างทาง น้องคิดว่าจะพาไปโรงพักจึงเดินตามไป โดยมีน้องสาวของน้องเดินตามไปด้วยห่าง ๆ พอถึง ที่ทำการ กศน.อำเภอป่าติ้ว ตำรวจได้พาน้องเข้าไปในห้องเก็บของที่อยู่ด้านหลังอาคาร
พอน้องอยู่ในห้องกับตำรวจ 2 คน ตำรวจบอกน้อง ให้เอาเงินมา 2,000 บาท ถึงจะให้ออกไปได้ น้องก็คุยต่อรองว่าตอนนี้ไม่มี เดี๋ยวจะหามาให้ เพื่อเอาตัวรอดออกมาให้ได้ก่อน แต่ตำรวจไม่ยอมปล่อยน้องออกมา ได้ลงมือน้องข่มขืนน้อง แต่น้องไม่ยอมพยายามดิ้นเอาตัวรอด แต่ตำรวจก็เอาปืนขึ้นมาขู่ และใช้กำลังจนสำเร็จความใคร่ หลังจากนั้นตำรวจได้บอกกับน้องว่า พรุ่งนี้ให้มาหาพี่อีกนะ ไม่อย่างนั้นจะต้องเสียค่าปรับ 2,000 บาท
หลังจากน้องออกจากห้องมาได้ ได้โทรศัพท์หาพี่ที่เป็นตำรวจที่รู้จักกัน พี่ที่เป็นตำรวจได้แนะนำว่าอย่าพึ่งอาบน้ำ ให้ไปที่โรงพยาบาลไปตรวจร่างกายเลย น้องจึงทำตาม พาน้องสาวขี่รถจักรยานยนต์ไปที่โรงพยาบาล หลังตรวจร่างกายเสร็จได้พาไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรป่าติ้ว จังหวัดยโสธร
ตนเองได้ฟังเรื่องราวจากลูก รู้สึกเสียใจมาก ที่ตำรวจมาทำกับลูกขนาดนี้ ลูกไม่ใช่คนเกเร เป็นเด็กตั้งใจเรียน ไม่เคยกลับบ้านผิดเวลา เชื่อฟังตายายโดยตลอด ส่วนตนเองทำงานอยู่ในกรุงเทพมหานคร ช่วงปิดเทอมลูกก็จะขึ้นมาอยู่กับตน ตนยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังที่เกิดเหตุ พบที่เกิดเหตุเป็นห้องโล่งกว้าง ลักษณะเหมือนเป็นห้องเก็บของ ไม่มีการล็อกกุญแจ จากสั่งเกตุภายในห้อง พบลายนิ้วมือและรอยเท้าอยู่บนพื้นห้องและบนเก้าอี้ มีทั้งลายนิ้วมือขนาดของคนตัวเล็กและคนตัวใหญ่ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ที่ประจำอยู่ใน กศน. ได้ข้อมูลว่า วันเกิดเหตุไม่มีเจ้าหน้าที่ทำงาน ได้เดินทางไปงานที่จังหวัดกันหมด แต่ได้ล็อกกุญแจห้องไว้ทุกห้อง มีเพียงห้องเก็บของที่อยู่ด้านหลังที่ไม่ได้ล็อกไว้ เพราะไม่ค่อยมีคนเข้าไปใช้ห้องนี้ ไม่คิดว่าตำรวจจะพาเด็กนักเรียนไปทำอนาจารข้างในนี้
ทางด้าน พล.ต.ต.ภิรมย์ สวนทอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร พร้อมด้วย พ.ต.อ.สานิตย์ ไชยสถิตย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร ในฐานะโฆษกตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจจริง ๆ ยศร้อยตำรวจเอก ตำแหน่งรองสารวัตรจราจร และเจ้าตัวยอมรับว่า ข่มขืนเด็กอายุ 17 ปี จริง
ทางด้าน พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ผบ.ตร. ได้สั่งให้ผู้บัญชาการภาค 3 คุมสอบคดีนี้ด้วยตัวเอง ให้สอบเป็นการด่วน ภายในเย็นนี้ต้องทราบข้อเท็จจริง หากพบว่ามีมูลในการกระทำความผิด ก็จะให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อสอบสวนวินัยร้ายแรง
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35