นายจ้างแสบ ! แอบนำชื่อจดทะเบียนบริษัท ถูกเรียกภาษีกว่า 200 ล้านบาท | เบื้องหลังข่าว กับ กาย สวิตต์

446 ครั้ง

29 ม.ค. 2567

แชร์ข่าวไปที่

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งไปสมัครงานเป็นพนักงานในบริษัทนำเข้ารถยนต์ มีหน้าที่คอยตรวจสอบรถ ล้างรถ อยู่ดี ๆ วันหนึ่งมีหมายจาก DSI เรียกให้ไปจ่ายเงินค่าภาษีกว่า 200 ล้านบาท พนักงานล้างรถเจอเหตุการณ์แบบนี้เข้าไปถึงกับงง

เรื่องนี้มีอยู่ว่า นายคำเอี่ยม โพธิวัฒน์ พนักงานล้างรถบริษัทนำเข้ารถยนต์หรูชื่อดังย่านบางนา ถูกเจ้าของบริษัทแอบนำเอกสารการสมัครงานไปจดทะเบียนบริษัท และปลอมแปลงลายมือชื่อ ล่าสุดถูก สรรพากร และ ศุลกากร แจ้งความกับ DSI ดำเนินคดีให้ชำระภาษีมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท หลังเกิดเรื่อง เมื่อรู้ความจริงจึงนำเอกสารไปสอบถามนายจ้าง นายจ้างยอมรับว่าแอบเอาเอกสารสมัครงานไปจดชื่อบริษัทจริง แต่ปฏิเสธความรับผิดชอบ อ้างว่าช่วยไม่ไหว ผู้เสียหายจึงมาร้องให้ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ให้ช่วยเหลือในเรื่องคดีความ

นายคำเอี่ยม โพธิวัฒน์ ผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อ พ.ศ.2548 ตนทำงานอยู่บริษัทนำเข้ารถหรูแถวพระราม 9 มา ตอนนั้นตนอายุเพียง 16 ปี มีหน้าที่ล้างรถยนต์ หลังจากทำงานได้ 2 ปี นายจ้างได้ขอบัตรประชาชนไปเปิดสมุดบัญชี โดยอ้างว่าจะเอาเงินเดือนไปเข้าธนาคารให้ ตนเองก็ไม่ได้คิดอะไรถึงยอมให้ไป แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้เอาเงินเดือนเข้าบัญชีให้ โดยให้เป็นเงินสด ตนก็ไม่ทราบว่าจะเอาไปเปิดสมุดบัญชีเพื่อทำอะไร ตนเองก็ทำงานกับนายจ้างท่านนี้เรื่อยมา

จนกระทั่งเมื่อปี 2560 ได้มีหมายเรียกจาก DSI ให้เข้าไปพบ ในข้อหาร่วมกันทำของที่ผ่านพิธีการศุลกากร เข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงการเสียอากร (เลี่ยงภาษีนำเข้ารถหรูเข้าประเทศ) โดยในหมายเรียกระบุว่าตนเป็นเจ้าของบริษัท ตนจึงนำเรื่องนี้ไปคุยกับเจ้าของบริษัท ทางเจ้าของบริษัทได้ยอมรับว่านำชื่อของตนเองไปจดทะเบียนเปิดบริษัทจริง และบอกว่าไม่มีอะไร เรื่องนี้เป็นเรื่องเล็ก จะเคลียร์กับทาง DSI ให้ และจะรับผิดชอบทุกอย่าง จากนั้นเรื่องก็เงียบไป

ต่อมาวันที่ 13 มีนาคม 2566 ได้มีหมายเรียกจาก DSI มาอีกเป็นข้อหาเดิม และวันที่ 21 มิถุนายน 2566 ก็มีหมายเดิมส่งมาอีก จากนั้นวันที่ 9 ตุลาคม 2566 ก็มีหมายเรียกมาอีกครั้ง โดยเป็นข้อหาเดิม ตนจึงไปถามเจ้าของบริษัทอีกครั้ง เจ้าของบริษัทก็ยืนยันมาตามเดิมว่าจะรับผิดชอบทุกอย่าง มีผู้ใหญ่คอยเคลียร์ให้แล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง

จากนั้นได้มีหมายจากอัยการจังหวัดฉะเชิงเทรา คราวนี้หนักเลย เป็นการเรียกเก็บเงินภาษีย้อนหลังจากการนำเข้ารถหรู เป็นจำนวนเงินกว่า 200 ล้านบาท ตนจึงเข้าไปคุยกับเจ้าของบริษัท แต่คราวนี้ทางเจ้าของบริษัทได้แจ้งว่าไม่สามารถช่วยอะไรได้ เพราะเป็นเงินจำนวนสูง ช่วยไม่ไหว ตนจึงไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครแล้วคราวนี้ จึงเข้ามาขอความช่วยเหลือจากเพจสายไหมต้องรอด

ทางด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า วันนี้ได้พาผู้เสียหายมาร้องเรียนกับ นายกองตรี ดร. ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ ประจำรองนายกรัฐมนตรี พี่หาแนวทางการช่วยเหลือ และหลังจากนี้จะพาผู้เสียหายไปขอความช่วยเหลือจากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ให้ช่วยเหลือในเรื่องการประกันตัวที่ตกเป็นผู้ต้องหา และจะแจ้งความดำเนินคดีกับนายจ้างที่ปลอมแปลงเอกสาร ทำให้ต้องตกเป็นผู้ต้องหา และหากว่าเข้าข่ายความผิดก็จะไปร้องเรียนหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35