อากาศร้อน หลายบ้านค่าไฟพุ่งกระฉูดกว่าเท่าตัว เรียกว่าพอเห็นบิลแล้วหนาวขึ้นมาทันที แต่การจะไปดัดแปลง โกงมิเตอร์ไฟฟ้า ให้เสียค่าไฟน้อยลง หรือลักลอบใช้ไฟหลวงฟรี ๆ นั้น เตือนว่ามีความผิดลักทรัพย์ โทษถึงจำคุกเลยทีเดียว
วันที่ 28 ม.ค. 67 ทรงศักดิ์ จันทร์เพ็ญ (หนุ่ม) เจ้าของบ้าน ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า ตอนนี้ค่าไฟฟ้าจาก 1.9 ล้าน พุ่งเป็น 2 ล้านกว่าแล้ว เพราะมีดอกเบี้ยเพิ่ม เหตุเกิดจากมีชายหญิงคู่หนึ่งมาขอเช่าตึกแถวเพื่อขายของออนไลน์ ต้องการเช่าตึกเพื่อสต๊อกสินค้า โดยให้เหตุผลว่าตึกของตนที่พุทธมณฑลสาย 3 ทำเลดีใกล้ขนส่ง เป็นจุดกระจายสินค้า โดยปกติตึกนี้ตนมีไว้ปล่อยเช่าอยู่แล้ว ก่อนเช่าได้มีการทำสัญญา 3 ปี เดือนละ 8 พันบาท เงินมัดจำและเงินประกันรวม 2 หมื่นบาท มีสัญญาเช่าชัดเจน โดยผู้เช่าจ่ายค่าเช่าตรงเวลาทุกเดือน ผู้เช่าเริ่มเช่าปี 2564 เมื่อครบกำหนดจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ตนก็จะไลน์บอกผู้เช่าเพื่อเตือนว่าถึงเวลาจ่ายค่าน้ำค่าไฟแล้ว เดือน ๆ หนึ่งผู้เช่ามีค่าใช้จ่ายประมาณ 1-2 พันบาท ซึ่งผู้เช่าก็จ่ายตรงเวลาตลอด
จนถึง เดือนมกราคม 2565 มีสายจากการไฟฟ้าโทรมาบอกว่าตึกหลังนี้มีการลักลอบใช้ไฟฟ้า การไฟฟ้าถามตนอีกว่า ตนได้มีการปล่อยเช่าบ้านหรือไม่ ตนตอบใช่เพราะตนกำลังเปิดให้เช่าอยู่ การไฟฟ้าจึงขอหลักฐานการปล่อยเช่า ตนก็ยื่นหลักฐานให้กับการไฟฟ้า ก่อนจะไปแจ้งความที่ สน. แต่ทาง สน. ไม่รับแจ้งความ บอกว่าต้องให้ทางการไฟฟ้ามาแจ้งความเอง ซึ่งตนก็ได้ทำการลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อรอให้ทางการไฟฟ้าดำเนินการแจ้งความ โดยที่ตนรู้เรื่องค้างค่าไฟในเดือนตุลาคม ซึ่งก่อนถึงเดือนตุลาคม ผู้เช่ายังพักอาศัยอยู่และจ่ายค่าเช่าตรงทุกเดือน ซึ่งตนก็พยายามติดต่อการไฟฟ้าตลอดว่าผู้เช่ายังพักอาศัยอยู่ โดยที่ตนไม่ได้คุยกับผู้เช่าเรื่องเงินค้างจ่ายเพราะกลัวผู้เช่าหนี ซึ่งการไฟฟ้าแจ้งกลับมาว่า เจ้าของบ้านไม่มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ต้องถูกดำเนินคดี ตนก็สบายใจขึ้นมานิดหน่อย แต่พอถึงเดือนตุลาคมผู้เช่าก็หนีไปแล้ว ก่อนที่การไฟฟ้าจะส่งบิลตามหลังมาว่าตนมียอดหนี้ต้องชำระกว่า 1.9 ล้านบาท
การกระทำความผิดของผู้เช่าคือ ผู้เช่าได้ทำการเจาะรูตัวบ้านและต่อตรงสายไฟเข้าบ้านโดยที่ไม่ผ่านมิเตอร์ ก่อนจะทำฝ้ามาปิดทับเพื่อทำให้มองไม่เห็น พอเห็นแบบนี้ตนคิดว่าผู้เช่าคงลักลอบใช้ไฟจริง ๆ โดยหลังจากที่ผู้เช่าย้ายออก ตนก็ตามการไฟฟ้าเพื่อที่จะมาดำเนินคดีกับผู้เช่า แต่ไม่มีฝ่ายใดเข้ามาช่วยแก้ปัญหา ตนจึงได้ทำการแจ้งความอีกรอบ ซึ่งรอบนี้ตำรวจรับแจ้งความ ข้อหาลักทรัพย์
สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม กล่าวว่า เจ้าของบ้านไม่ใช้ผู้เสียหายโดยตรง เจ้าของบ้านสามารถร้องทุกข์ได้ว่า คดีนี้รัฐเป็นผู้เสียหาย มีการลักทรัพย์เกิดขึ้น พนักงานสอบสวนต้องทำการสืบสวนสอบสวนดำเนินการตามกฎหมาย อาจจะแจ้งไปทางการไฟฟ้านครหลวง เพื่อจะได้ทำการดำเนินการตามกฎหมายของผู้เช่าที่ลักลอบใช้ไฟ โดยหลักแล้วคดีอาญาที่ยอมความไม่ได้ สามารถร้องทุกข์กล่าวโทษว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้นได้
คดีลักทรัพย์ พนักงานสอบสวนต้องรับคำร้องทุกข์ แล้วพนักงานสอบสวนสามารถเป็นผู้กล่าวโทษได้ สามารถตรวจสอบว่าผู้เช่าได้มีการลักทรัพย์จริงหรือไม่ และสามารถออกหมายจับได้ เพราะเป็นลักทรัพย์ในช่วงเวลากลางคืน ตามมาตรา 335 (1) ทรัพย์ที่ใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะ โทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 7 ปี พนักงานสอบสวนสามารถออกหมายจับได้เลย สุดท้ายถ้าคุณ ทรงศักดิ์ จันทร์เพ็ญ (หนุ่ม) เจ้าของบ้าน มั่นใจว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ไม่ต้องจ่ายเงิน ถ้าการไฟฟ้าแจ้งความกลับก็ยังมีช่องทางสู้คดี ถ้าทางการไฟฟ้าจะฟ้องคดีทางแพ่งต้องรอคดีอาญาให้เสร็จสิ้นก่อน ว่าตัวของเจ้าของบ้านมีส่วนเกี่ยวข้องถึงจะสามารถฟ้องได้ ทางการไฟฟ้าต้องทำการตรวจสอบบุคลากร เพราะตัวของทางเจ้าของบ้านได้แจ้งชัดเจนว่า ตนได้แจ้งหลายครั้งแล้วแต่ทางบุคลากรการไฟฟ้าเมินเฉย เป็นเหตุทำให้เกิดความเดือดร้อนตามมา
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง Weekend” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันเสาร์ และ วันอาทิตย์ เวลา 17.30 - 18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม